รวยแล้วจ้า บ้านข้าขายหมูกระทะ

183.0K · จบแล้ว
คุณหนูหยางเอิน
127
บท
16.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ระหว่างที่เลือกซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์มาทำหมูกระทะฉลองที่ได้เลื่อนตำแหน่งอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันต้องตายอย่างอนาถ! ไม่เพียงแค่นั้นชีวิตยังผกผันไปอยู่ในครอบครัวที่สุดแสนจะรันทด นี่มันอะไรกัน!

นิยายจีนโบราณตลกพลิกชีวิตนางเอกเก่งข้ามมิติอาหารแฟนตาซี จีนโบราณนิยายย้อนยุค

ตอนที่ 1 : ชีวิตที่พลิกผัน

ตอนที่

[1]

ชีวิตที่พลิกผัน

“ท่านพ่อ ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ข้าจะทำอันใดก็เรื่องของข้า ส่วนเจ้าเป็นบุตร มีสิทธิ์มาขึ้นเสียงใส่บิดาเช่นนี้หรือ”

“แต่ท่านแม่กำลังป่วย นี่ท่าน....”

“ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะแม่เจ้า ทำตัวไร้ประโยชน์เอง จะมาโทษอันใดข้า”

ผู้เป็นบิดากล่าวเสร็จก็โอบกอดสตรีอีกนางหนึ่งเพื่อเดินพาไปยังทิศทางของห้องหนึ่งของบ้าน ตามหลังกันนั้นก็มีเด็กสาวที่อายุราวสิบสองหนาวที่เดินตามคนทั้งคู่ไป แต่ไม่วายเด็กสาวผู้นั้นกลับหันกลับมามองเด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตนที่อยู่ด้านหลังอย่างมีความนัยบางอย่าง

ด้านผู้เป็นบุตรชายกลับมองตามบิดาด้วยสายตาผิดหวัง เขา มารดาและน้องสาวทำงานหนักมาโดยตลอดเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว มารดาที่แม้ตั้งครรภ์อ่อน ๆ ก็ยังต้องทำงานหนักท้ายที่สุดก็แท้งเสียเลือดมาก จนแทบเอาชีวิตไม่รอด ดีที่เบื้องบนยังเมตตาแต่ก็ไม่พ้นกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง นอนล้มป่วยตัวซีดเซียวไร้เรี่ยวแรงมาเป็นเวลากว่าหกเดือนแล้ว

น้องสาวก็เช่นกันเมื่อเจ็ดวันก่อนหลังจากที่พวกเขาสองพี่น้องช่วยกันระบายน้ำออกจากนาข้าว จู่ ๆ น้องสาวก็หน้ามืดและล้มลงศีรษะกระแทกกับคันนาอย่างแรงจนสลบไปหลายวัน ท่านหมอบอกว่าเป็นเพราะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอและหักโหมงานหนักจนเกินไป อีกทั้งยังกำชับว่าให้พักผ่อนให้มาก กินอาหารให้เพียงพอและอย่าทำงานหนักในระยะนี้อีก หลังจากที่ท่านหมอกลับไปบิดาก็บ่นไม่หยุดที่เขาใช้เงินสิ้นเปลืองในการรักษาสตรีไร้ค่าสองคน ทั้งที่บิดานั้นไม่ได้เป็นผู้มีส่วนในการหาเงินสักนิด ส่วนเขาในฐานะบุตรชายและพี่ชาย รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ทั้งมารดาและน้องสาวต้องพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะน้องสาว ที่รูปร่างบอบบางแต่ก็ยังต้องมาทำงานหนักกับเขา แต่ทำอย่างไรได้คนที่ต้องทำงานก็มีเพียงพวกเขาสองพี่น้องเท่านั้น ผลผลิตที่ได้ในแต่ละครั้งนอกจากครอบครัวของตนเอง ยังมีครอบครัวใหญ่ที่ประกอบไปด้วยท่านปู่ ท่านย่าครอบครัวของท่านลุงใหญ่และท่านลุงรอง ที่พวกเขาจะต้องแบ่งผลผลิตทางการเกษตรไปให้ ด้วยกล่าวเป็นค่าเช่าที่ดิน แต่ส่วนแบ่งกลับมิใช่ส่วนน้อยแต่เป็นส่วนมาก

ยามนี้บิดาที่ไม่เคยต้องทำงานหนักอันใดยังพาสตรีอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านอีก เขาอ้างว่าเป็นเพราะมารดาป่วยหนักไม่สามารถทำหน้าที่ของภรรยาได้ เขาจึงต้องหาผู้อื่นที่สามารถทำได้มาทำหน้าที่แทน ที่จริงแล้ว

‘จูกุ้ยหยาง’ คิดว่าไม่ใช่โดยสิ้นเชิงเพราะแม้จะกลับจากทำงานจะเหนื่อยเพียงใดแต่การที่มารดาตั้งครรภ์น้องคนเล็กนั่นก็เป็นเพราะมารดายินยอมให้เขามิใช่หรือ แต่ถึงกระนั้นบิดาก็ยังคงออกไปสานสัมพันธ์นอกบ้านกับแม่หม้ายลูกติดที่เป็นบุตรสาวของผู้นำหมู่บ้าน เช่น สวีต้าต่านผู้นั้นอยู่ดี

ด้าน ‘จูกุ้ยหยวน’ มองเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วกลอกตาอยู่เพียงผู้เดียว นี่นางกำลังอยู่ในละครน้ำเน่าเรื่องใดกัน เหตุใดชีวิตถึงได้รันทดเช่นนี้! แม่ที่ทำงานหนักมาตลอด แท้งบุตรจนล้มป่วยไม่สามารถทำอันใดได้อีก แม้กระทั่งจะลุกลงจากเตียง พ่อจอมขี้เกียจก็ไม่ไยดีหนำซ้ำยังพาเมียน้อยที่มีลูกติดที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับบุตรสาวตนเองมาอยู่ในบ้านด้วยกัน อีกทั้งยังให้ยกห้องของบุตรสาวแท้ ๆ ให้กับลูกติดเมียน้อยและให้บุตรสาวบุตรชายบุตรสาวที่ทำงานหนักเลี้ยงครอบครัวมาตลอดย้ายไปอยู่ห้องเล็ก ๆ ห้องเดียวกันรวมกับมารดาที่ป่วยอีก ทั้งที่บุตรชายบุตรสาวก็อยู่ในวัยเติบใหญ่มิสมควรอยู่ห้องเดียวกันแล้ว

แต่เพราะเดิมทีนิสัยของทั้งสามแม่ลูกไม่ได้มีปากเสียงอันใด ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไป แม้แต่โดนครอบครัวบ้านใหญ่เอาเปรียบเรื่องผลผลิต ยังไม่ตอบโต้อันใดได้แต่จำยอมทำเช่นนั้นไม่มีข้อโต้แย้ง ผลผลิตหลังจากที่แบ่งไปแล้วก็เหลือน้อย ต้องกินอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แถมยังต้องทำงานหนักตลอดทั้งปีอีก

คำถามคือ...แล้วนางเกี่ยวอันใดด้วย นางไม่ใช่คนในครอบครัวนี้ ไม่สิ ไม่ใช่คนในโลกนี้ด้วยซ้ำ!!

เมื่อสามวันก่อนนางฟื้นขึ้นมาในสถานที่แปลกใหม่ ที่ทั้งเล็กและอับ ด้านหน้านางคือบุรุษแปลกหน้าที่หน้าตามอมแมม เต็มไปด้วยโคลน นางสอบถามเขาว่าไปทำอันใดมา จึงได้ความว่าเขาเพิ่งกลับจากทำนาเพียงผู้เดียว และทำมาสองวันแล้วตั้งแต่นางสลบไป สุดท้ายนางก็ต้องไปช่วยเขาระบายน้ำออกจากนาด้วยสภาวะงุนงง และนางไม่เคยจะทำมันมาก่อนด้วยซ้ำ มันเป็นงานที่ทั้งหนักและเหนื่อย แถมยังต้องเนื้อตัวเลอะเทอะ พื้นที่ก็มากมายและต้องทำให้เสร็จอย่างรวดเร็วเพราะอีกเจ็ดวันก็จะต้องเก็บเกี่ยวแล้ว

และผู้ใดคือผู้ที่ต้องเก็บเกี่ยว คำตอบก็คือเขาและนาง กับที่นามากมาย ต้องทำด้วยกันเพียงแค่สองคน!!

นี่มีใครกำลังเล่นตลกกับชีวิตของนางกัน ก่อนหน้านี้นางกำลังอยู่โซนเครื่องปรุงในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของไปทำน้ำจิ้มหมูกระทะเพื่อฉลองที่ได้เลื่อนตำแหน่งกับเพิ่มเงินเดือนอยู่เลย แต่จู่ ๆ ก็ฟื้นมาในยุคโบราณที่ยากจน ไม่พอยังต้องมาทำนาอีก บอกนางที นี่มันอันใดกัน

ย้อนกลับไปก่อนหน้า

หลังจากที่เลิกงานและได้รับข่าวดีจากผู้จัดการแล้วว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งและได้เพิ่มเงินเดือน ‘หยก’ ก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่รีบโทรไปหาข้าวปั้น เพื่อนสนิทสาวประเภทสองที่เดิมชื่อว่ากำปั้น แต่พอเข้าเมืองกรุงก็เปลี่ยนเป็นข้าวปั้นให้ดูน่ารักและดูมีชาติตระกูลขึ้นในความคิดของตนเอง

“นี่คุณนังข้าวปั้น ฉันจะได้เลื่อนขั้นกับเพิ่มเงินเดือนเว้ย ดีใจโคตร ๆ วันนี้แกมาห้องฉันเลย เดี๋ยวทำหมูกระทะให้กิน”

“เอ้อ ดีใจด้วยนะแก” ปลายสายเว้นช่วงไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับมา หยกที่มัวแต่ดีใจจึงไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิทแม้แต่น้อยว่าไม่ร่าเริงเช่นเดิม

“งั้นก็รีบมา วันนี้แกห้ามพลาดหมูกระทะสูตรเจ๊หยกคนสวยเด็ดขาด ตอนนี้ฉันเพิ่งเลิกงาน เดี๋ยวฉันไปซื้อวัตถุดิบก่อน ได้ข่าวว่าห้างเวลล์จัดโพรโมชันลดราคาหมูกับพวกเครื่องปรุงพอดี ใช่สิ ต้องรีบแล้วเดี๋ยวไม่ทันโพร แค่นี้ก่อนนะแก” ถึงแม้ว่าที่ทำงานจะอยู่ใกล้กับห้างแต่เธอต้องรีบ เพราะเวลามีโพรโมชันคนจะรีบไปแย่งชิงกัน เพราะมีแต่ของดี ๆ

ข้าวปั้นที่เพิ่งได้สติว่าเพื่อนกำลังจะไปที่ใดก็รีบพูดขึ้น “หยกอย่าไปห้างเวลล์ช่วงนี้...”

ตู้ด ตู้ด ตู้ด

แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะหยกวางสายไปแล้ว คิดได้ดังนั้นจึงรีบโทรกลับไปทันที แต่ก็ไร้วี่แววการรับสายจากเพื่อนสาวคนสนิท เขาจึงรีบหยิบกุญแจรถแล้วไปหาเพื่อนสนิททันที พร้อมทั้งภาวนาว่าขอให้อย่าเพิ่งเกิดอะไรในวันนี้เลย...

แต่เหมือนว่าข้าวปั้นจะช้าไป....เพราะเพียงแค่สิบห้านาทีหลังจากวางสาย ก็เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นและไม่นานข่าวจากสำนักข่าวช่องต่าง ๆ ก็เริ่มรายงานข่าวกันอย่างถ้วนหน้า และโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นไม่หยุดเช่นกัน

“รายงานข่าวด่วน เกิดเหตุห้างถล่มที่ห้างเวลล์ห้างใหม่ทันสมัยใจกลางกรุง ที่ถูกสร้างเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น จู่ ๆ ในช่วงเย็นของวันนี้ก็เกิดการทรุดตัวของอาคารอย่างกะทันหัน มีสายข่าววงในกล่าวว่าสาเหตุเกิดจากโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานและมีการทุจริตที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างทำให้มีเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตอนนี้ความเสียหายเริ่มขยายขึ้นเป็นวงกว้าง แต่ที่ชัดเจนที่ดูจะเสียหายมากที่สุดก็จะเป็นโซนซูเปอร์มาร์เก็ต โดยเฉพาะแผนกเครื่องปรุงและวัตถุดิบ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเคลียร์พื้นที่และทำการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ภายในอย่างเร่งด่วน รวมถึงมีการประกาศให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากจากพื้นที่โดยเร็ว.....”

มือของข้าวปั้นสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขารีบตัดสายจากคนที่โทรมา ‘ทีมวิศวกรจีโอ’ และรีบต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากปลายสายเลยแม้แต่น้อย

จวบจนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง.....

ข่าวจึงรายงานว่า.... “ขณะสามารถช่วยเหลือผู้ที่ผู้ภายในออกมาได้เกือบทั้งหมด แต่ก็เรื่องน่าเศร้าสลดเกิดขึ้นเพราะพบร่างผู้เสียชีวิตหนึ่งราย ระบุตัวตนได้ว่าเป็น นางสาวหยก หยกมณี ตรีรักษ์...”

สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ร่วงลงจากมือ พร้อมทั้งเสียงร่ำไห้อย่างสะอึกสะอื้นอย่างไม่อายใครของข้าวปั้นวิศวกรหนุ่มอนาคตไกล เป็นเพราะเขาเอง หากเขาเตือนเพื่อนให้เร็วกว่านี้ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เขามัวแต่ช็อกเพราะเพิ่งรู้ว่าโครงการที่ตนได้เป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างนั้นถูกหัวหน้าทีมและเพื่อนร่วมงานอีกสองคน รวมหัวกันยักยอกงบประมาณและทำการสับเปลี่ยนวัสดุในการก่อสร้างให้เป็นสินค้าที่ด้อยคุณภาพลง

ที่จริงเขายังได้รู้อีกว่ายังมีผู้ที่ตำแหน่งใหญ่กว่าหัวหน้ามีส่วนรู้เห็นในการทุจริตครั้งนี้อีกด้วย เขามัวแต่คิดว่าจะทำอย่างไร จะเปิดโปงแล้วชีวิตเขาหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร เขาเป็นเพียงพนักงานตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จะสู้กับคนที่มีอำนาจมากกว่าได้อย่างไร ในระหว่างที่ทั้งสับสนและวุ่นวายใจอยู่นั้น สิ่งที่เพิ่งนึกขึ้นได้และรู้สึกกลัวมากที่สุดนั่นก็คือหากมันพังลงมาจะเกิดอะไรขึ้น... สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ

“ฉันขอโทษนะหยก ฮือ ๆ”

ในค่ำคืนนั้นจูกุ้ยหยวนก็ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ในฝันเช่นกัน