ร้อยรักเมียเบอร์2 บทที่2...
คุณหญิงถามถึงกำหนดกลับของบุตรชายสุดรัก น้ำอิงชะงัก หากเป็นเวลาปกติ คุณหญิงพวงผกาอาจจับพิรุธของน้ำอิงได้ ดีทว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงไม่ใคร่สบาย
“อิงไม่ทราบค่ะ”
หลังรวบรวมคำพูด หญิงสาวจึงตอบด้วยเสียงแผ่วๆ
คุณหญิงพวงผกาปรือตามองคนข้างตัว นางเห็นแค่ใบหน้าที่ก้มต่ำของน้ำอิงเท่านั้น
ประมุขบ้านจันธกาจถอนใจแรงๆ เกือบ4ปี ที่ส่งบุตรชายไปเรียนต่อ หากไม่เดินทางไปเอง ท่านคงไม่ได้เห็นหน้าบุตรชาย เขาอ้างเรื่องการเรียนทำให้เดินทางกลับบ้านนานๆ ครั้ง...ท่านไม่อยากทักท้วง เมื่อภีรพลคร้านที่จะกลับบ้าน ท่านเองเลยเป็นฝ่ายเดินทางไปหาเขาเอง...
นานวันเข้าเลยกลายเป็นความเคยชิน จากที่เคยกลับปีละครั้ง กลายเป็นว่า3ปีมานี่ บุตรชายของท่านไม่เคยกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดเลย เขาสนุกกับวัฒนธรรมในโลกใหม่ ถึงจะอ้างเรื่องเรียนหนัก มันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด...
เท่าที่รู้...บุตรชายของท่านกำลังติดพันสาวสวยคนหนึ่ง พร่างฟ้า อันตราสิริ บุตรสาวคนเดียวของเจ้าของกิจการส่งออกอาหารทะเลแถบภาคตะวันออก
คุณหญิงเห็นด้วยกับความสัมพันธ์นั่น เลยไม่เคยบ่นเรื่องที่ภีรพลไม่คิดจะกลับมาหาท่าน เพราะเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะจีบสาวให้ติด...
“ลูกคนนี้ ห่วงแต่สาว ไม่เคยห่วงแม่เลย”
เสียงบ่นพึมพำตามมา แต่ไม่ได้จริงจังอะไร เมื่อน้ำเสียงที่ใช้แฝงความเอ็นดู
น้ำอิงสะท้อนในอก ความหวังที่มีริบหรี่ลงทุกๆ วัน คำสัญญาปากเปล่านั้น กำลังจะกลายเป็นแค่เพียงลมที่เคยลอดผ่านปากมา หาใช่คำสัญญาหนักแน่นเหมือนที่เขาเคยรับปากไว้ เธอรู้อยู่เต็มอก แต่พยายามไม่สนใจความจริง มันเป็นความฝันแสนหวาน ที่ผู้หญิงต่ำต้อยคนหนึ่งปรารถนาที่จะให้มันเกิดขึ้นจริง แม้จะมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้แค่1เปอร์เซ็นต์ก็ตาม...
“คุณหมอมาแล้วค่ะคุณหญิง”
หวายเดินยอบกายเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์สูงวัยหน้าตาเอื้ออารี
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกคุณสุขุม” ท่านกล่าวเบาๆ กับนายแพทย์ประจำตัว
“ตรวจหน่อยก็ดีครับท่าน”
เครื่องมือบางอย่างถูกนำออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมมีหูหิ้ว แพทย์ประจำตัวทำงานเงียบๆ ตรวจการหายใจ ตรวจเลือดเพื่อเช็กน้ำตาล ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ มุมปาก “ไม่มีอะไรต้องกังวลครับท่าน ท่านแค่อ่อนเพลีย ควรพักผ่อนมากกว่านี้หน่อย”
“ฉันบอกแล้ว แม่พวกนี้ฟังที่ไหน” คุณหญิงพวงผกาบ่นเสียงอ่อน
“หนูอิงหวังดีน่ะครับ...อย่าโหมงานหนักนักสิครับ ท่านไม่ได้สาวเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ” สุขุมติง คุณหญิงกรำงานมากเกินไป ความจริงอายุขนาดท่าน สมควรพักผ่อนแล้วปล่อยให้ลูกหลานทำงานแทน
“ฉันก็อยากพัก...แต่” คุณหญิงพูดไม่ทันจบประโยค ท่านก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เป็นการตัดบทคำพูด แต่ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าเพราะอะไร
จันธกาจมีท่านเป็นหัวเรือใหญ่ ทายาทก็มีแค่คนเดียวซึ่งกำลังศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวคุณหญิง เมื่อบุตรชายสุดรัก ไม่สนใจเรื่องการผ่อนแรงของท่าน เท่ากับการตามตื๊อสาวสวยคนหนึ่ง ความจริงภีรพลเรียนจบมาปีกว่าๆ แต่เขาเลื่อนการเดินทางกลับ เพราะสาวเจ้าที่เขาติดพันยังเรียนไม่จบ คุณหญิงพวงผกาเฝ้ารอให้บุตรชายกลับมาสานต่อ ท่านจะได้ถอนตัวออกมาพักผ่อน แต่...ยังทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด เมื่อบุตรชายยังรั้งรอสาวคนรักนั่นเอง...
บทที่3.
น้ำอิงนั่งพัก หลังปล่อยให้คุณหญิงพวงผกานอนพักตา เธอคว้าหนังสือเล่มโปรดมาเปิดอ่านต่อ หลังจากถูกขัดจังหวะด้วยการเรียกใช้ของคุณหญิงพวงผกา จนหาเวลาว่างอ่านหนังสือเล่มโปรดที่เพิ่งได้มาไม่จบสักที
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว!!
เสียงร้องกรี๊ดๆ ดังแว่วๆ จนต้องชะโงกหน้ามอง
เสียงเหล่านั้นดังอื้ออึง จนเธอเกรงว่าจะปลุกให้คุณหญิงวัยชราตื่นจากนิทรา
น้ำอิงขมวดคิ้ว ใบหน้าย่น รถยนต์แปลกตา ไม่เคยเห็นแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าโถงประตู มีสาวใช้หลายคนยืนมุง แถมยังมีทีท่ายินดีเสียนักหนา
หญิงสาวเขม้นมอง...ใครบางคนไม่คุ้นตาสักนิด ยืนอยู่ด้านข้างรถยนต์คันนั้น ใบหน้าสวยเฉี่ยวสะดุดตาแม้จะมองจากระยะที่ไกลพอสมควร
“ใครมานะ?” น้ำอิงพึมพำ เธอเติบโตที่จันธกาจ ญาติพี่-น้องส่วนใหญ่ของคุณหญิงพวงผกา น้ำอิงแน่ใจว่าตนเองจำได้ทุกคน แต่สำหรับอาคันตุกะคนที่มานั้น เธอไม่มั่นใจเลยว่าจะรู้จัก
หญิงสาววางมือจากงานตรงหน้า เดินไปรอรับอาคันตุกะที่มาเยือนตามหน้าที่
เสียงคุยดังแว่วๆ ก่อนที่ใครคนนั้นจะเดินมาถึง