บทที่ 3 การเยาะเย้ยของแฟนสาว
บทที่ 3 การเยาะเย้ยของแฟนสาว
“หยุดเดี๋ยวนี้ !”
ชือฮุยรีบเดินเข้าไปตรงหน้าฉินหลั่ง ไม่รอให้เขาได้เปิดปากพูด หยางซือฉีก็เขย่าบัตรวีไอพีที่อยู่ในมือ แล้วพูดกับชือฮุยด้วยดวงตาเปล่งประกาย “ผู้จัดการคะ ดูนี่สิคะ เจ้าหมอนี่กล้าขโมยบัตรที่อยู่ในห้องวีไอพีของคุณ !” บนใบหน้าของหยางซือฉียังประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะอีกด้วย
ตอนนี้เธอได้กอบกู้ชื่อเสียงและความสูญเสียให้กับธนาคารแล้ว ชือฮุยจะต้องกล่าวชื่นชมเธอแน่นอน !
ชือฮุยค่อนข้างมีอำนาจในธนาคารซิตี้แบงก์เขตภาคตะวันออก ถ้าตอนไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ เขากล่าวชื่นชมตัวเองสักคำสองคำ ก็มีความหวังที่จะได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว
หยางซือฉีวาดฝันอย่างสวยหรู แต่พอเธอสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของชือฮุยบึ้งตึงมาตลอด อีกทั้งยิ่งอยู่ก็ยิ่งมืดมน เธอยังไม่ทันเข้าใจว่าทำไม ก็ถูกเสียงคำรามของชือฮุยทำให้กลัวจนตัวสั่นเสียก่อน
“รีบปล่อยคุณฉินเดี๋ยวนี้ !” ในขณะที่คำราม ชือฮุยก็คว้าบัตรวีไอพีมาด้วย
หยางซือฉีตกใจจนช็อก เลยเผลอปล่อยฉินหลั่งอย่างไม่รู้ตัว ชือฮุยผลักหยางซือฉีออกไปทันที ก่อนจะโค้งตัว30องศา แล้วยื่นบัตรวีอีพีออกไปด้วยสองมือ “คุณฉินครับ บัตรของคุณ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ที่ผมไม่ได้สั่งสอนลูกน้องให้ดี ต้องขอโทษคุณด้วยนะครับ”
เห็นสีหน้าของชือฮุย นั่นเรียกได้ว่าเคารพ ละอาย กระวนกระวายใจ !
หยางซือฉีกับผู้คนโดยรอบเห็นแล้วต่างก็นิ่งอึ้งไปทันที
บัตรวีไอพีใบนี้เป็นของเขาจริงๆหรือ ?
หยางซือฉีเบิกตาโต แข็งทื่อราวกับงานประติมากรรม ไม่ว่ายังไงสมองของเธอก็ไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
บัตรวีไอพีนั้นบ่งบอกว่าในบัญชีอย่างน้อยจะต้องมีเงินฝากขั้นต่ำสามสิบล้านขึ้นไปเชียวนะ !
ดูแล้วเขาน่าจะอายุไม่เกินยี่สิบปีด้วยซ้ำ ทั้งตัวดูซอมซ่ออย่างกับพวกยาจก จะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไง
ไม่ว่าจะดูยังไงก็ละเมอเพ้อพกชัดๆ
“มันไม่ใช่ความผิดของพี่หรอก พี่ชือ” ฉินหลั่งหย่อนบัตรลงในกระเป๋า แล้วพูดเสียงเรียบ
“ขอบคุณมากครับคุณฉิน” ชือฮุยก้มหัวลงต่ำกว่าเดิม ค้างอยู่2วินาที ก่อนจะยืดตัวขึ้น แล้วหันไปตะคอกใส่หยางซือฉี “เธอจะยืนบื้ออยู่ทำไม รีบขอโทษคุณฉินเดี๋ยวนี้ !”
หยางซือฉีไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้เธอจะไม่เข้าใจได้อย่างไร ฉินหลั่งที่อยู่ตรงหน้าคือคนร่ำรวยตัวจริงเสียงจริง
หยางซือฉีได้สติกลับมา ก่อนจะโค้งคำนับ90องศา “คุณฉินคะ ฉันต้องขออภัยเป็นอย่างสูง สำหรับพฤติกรรมที่หยาบคายเมื่อครู่นี้ เป็นเพราะฉันมีตาแต่หามีแววไม่ และลงไม้ลงมือกับคุณอย่างไร้เหตุผล มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันจะทบทวนตัวเองอย่างจริงจังค่ะ......”
ฉินหลั่งเดินผ่านตัวเธอออกไป ไม่อยากจะสนใจเธอเลยสักนิด
“คุณฉินครับ ถ้าต่อไปต้องการอะไร ก็โทรหาผมได้ตลอดนะครับ ผมจะทำให้สุดความสามารถของผมเลย”
ชือฮุยพยายามรักษาโอกาสที่ได้พบกับฉินหลั่งในครั้งนี้อย่างเต็มที่ บุคคลระดับนี้ ต่อไปคงยากที่จะได้เจออีกครั้ง เลยพยายามเอาอกเอาใจอย่างไม่ปิดบัง
“ได้ครับ พี่ชือ” ฉินหลั่งยิ้มบางๆ และตอบกลับไปคำหนึ่ง เมื่อกี้ได้ชือฮุยช่วยไว้แท้ๆเลย
คำว่า “พี่ชือ” ทำให้ชือฮุยถึงกับตัวลอย คนที่มีเงินในบัญชีหนึ่งพันสี่ร้อยล้านเรียกเขาว่าพี่เลยนะ คุณชายหนุ่มคนนี้แต่งกายเรียบง่าย กิริยาท่าทางก็เรียบง่ายมาก ไม่มีวางท่าอะไรเลย
เมื่อพูดจบ ฉินหลั่งก็ก้าวเท้ายาวๆไปข้างถนนทันที แล้วโบกมือเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง กลับไปที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง
ตอนที่เดินเข้าไปในตึกเรียน ก็บังเอิญเหยียบแอ่งน้ำหน้าประตูเข้า ทำให้ขากางเกงเปื้อนโคลนไปทั่ว
เสียงระฆังดังขึ้นแล้ว เลยต้องรีบตรงไปที่ห้องเรียน โม่มั่นอีที่รูปร่างสง่างามกำลังสอนอยู่บนแท่นบรรยาย พอเหลือบไปเห็นฉินหลั่ง ในดวงตาก็ฉายแววผิดหวังออกมา
ฉินหลั่งก้มหน้า รู้สึกผิดในใจ
โม่มั่นอีเป็นคนที่ดีกับเขาที่สุด ในหมู่อาจารย์ทั้งหมด เพราะไม่มีเงิน อาจารย์คนอื่นๆ ก็เลยไม่ค่อยสนใจเขา บางคนถึงกับล้อเลียน มีแต่โม่มั่นอีที่ปฏิบัติต่อเขาและนักเรียนคนอื่นๆอย่างเท่าเทียมกัน
ฉินหลั่งไม่พูดอะไร เดินเข้าไปในห้องเรียน สายตาของนักเรียนทุกคนต่างจับจ้องมาที่ตัวเขา
“เจ้ายาจกปกติไม่เคยมาสายนี่นา วันนี้พระอาทิตย์ต้องขึ้นจากทิศตะวันตกแน่ๆ ถึงได้มาสายแบบนี้”
“นายดูกางเกงเขาสิ แม่เจ้า สกปรกที่สุด ไม่รู้จักเปลี่ยนตัวใหม่บ้างหรือไง”
“เขามีเงินเปลี่ยนสักที่ไหน นี่นายกำลังพูดเรื่องตลกระดับโลกอยู่หรือไง ดูเหมือนว่าเขาจะมีเสื้อผ้าแค่สองชิ้นนะ”
นักศึกษาวิทยาลัยเข้าเรียนอย่างเป็นกันเองมาก เด็กผู้ชายหลายคนเริ่มแสดงความคิดเห็นกันอย่างออกรส เด็กผู้หญิงที่อยู่แถวหน้าเอง ก็ป้องปากซุบซิบคุยกันเสียงเบา สายตาที่มองฉินหลั่งเต็มไปด้วยแววดูถูก และเหยียดหยาม
“หยุดคุยกันได้แล้ว !” โม่มั่นอีพูดเสียงดังออกมาคำหนึ่ง “พวกเราเริ่มเรียนกันต่อเถอะ”
ในระหว่างการบรรยาย ฉินหลั่งก็พบว่าโม่มั่นอีคอยหันมามองเขาอยู่หลายครั้ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความ “ไม่ได้ดั่งใจ” อยู่ในนั้น
คลาสใหญ่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“จบคาบ”
ระฆังเลิกเรียนดังขึ้น โม่มั่นอีจัดหนังสือเรียนเรียบร้อย ก็เดินออกไปทันที
“เหวินจี้ง” มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาทางประตูหลัง
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างมองไปตามทิศทางของเสียง ก็เห็นว่า ผู้ที่มาเยือนก็คือจูจี้เหวิน
จูจี้เหวินเดินเข้ามาจากประตูหลัง เดินตรงไปทางเส้เหวินจี้งที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เส้เหวินจี้งยื่นมือทั้งสองข้างไปโอบรอบตัวเขาอย่างออดอ้อน จูจี้เหวินโน้มหน้าตามลงไป แล้วทั้งสองคนก็จูบกันทั้งอย่างนั้น
เมื่อเห็นฉากนี้ ก็มีเพื่อนร่วมชั้นหลายคนหันมามองทางฉินหลั่ง ทุกคนต่างก็รู้ว่า ก่อนหน้านี้ฉินหลั่งเป็นแฟนของเส้เหวินจี้ง แต่ยังไม่รู้ว่าเส้เหวินจี้งเลิกกับฉินหลั่งแล้ว
ส่วนฉินหลั่งก็แค่รู้สึกคลื่นไส้ เขาเคยได้ยินจากเพื่อนร่วมหอพักของเขา ว่าจูจี้เหวินเคยพาผู้หญิงอย่างต่ำห้าคนเข้าไปในหอพักของมหาวิทยาลัย เส้เหวินจี้งเจอคนแบบนี้ ฉินหลั่งรู้สีกเสียดายแทนเธอจริงๆ
จูจี้เหวินโอบรอบเอวของเส้เหวินจี้ง แล้วเดินผ่านหน้าฉินหลั่งไป
“ที่รักคะ ช่วยรอฉันแปบหนึ่งนะ” เส้เหวินจี้งพูดจบ ก็เดินไปตรงหน้าฉินหลั่ง แล้วยื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งออกไป “ในเมื่อฉันเลิกกับนายแล้ว ฉันเส้เหวินจี้งก็ไม่อยากติดค้างอะไรนายอีก นี่เป็นโทรศัพท์ที่นายซื้อให้ฉันเมื่อครึ่งเดือนก่อน ฉันคืนให้นาย”
ฉินหลั่งเหลือบไปมองทีหนึ่ง มันคือvivox27ที่ก่อนหน้านี้ตัวเองซื้อให้เส้เหวินจี้ง เขารับมันมา
“หึ ทำงานพาร์ทไทม์ตั้งครึ่งปีแต่ซื้อได้แค่vivox27” เส้เหวินจี้งล้วงโทรศัพท์สีขาวใหม่เอี่ยมออกมาจากกระเป๋า แล้วโบกไปมาตรงหน้าฉินหลั่ง “ตอนนี้ฉันมีiphonexรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว น่าใช้กว่าvivox27เครื่องนั้นของนายเยอะเลย !”
“ยังจะต้องพูดอีกเหรอ ยาจกอย่างเขาก็คู่ควรแค่vivox27เท่านั้นแหละ”
จูจี้เหวินเชิดคางขึ้น ชำเลืองมองฉินหลั่งทีหนึ่ง “ฉันได้ยินเหวินจี้งบอกว่า เธอขอโทรศัพท์กับนายมาครึ่งปีแล้ว สุดท้ายนายก็ซื้อvivoให้เธอ พี่ชาย นายไม่อายบ้างหรือไง สภาพแบบนี้ยังอยากจะควงสาวอีก เลิกคิดซะเถอะ ใช่แล้ว ฉันเตือนนายไว้ก่อนนะ ต่อไปอย่าคิดจะมาตอแยกับเหวินจี้งอีก ถ้าฉันรู้เข้า นายจะต้องเสียใจแน่”
“หยุดคุยกับยาจกแบบนี้เถอะ พวกเราไปกินข้าวที่เซียนหย่าจุนกันเถอะ” ตอนนี้เส้เหวินจี้งไม่แคร์ฉินหลั่งเลยสักนิดแล้ว
“เรียกสามีให้ฟังสักคำสิ” จูจี้เหวินพูดยิ้มๆ
“สามีขา พวกเราไปกันเถอะ” เส้เหวินจี้งยิ้มออดอ้อน
“เหวินจี้ง !”
ผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งยืนขึ้นมา มองหน้าเส้เหวินจี้งด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เธอทำเกินไปแล้วนะ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าเลิกกับฉินหลั่ง เลิกกันแล้วเธอยังมาพูดแบบนี้ใส่อีก ฉันรู้สึกอับอายแทนเธอจริงๆ !”
“หลี่เสี้ย เธอพูดอะไรของเธอ” สีหน้าของเส้เหวินจี้งเปลี่ยนไปทันที
ตอนที่เธอยังคบกับฉินหลั่ง ก็ยังถือว่าสนิทกับหลี่เสี้ยอยู่บ้าง
หลี่เสี้ยเป็นคนตรงไปตรงมา บางครั้งที่เธอกับฉินหลั่งทะเลาะกัน ก็ต้องคอยให้หลี่เสี้ยมาช่วยตัดสินถูกผิดให้
“เธอกล้าทำแบบนี้เพื่อคนอย่างจูจี้เหวิน กล้าทิ้งฉินหลั่ง ฉินหลั่งทำดีกับเธอขนาดไหนเธอลืมไปแล้วหรือไง ตอนที่เธอไม่สบาย นอนอยู่บนเตียงลุกไม่ได้ ฉินหลั่งคอยเอาอาหารเช้ากลางวันเย็นไปให้เธอถึงหนึ่งเดือนเต็ม ตอนไปฝึกงานที่เขาอู่หลง เธอเกิดเท้าพลิกบนเขา ฉินหลั่งแบกเธอเดินลงเขาถึงสิบกิโล ถึงแบกเธอลงมาถึงด้านล่าง เธอลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้วหรือไง”
“งานพาร์ทไทม์ของฉินหลั่งได้เงินน้อยอยู่แล้ว ทุกเดือนยังต้องให้เธอแปดร้อยหยวน เธออยากได้โทรศัพท์ เขาก็ประหยัดอดออม ทนเหนื่อยยากเก็บเงินอยู่ห้าเดือน กว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้เธอได้ เพื่อแลกกับการเลิกกับเธอแถมยังโดนเยาะเย้ยแบบนี้อีกงั้นเหรอ”
เส้เหวินจี้งโกรธจนหน้าเขียว “ฉันไม่ได้บีบบังคับให้เขาทำเรื่องพวกนั้น ถ้าเขาทำ ก็คงพูดได้ว่าเขาโง่ เขาซื้อโทรศัพท์ให้ฉันแล้วยังไง มันก็แค่vivoเครื่องหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อฉันสามารถมีiphoneได้ แล้วฉันจะต้องการvivoอีกทำไม”
หลี่เสี้ยส่ายหัว ยิ้มเย็น “เส้เหวินจี้งเธอนี่แปลกจริงๆ ในโลกของเธอ มีแค่เงินใช่ไหม แค่ให้เงินเธอ เธอก็ทำได้ทุกอย่างสินะ”
“ใช่ !”
เส้เหวินจี้งหัวเราะด้วยความโกรธ จ้องเขม็งไปที่หลี่เสี้ย “ฉันยอมรับ ฉันชอบเงินทอง แล้วมันผิดตรงไหน”
เมื่อพูดจบ เส้เหวินจี้งก็กอดแขนจูจี้เหวิน “สามีขา ตอนนี้พวกเราไปที่เซียนหย่าจุนกันเถอะ เห็นยาจกสองคนนี้แล้วฉันรู้สึกคลื่นไส้”
เส้เหวินจี้งถลึงตาใส่ฉินหลั่งกับหลี่เสี้ยทีหนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องเรียนไปอย่างหยิ่งผยอง