กินปูนร้อนท้อง 1
กินปูนร้อนท้อง
ถ้าการคาดการณ์ของหานฉงหรงแม่นยำเฉกเช่นครานี้ทุกครั้ง นางจะลองเดินเข้าบ่อนไปเล่นพนันขนต่อดูสักตั้ง เผื่อนางอาจจะมือขึ้นได้เงินทองสักหีบสองหีบกลับบ้าน
จากเหตุการณ์ที่ตรอกชิงฮวานั้น ดูเหมือนฉางซื่อหลางจะกินปูนร้อนท้อง หลายวันหลังจากนั้นจึงได้โผล่หน้ามายังสกุลหานพร้อมกับแม่สื่อ เพื่อให้แม่สื่อจีบปากจีบคอแจ้งว่าหมายกำหนดการแต่งงานที่แจ้งไว้ในหนังสือหมั้นหมายมีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงใคร่ขอวันเวลาตกฟากจากสกุลหานเพื่อขอฤกษ์ยามวิวาห์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งหานเซียงอวิ๋นกับหานฉงหรงก็มิได้ขัดข้อง เพียงแจ้งว่าทางสกุลหานเองก็ผิดที่จดวันเวลาตกฟากตกหล่นไป “เล็กน้อย” จึงถือโอกาสนี้ส่งมอบเวลาตกฟากที่บันทึกอย่างถูกต้องของหานฉงหรงแทนคำขอโทษ
ฉางซื่อหลางที่กำลังลิงโลดได้แต่ขอบคุณเป็นพัลวัน หลังจากกลับออกไปจากสกุลหานยังไม่ทันข้ามวัน แม่สื่อของฉางซื่อหลางก็เดินยิ้มร่ามาหาบิดาของนางที่กำลังอ่านตำราอยู่ที่โถงรับแขกว่ากำหนดการแต่งงานของหานฉงหรงและฉางซื่อหลางเปลี่ยนเป็นอีกสิบวันข้างหน้า
ตอนที่ได้ทราบข่าวนี้ หานฉงหรงกับหลินหลางก็อยู่ปรนนิบัติหานเซียงอวิ๋นรินชาฝนหมึกอยู่ หานฉงหรงเพียงหลุบตาลงต่ำ ท่าทางประหนึ่งขวยเขินเอียงอายในขณะที่ในใจคิดถึงแผนการสะระตะ ขณะที่หลินหลางมีท่าทีลิงโลดอย่างปิดไม่มิด ไม่มีท่าทีเสียอกเสียใจเพราะคนรักยังปักใจกับคู่หมายเก่าของตนเองแม้แต่น้อย
ส่วนหานเซียงอวิ๋นก็เพียงตอบรับด้วยท่าทีสงบ เพียงแต่หันไปหาบุตรสาวถามว่าเตรียมการสิ่งใดพร้อมสรรพแล้วหรือไม่ เมื่อได้คำตอบจากหานฉงหรงก็เพียงยื่นเงินเล็กน้อยให้กับแม่สื่อเป็นสินน้ำใจจากนั้นจึงให้หลินหลางเดินไปส่งถึงประตูจวน
หานเซียงอวิ๋นวางตำราในมือพลางใช้นิ้วนวดคลึงหว่างคิ้วตนเองเล็กน้อยก่อนหันไปถามหานฉงหรงที่หันไปฝนหมึกต่ออย่างสบายอารมณ์ “เจ้าคิดดีแล้วหรือ”
กลิ่นหอมของหมึกชั้นดีกรุ่นจรุงอ่อนบาง น้ำหมึกสีดำที่อยู่บนแท่นหมึกสะท้อนดวงหน้าของโฉมสะคราญที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวมั่นคง “ลูกคิดดีแล้วเจ้าค่ะ”
ซึ่งกว่าจะคิดได้ก็ต้องผ่านความทุกข์ทรมานจนตายมาแล้วคราหนึ่ง ถ้าเบื้องบนมิให้โอกาสนางก็คงตายอย่างไม่เป็นธรรม ได้แต่เกรี้ยวโกรธคั่งแค้นอยู่ในปรโลกไม่มีที่สิ้นสุด...
“พ่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตรอกชิงฮวาแล้ว ต่อให้คุณชายฉางผู้นั้นอธิบายสักเท่าใดก็ไม่ต่างจากปัดสวะให้พ้นตัว เด็กสามขวบมาฟังยังเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ตรงตามที่ชายคนนั้นบอกแม้สักเศษเสี้ยว ขืนแต่งงานไปก็คงมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบสิ้น”
หานฉงหรงเพียงอมยิ้มบางเบา หลังจากฝนหมึกเรียบร้อยแล้วก็ใช้ผ้าเช็ดมือจนสะอาด จากนั้นจึงเดินไปบีบนวดไหล่ของบิดาแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม “นี่คือสิ่งที่เลือกแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่ลิขิตสวรรค์เถิดเจ้าค่ะ”
หานเซียงอวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็มิได้ทำให้ความวิตกกังวลที่มีลดลงไปเท่าใดนัก ชายที่ผ่านวันเวลามาครึ่งค่อนชีวิตเพียงถอนใจแช่มช้าแล้วเอ่ย
“ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”
