ร้อยรักเมียเบอร์2 บทที่5.
ประตูห้องถูกปิดงับลงด้วยมือของคนตัวใหญ่
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะคุณภี คุณกำลังจะแต่งงานนะคะ คู่รักของคุณนอนอยู่บนตึก”
น้ำอิงพยายามท้วงให้ผู้ชายตรงหน้าสำนึกได้
“ฉันเคยบอกเธอแล้วนี่อิง เธอส่วนเธอ ฟ้าส่วนฟ้า”
ชายหนุ่มย่างสามขุมใส่ เขาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ในขณะที่น้ำอิงพยายามหาทางเลี่ยง
“คุณจะหยามอิงยังไงก็ได้ค่ะ แต่คนของคุณคงไม่ยินดีหากรู้เรื่องของคุณกับอิงเข้า” หญิงสาวพยายามเตือนสติ
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครยอมรับได้ หากคนที่เธอปักใจรัก คิดจะปันความรักนั่นให้ใครอีกคน
“อย่าพูดเลยอิง เธอกับฉันมาสานต่อความสุขที่ห่างกันไกลหลายปีดีกว่า ส่วนเรื่องนั้นฉันจะเป็นคนจัดการเอง”
ภีรพลกล่าวเสียงแตกพร่า...เขากระชากน้ำอิงมาใกล้ๆ ก่อนจะตะโบมจูบเรียวปากอิ่มเต็มแรงๆ
หญิงสาวเบิกตาโต ริมฝีปากแดงเห่อสั่นระริก เธอพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ทำได้แค่ส่ายหน้า กัดฟัน และพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งด้วยความละอายใจ
ความอับอายแล่นพล่านไปตามเส้นเลือด “เธอเคยชอบนี่อิง...ฉันจำได้ เสียงครางของเธอทำให้ฉันเตลิดทุกที” คำพูดของเขาเหมือนกับการตีแสกหน้าเธอตรงๆ จริงสินะ... ครั้งหนึ่งเธอเคยชื่นมื่นที่ได้เวียนว่ายอยู่ในห้วงเสน่หาของกันและกัน แต่วันนี้...มันไม่เหมือนเดิม เมื่อภีรพลกลับมาพร้อมกับใครอีกคน เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน และหากเธอยังยินยอมพลีกายให้เขาเหมือนในอดีต เธอคงเป็นคนที่ไร้ศีลธรรม ไร้จิตสำนึก
ครั้งหนึ่งเธอตั้งความหวังไว้...แต่วันนี้น้ำอิงเพิ่งรู้...ความหวังของเธอมันสูงเกินไป!
เมื่อภีรพลถอนเรียวปากออก เพื่อมองหน้าน้ำอิง หญิงสาวช้อนสายตาอ่อนเศร้ามองผู้ชายตรงหน้า ดวงตาเหมือนหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้นภีรพลจึงมองเห็นร่องรอยตัดพ้อจากดวงตาคู่คมตรงหน้าอย่างชัดเจน
“ฉันเคยบอกเธอแล้วนะอิง หากฉันไม่ชอบเธอ ฉันคงไม่มายุ่งด้วย”
ชายหนุ่มหวังใช้คำหวานเพื่อสยบการต่อต้าน
น้ำอิงน้ำตาตก คำหวานหู เหมือนคมมีดที่กรีดบนก้อนเนื้อหัวใจของเธอ เขาไม่มีทางเป็นสามี เป็นพ่อของลูกเธอได้ ถนนที่เธอเดิน กับถนนที่ภีรพลเดินมันคนละเส้นทางกัน
ต่อให้เธอนึกฝันเอาเอง มันก็จะเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ น้ำอิงแค่นยิ้มหยันตัวเอง พลางยกมือดันแผ่นอกแน่นตึงของภีรพล
ชายหนุ่มปัดมืออ่อนนุ่มนั่น เขาเอื้อมรั้งเสื้อสีเรียบบนร่างกายอวบอุ่น ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความผิดบาป เมื่อกาม ราคะ บังหูบังตาจนมืดมัว...
ภีรพลดันเรือนกายอวบงามของน้ำอิงจนล้มคว่ำไปบนเตียงนอน หล่อนรีบพลิกตัวกลับ ปรามบุตรชายเจ้าของบ้านเสียงสั่น
“คุณภีคะ!”
“เงียบได้แล้วอิง หรือเธอจะให้คนงานในบ้านรู้เรื่องของเราทุกคน”
ชายหนุ่มตะคอก กระโจนเข้ารวบร่างอวบอัด พร้อมทั้งตะโบมจูบแบบไม่นับครั้ง ฟอนเฟ้นความครัดเคร่งด้วยสองมือ จนน้ำอิงผวาเยือก ลำตัวแข็งทื่อ
“อย่าใช้ลูกไม้นี้ไม่ได้ผลหรอกนะอิง” ชายหนุ่มกระซิบริมใบหู เขาฉกปลายลิ้นเลียไล้จนน้ำอิงขนลุกซู่!!
“อย่าทำแบบนี้กับอิง ได้โปรดเถอะค่ะ” หญิงสาวพยายามวิงวอน
เรื่องน่าอดสูนี่ไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำ ที่แล้วไปแล้วน้ำอิงจะถือว่ามันเป็นกรรม แต่ความต่ำตมนั่น ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้ง หากเขายังมีความเป็นมนุษย์!!
ภีรพลพลิกกายน้ำอิงนอนคว่ำ รั้งสะโพกผายให้กระดกขึ้น ก่อนจะแทรกความแข็งขึงที่พรั่กพร้อม เขาดันบั้นเอวช้าๆ สูดปากครางแผ่วๆ เมื่อความคับแคบรูดรัดแก่นกายแข็งชัน
“อ่าว์! เยี่ยม เธอยังแน่นเหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด”
เสียงคำรามเยี่ยงสัตว์ป่าดังก้องห้องนอนแคบๆ น้ำอิงซุกใบหน้ากับที่นอนนุ่ม ปล่อยสายน้ำอุ่นร้อนไหลปริ่มออกจากดวงตา ในขณะที่สัดส่วนความเป็นหญิงถูกกระทุ้งหนักๆ เธอกัดฟันกรอดๆ เจ็บร้าวจนน้ำหูน้ำตาเล็ด
น้ำตารินไหลเงียบๆ เรี่ยวแรงอันน้อยนิดหดหาย เธอไม่มีแรงมากพอที่จะจะทานกำลังคนหื่นไว้ได้ ทำได้แค่เพียงนอนนิ่งๆ ปล่อยให้ภีรพลข่มเหงจนพอใจ
เวลากว่าสามสิบนาทีเป็นนรกสำหรับน้ำอิง
แต่สำหรับภีรพลมันคือสรวงสวรรค์ เขาได้ปลดปล่อยความกำหนัด สุขซ่านในรสสัมผัสที่ห่างเหินไปนาน
“หากเธอไม่กลัวว่าคุณแม่ฉันจะเสียใจ เธออยากบอกใครก็ได้นะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้น่ะ”
ชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม หลังอิ่มเอมในรสวาทแสนหวานจากคนคุ้นเคยจนพอใจ ภีรพลปรายตามองเรือนกายเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำอยู่กลางเตียงด้วยความพึงพอใจ
เด็กในบ้าน หน้าตาขี้ริ้ว ตัวดำ ผอมเกร็ง ผมบนศีรษะสกปรกจนต้องเบือนหน้าหนี เนื่องจากไม่มีใคร ไม่มีคนในบ้านใส่ใจ...ไม่คิดว่าพอโตเป็นสาว ความสวยจะเตะตา แม้จะไม่เคยประทินผิว หรืออบน้ำปรุง อบสมุนไพรเหมือนลูกหลานคนมีสตางค์
น้ำตาคือเพื่อนปลอบใจในยามนี้
น้ำอิงกลั้นสะอื้น ยกมืออุดปากไว้ เมื่อไม่ต้องการให้เสียงร่ำไห้สะดุดหูของภีรพล เขาไม่ได้เวทนาเธอ หากแต่จะซ้ำเติมเธอเสียอีก