รวมนิยายรักฯ...บทที่ 1 กุหลาบทะเลทราย...

พระราชวังอะลาวีห์ มุสดาฮิร ซาลาม ตั้งอยู่ชานเมือง นครหลวงแห่งราชรัฐมุสดาฮิร ซาลาม ปกครองโดยสุลต่านอับดุลซามี ฟาฮัด อัล-อะลาวีห์ องค์ประมุขผู้ปราดเปรื่องเรื่องการปกครองและการค้า แต่ทรงพอพระทัยกับการใช้ชีวิตสงบสุขในพระราชวัง จึงมอบหมายงานราชการและการค้าให้พระอนุชาพระญาติและพระปนัดดาเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีพระองค์เป็นที่ปรึกษาพิเศษทุกงานราชการและบริษัทการค้าของบริษัทในราชวงศ์อะลาวีห์

เจ้าชายซัยยิดพระอนุชาองค์เดียวของสุลต่านอับดุลซามี เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อพระเชษฐาเป็นอย่างยิ่ง ทรงอภิเษกสมรสชายาสององค์ แต่ทรงมีรักหนึ่งเดียว คือ ชายานูรีน หญิงสาวสามัญผู้งดงามทั้งเรือนร่างและจิตใจ และมีโอรส-ธิดาให้ถึงห้าองค์ พระโอรสสามพระองค์เป็นบุรุษสมบูรณ์แบบที่หญิงสาวทุกคนใฝ่ฝันหา

พระโอรสองค์โตกับองค์รองและพระธิดาอภิเษกสมรสแล้ว เหลือแต่เจ้าชายฮาคิมพระโอรสองค์ที่สามที่ยังครองตนเป็นโสดและบ่ายเบี่ยงการมีคู่ครองมากว่าสองปี

เจ้าชายฮาคิมเป็นโอรสองค์กลางของพระบิดาพระมารดา แต่ทรงเป็นพระโอรสที่ชายาองค์แรกของพระบิดารักมากที่สุดเพราะทรงดูแลมาตั้งแต่ออกจากครรภ์เพียงสามสัปดห์ เนื่องจากช่วงนั้นชายานูรีนประชวรโรคไข้หวัดใหญ่และทรงรับเลี้ยงดูตลอดมาจนเจริญชันษาและเป็นลูกรักของท่านแม่ใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน

การที่เจ้าชายฮาคิมทรงปฏิเสธสาวงามที่พระบิดาพระมารดาทาบทามมาเป็นชายานับสิบคนเพราะไม่มีหญิงสาวคนใดถูกตาต้องใจถึงกับทำให้ทรงรักเธอได้ และทรงตั้งปณิธานกับตัวเองว่า...จะไม่ทำให้ผู้ที่พระองค์อภิเษกสมรสด้วยต้องเสียใจกับการมีชายาหลายองค์...

“ท่านพ่อ ท่านแม่ มีอะไรให้ลูกรับใช้หรือพระเจ้าข้า”

เจ้าชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีส่งเสียงมาก่อนจะดำเนินถึงพระบิดาพระมารดาที่ประทับรออยู่ในห้องพักผ่อนส่วนพระองค์อันสวยงามกว้างขวางของพระตำหนักส่วนพระองค์ภายในพระราชวังอะลาวีห์

พระตำหนักหลังนี้ ตั้งอยู่ทางขวาพระตำหนักหลวงขององค์สุลต่านประมุขของประเทศ สร้างด้วยหินทรายสีขาวที่ผู้มองจากภายนอกจะเห็นว่าเรียบง่ายหากทว่าภายในสวยงามเลิศหรูด้วยการตกแต่งลวดลายวิจิตรจากโมเสกสีฟ้าเทอร์คอยสีน้ำเงินลาพิชและสีทองแซนโรสเช่นเดียวกับโดมทรงกลมด้านหลังพระตำหนักอันเป็นสัญลักษณ์ของพระราชวังที่ทุกตำหนักจะมีโดมทรงกลมตกแต่งภายในงดงามเหลือพรรณนา

ภายในห้องพักผ่อนแห่งนี้ ทาพื้นฝาพนังทุกด้านด้วยสีเขียวอ่อนละมุนตา ตกแต่งด้วยโมเสกสีเขียวใบไม้สลับสีฟ้าเทอร์คอยและสีทองเป็นเส้นสายและลวดลายดอกไม้อย่างมีศิลปะ มองแล้วสบายตาสบายใจ

บานหน้าต่างโค้งสูงติดม่านสีขาวบางใสปักลวดลายขลิบริมและชายด้วยสีทองสูงค่า แม้แต่โซฟาเก้าอี้ประทับนั่งเล่นนอนเล่นก็สั่งทำพิเศษจากต่างประเทศด้วยเนื้อผ้าไหมสีเขียวอ่อนปักลายทองเข้าชุดกันมูลค่าเหลือคณานับ

แต่สิ่งของล้ำค่าใดๆในตึกแห่งนี้ ก็มิอาจเทียบได้กับความสุขร่มเย็นของทุกชีวิต โดยครอบครัวของพระอนุชาซัยยิดและพระชายานูรีน มีพระโอรสธิดารวมกันห้าพระองค์ คือ พระโอรสสาม พระธิดาสอง โดยพระโอรสองค์โตวัยสามสิบสามกับพระโอรสองค์รองเข้าช่วยงานสมเด็จลุงหรือองค์สุลต่านในตำแหน่งสำคัญด้านการทหารและการคลังของประเทศกับพระธิดาองค์หนึ่งที่อภิเษกสมรสออกเรือนแล้ว เหลือแต่พระโอรสองค์กลางที่ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทอะลาวีกรุ๊ปกับพระธิดาองค์สุดท้องที่เพิ่งเข้าเรียนในวิทยาลัยการเรือนและการอาหารอยู่ประเทศฝรั่งเศสที่ยังครองตนเป็นโสด

“ วันหยุดสัปดาห์นี้ เจ้ามีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่า ”

พระบิดาขยับองค์จากท่าประทับนอนเอนอย่างสบายๆเป็นประทับนั่งตัวตรง และเรียกพระโอรสองค์กลางเข้ามาประทับในฝั่งตรงข้าม

“ไม่สำคัญหรอกพระเจ้าข้า ถ้าท่านพ่อจะให้ช่วยอะไร ลูกก็ทำตัวว่างได้”

ส่วนใหญ่เจ้าชายหนุ่มจะใช้เวลาของวันหยุดสุดสัปดาห์ไปดูการฝึกม้าแข่งบ้าง ฝึกซ้อมแข่งโปโลกับเพื่อนๆและเครือญาติบ้าง บางเดือนอาจจะขี่อูฐพานกเหยี่ยวออกเที่ยวทะเลทรายในเขตคุ้มครองของพระราชวัง แล้วไปค้างแรมตามโอเอซิสใกล้ๆ เพื่อฝึกเหยี่ยวร่วมกับพระสหายและพระญาติ

“ดีจ้ะ ท่านแม่ใหญ่มอบหมายให้ท่านพ่อกับแม่นัดหมายครอบครัวหนึ่งเอาไว้ และจำเป็นที่ลูกต้องไปด้วย” พระชายานูรีนตรัสแล้วยิ้มหวาน

ภายหลังที่ทรงปรารภเรื่องการอภิเษกของพระโอรสองค์กลางที่เป็นลูกรักของพระชายาอามิราที่เลี้ยงดูกันมาแต่เยาว์วัย จึงทรงแนะนำให้นัดหมายไปดูตัวธิดาคนเล็กของรัฐมนตรีทาเรจ และมั่นใจว่าพระโอรสจะต้องถูกพระทัย