บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เศษเสี้ยวของความโปรดปราน

"เหมยลี่อิน เจ้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นชายาเอกของเปิ่นหวางไม่ใช่หรือ  หน้าที่ในปรนนิบัติดูแลสามีก็ย่อมต้องตกเป็นหน้าที่ของเจ้าเช่นกัน"

     เมื่อเห็นว่านางไม่มีทีท่าจะหันมาให้ความสนใจกับตน เขาก็รีบกล่าวขึ้น เพื่อให้นางเห็นว่าเขายังอยู่ตรงนี้

     เหมยลี่อินเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เขาไม่เพียงไม่ยอมจากไป แต่ยังเรียกร้องให้นางมาปรนนิบัติตนเองอีก 

    "ทรงกล่าวเช่นนี้หมายความเช่นไร"

    "เปิ่นหวางต้องการให้เจ้ามาปรนนิบัติ ดูแลเปิ่นหวาง ล้างหน้า ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ตามหน้าที่ๆ ภรรยาพึงกระทำต่อสามี"

    "ออ เข้าใจแล้ว"

    เหมยลี่อินสบตากับบุรุษตรงหน้า อย่างไม่ลดละ ก่อนที่จะหันไปกล่าวกับสาวใช้คนสนิทของตน

   "ถิงถิงเจ้าไปเตรียมอุปกรณ์มาให้ท่านอ๋องและให้คนไปทูลพระชายาหยุนฟางเซียน ให้มาดูแลปรนนิบัติท่านอ๋องที่ตำหนักนี้ด้วย  ส่วนเจ้าลี่ลี่ ไปเข้าครัววันนี้ข้าจะทำอาหาร"

   "เหมยลี่อินนี่เจ้าได้ยินหรือไม่ ว่าเปิ่นหวางกล่าวให้เจ้ามาเป็นผู้ปรนนิบัติดูแล  เปิ่นหวางมิได้กล่าวว่าต้องการผู้อื่น"

   "แหม หากพระชายาหยุนฟางเซียนมาได้ยินคำกล่าวว่านางเป็นผู้อื่นสำหรับพระองค์แล้ว คงจะเสียใจจนอกแตกตายเป็นได้กระมัง แค่เพียงพระองค์มานอนค้างที่ตำหนักนี้ทั้งคืน ก็คงจะสร้างความไม่พอใจให้กับนางเป็นอย่างมากแล้ว ยิ่งถ้ามาได้ยินคำกล่าวนี้เข้าละก็ คงจะชอกช้ำใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่ พระองค์จะทรงทำร้ายคนที่พระองค์บอกว่ารักได้ลงคอ  สตรีอ่อนหวาน และอ่อนแอเช่นนั้นจะรับไหวหรือเพคะ"

     "พูดตามตรงหม่อมฉันไม่ต้องการเสแสร้ง ที่จะมองหน้าพระองค์อีกต่อไป  ยิ่งคิดถึงเวลาที่จะต้องมาปรนนิบัติด้วยแล้ว  ยิ่งทำใจไม่ได้ เหตุนี้พระองค์ก็อย่าได้มาวุ่นวายกับหม่อมฉันอีกเลย ต่างคนต่างอยู่ และมอบใบหย่าให้หม่อมฉันเสีย"

    "เจ้าเกลียดชังเราถึงเพียงนี้เชียวหรือ ที่เรื่องระหว่างเรามาลงเอยเช่นนี้  ก็เพราะว่าความดื้อรั้นของเจ้าทั้งสิ้นมิใช่หรือ บุรุษมี 3 ภรรยา 4 อนุ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นเจ้าที่มิยอมรับความเป็นจริง  ยอมเปิดใจรับมัน เมื่อมิพอใจก็จะขอหย่า เจ้าคิดว่าเรื่องราวมันจะง่ายดายเพียงนั้น การแต่งเข้ามาเป็นบุคคลในราชวงศ์แล้ว หากคิดที่จะออกไป  ก็คงจะต้องกลายเป็นศพออกไปกระมัง ในเมื่อเจ้ามีความดื้อด้านถึงเพียงนี้ งั้นเปิ่นหวางก็จะให้เจ้าอยู่อย่างไร้ตัวตน  โดยไม่ได้รับความโปรดปรานจากเปิ่นหวางก็แล้วกัน ใบหย่าที่เจ้าต้องการนั้น ก็อย่าได้ฝันเปิ่นหวางมิมีทางมอบมันให้เจ้าเป็นแน่ เปิ่นหวางจะคอยดูวันที่เจ้ามาขอร้องขอความเมตตาจากเปิ่นหวาง"

    กล่าวจบจวิ้นอ๋องหยางจิวฮุ่ย ก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคืองอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

    เมื่อเหมยลี่อินเห็นว่าจวิ้นอ๋องจากไปแล้วนางก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อชาติที่แล้วเขาก็พูดเช่นนี้จนเป็นผลให้นางรู้สึกผิด คิดว่าตนเองเป็นสตรีใจคอคับแคบ หลังจากยอมรับในเรื่องที่เขาพูดแล้ว  เหมยลี่อินคนเก่าหวังว่าเขาจะมอบความโปรดปรานให้กับตนบ้าง ความปรารถนาของนางในชาติก่อน  ช่างน้อยนิดเหลือเกิน "เศษเสี้ยวความโปรดปราน" เช่นนั้นหรือ ช่างเป็นสตรีที่โง่งมสิ้นดี

   เมื่อลู่ลู่และถิงถิงเห็นว่าจวิ้นอ๋องหยางจิวฮุ่ยได้จากไปแล้ว พวกนางก็ให้รีบมาพูดคุยกับเหมยลี่อินอย่างเป็นกังวล

    "พระชายาทำเช่นนี้จะดีหรือเพคะ"

    "ถิงถิงเราบอกให้เจ้าเรียกเราว่าเช่นไร เราบอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้ว ตำแหน่งพวกนั้นหาได้มีความสำคัญกับเราไม่ เราไม่ต้องการเป็นชายาที่มีเพียงตำแหน่ง แต่หาได้มีความสุขหรอกนะ เรียกเราอย่างที่เคยเป็นเถิดเราพอใจเช่นนั้นจริงๆ"

    "เจ้าค่ะคุณหนู คุณหนูทำเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ ดูท่าแล้วท่านอ๋องก็มีความโปรดปรานกับคุณหนูอยู่บ้าง  หากคุณหนูทำดีกับท่านอ๋อง อาจจะทำให้ความโปรดปรานเหล่านั้นกลับคืนมาอยู่ที่ตัวคุณหนูก็เป็นได้"

    "ถิงถิงเจ้าฟังข้าให้ดีนะ  เศษเสี้ยวความรักความโปรดปรานของบุรุษที่มอบให้  สักวันมันก็ต้องเลือนหายไปตามกาลเวลา แล้วเหตุใดข้าจะต้องการมันด้วยเล่า  ในตอนนี้บุรุษผู้นั้นเพียงรู้สึกเสียดายในสิ่งที่กำลังจะเสียไปเพียงเท่านั้น หากบุรุษผู้นั้นได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว  ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก มันไม่มีความจำเป็นอันใดที่ข้าจะต้องทนอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ข้าว่าเราไปทำอย่างอื่นที่มีสาระที่จะได้ออกไปจากสถานที่อันน่าสะอิดสะเอียนนี้ดีกว่าหรือไม่"

     "ทำอันใดหรือเจ้าคะคุณหนู"

     "ทำอาหาร"

     เมื่อสาวใช้คนสนิทของเหมยลี่อินได้ยินเจ้านายของตนกล่าวออกมาเช่นนั้น ก็ให้แปลกใจเป็นอย่างยิ่งการทำอาหารจะช่วยให้พวกนางออกจากสถานการณ์นี้ได้เช่นไร พวกนางจึงได้แต่จ้องมองใบหน้าของเจ้านายสาวของตนอย่างงุนงง

     "ข้าจะหาเงินโดยการเปิดโรงเตี๊ยม แล้ววันนี้ข้าจะสอนสูตรลับ เกี่ยวกับการทำอาหารที่พวกเจ้ามิพบเจอที่ใดมาก่อน  ซึ่งข้าค้นพบตำราอาหารโบราณนี้โดยบังเอิญ เชื่อว่ามันจะสามารถทำประโยชน์กับพวกเราได้ แต่ก่อนอื่นข้าจะสอนพวกเจ้าให้สามารถทำอาหารพวกนั้นให้ได้เสียก่อน  พวกเจ้าจะได้นำมันไปสอนให้กับคนอื่นได้"

      เมื่อคิดได้เช่นนั้นเหมยลี่อินก็ได้ลงมือ สอนการทำอาหารให้กับสาวใช้คนสนิททั้งสองของนางโดยทันที  โดยก่อนที่จะลงมือทำนั้นก็ไม่ลืมที่จะให้บ่าวไพร่คนอื่นๆ ออกไปให้หมดเหลือไว้เพียงพวกนางสามคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารในตอนนี้อย่างขะมักเขม้น อาหารที่นางสอนสาวใช้ทั้งสองทำนั้น  เป็นอาหารที่มีในภัตตาคารชื่อดังหลายๆแห่งทั่วโลก โดยเมนูอาหารที่ทำนั้นเลือกจากวัตถุดิบที่มีในโลกนี้เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่นางทำขึ้นมาแต่ละอย่างนั้น  ล้วนแล้วแต่มีรสชาติที่น่าพึงพอใจทั้งสิ้น เรื่องนี้ได้สร้างความ ดีใจให้กับสาวใช้ทั้งสองเป็นอย่างมาก

     "คุณหนูลู่ลู่ว่าอาหาร พวกนี้จะต้องสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่จะมาทานอาหารที่โรงเตี๊ยมของเรา เป็นอย่างมากแน่ๆ ทั้งรสชาติกลิ่นและสีสันของอาหารนั้น ล้วนแล้วแต่แปลกตาทั้งสิ้น ลู่ลู่ไม่เคยพบเจอและได้ลิ้มลองกับอาหารที่อร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ"

     "อือ ดีแล้ว งั้นพวกเจ้าก็ตั้งใจฝึกต่อไปจนชำนาญให้รสชาติอาหารออกมาดีกว่านี้เข้าใจหรือไม่"

     "เจ้าค่ะคุณหนู"

     สาวใช้คนสนิทของเหมยลี่อินทั้งสองคนกล่าวออกไปอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยท่าทีจริงจัง

     "ข้ามีธุระจะออกไปข้างนอกสักครู่หากมีผู้ใดมาถามหา  ให้บอกออกไปว่าข้าไม่สบายไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้าพบเข้าใจหรือไม่ และไม่ต้องถามอันใด เมื่อข้าพร้อมข้าจะเป็นฝ่ายบอกกับพวกเจ้าเอง  แค่ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีก็พอแล้ว"

     เหมยลี่อินจะต้องรีบกล่าวดักคอสาวใช้ ทั้งสองคนของนางไว้เสียก่อน  เพราะว่าหลังจากนี้จะต้องมีเรื่องราวให้พวกนางแปลกใจอีกมาก ไหนจะเรื่องที่นางสามารถลอบออกไปข้างนอกได้โดยไม่มีผู้ใดพบเห็น ไหนจะความสามารถต่างๆที่ติดตัวนางมาจากในโลกโน้น นางไม่มีเวลามาอธิบายเรื่องราวพวกนั้นในตอนนี้ เพราะตอนนี้นางจะต้องรีบนำแบบร่างอาวุธที่นางได้ร่างไว้เมื่อคืน ออกไปขายให้กับพ่อค้าอาวุธ นางจะต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจะสามารถนำพวกมันไปขายให้กับพ่อค้ากลุ่มใดได้บ้าง เพราะอาวุธที่นางได้ร่างขึ้นมานี้  ถือว่าทำให้ผู้คนสามารถเข่นฆ่ากันเพื่อพวกมันได้เลยทีเดียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel