บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1.1

เฮือกก!! ร่างเล็ก ๆ สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า

"เจียอี..เจ้ายังไม่ตาย" ฮุ่ยเจียงส่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทอีกครั้งนางร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกมือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาสาวใช้ที่ทำหน้าเหลอหลา สองมือของฮุ่ยเจียงจับไหล่สาวใช้พลิกซ้ายพลิกขวาจนร่างเล็กของสาวใช้แทบจะหมุนเป็นลูกข่าง

"เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่แล้วนี่ผู้ใดมาช่วยพวกเรากัน เรารอดตายแล้วใช่หรือไม่ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าลูกข้า.." ฮุ่ยเจียงยื่นมือมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลูกนางยังอยู่แต่พอสาวใช้พูดแย้งขึ้นทำเอา ฮุ่ยเจียงถึงกับนิ่งค้างในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน

ส่วนสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็รีบพูดขัดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ฮุ่ยเจียงด้วยสายตาสับสนไม่แพ้กัน

"คุณหนูท่านเพิ่งจะเข้าสู่วัยปักปิ่นเหตุใดจึงมีลูกได้กันล่ะเจ้าคะ และที่สำคัญคุณหนูยังมิได้แต่งงานเหตุใดถึงพูดจาแปลกประหลาดยิ่งนักล่ะเจ้าคะถ้าใครได้ยินจะพากันเอาไปลือประเดี๋ยวคุณหนูจะเสียหายนะเจ้าคะ" เจียอีเอ็ดคุณหนูของนางเบา ๆ พร้อมกับรีบเดินไปที่ประตูเปิดออกกว้างแล้วสอดส่ายสายตาหันซ้ายแลขวาพอไม่เห็นว่ามีใครก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกจากนั้นจึงปิดประตูลงกลอนแล้วเข้ามาหาคุณหนูพาไปนั่งที่เตียง

ส่วนฮุ่ยเจียงพอเห็นสาวใช้ที่เดินกระฉับกระเฉงแล้วยังตัวนางเองที่ไม่ได้ดูเหมือนว่าบาดเจ็บใกล้ตาย แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ว่าพวกนางตายไปแล้วหรือเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่

"ดีนะเจ้าคะที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ไม่มีผู้ใดเข้ามาทำงานที่เรือนของคุณหนู แต่ว่าคุณหนูฝันร้ายหรือเจ้าคะ หรือคุณหนูยังเจ็บไข้อยู่ให้บ่าวตามหมอดีไหมเจ้าคะ" เจียอีมองคุณหนูเพิ่งสังเกตเห็นท่าทางแปลกไปจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ฮุ่ยเจียงพิจารณาสาวใช้ที่ดูยังเด็กนักก่อนจะนึกขึ้นได้เมื่อกี้สาวใช้พูดว่านางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นแสดงว่าตอนนี้นางยังเพิ่งอายุสิบห้าปีเท่านั้นนี่มันเรื่องอะไรกัน เป็นไปได้หรือที่นางได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

นี่สวรรค์ยังเมตตานางใช่หรือไม่ ฮุ่ยเจียงคิดด้วยความดีใจก่อนจะถามสาวใช้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"แล้วข้าถึงจะเข้าพิธีปักปิ่นเมื่อใด"

"อีกหนึ่งเดือนเจ้าค่ะ แต่คุณหนูท่านจำไม่ได้หรือเจ้าคะ ให้บ่าวตามท่านหมอดีหรือไม่ ตอนท่านตกน้ำศีรษะท่านอาจจะไปกระแทกกับก้อนหินก็ได้นะเจ้าคะ" พอได้ยินสาวใช้พูดแบบนั้นฮุ่ยเจียงก็พลันนึกได้ว่าตนเองเคยตกน้ำเพราะความซุกซนของนางยังดีที่สาวใช้อย่างเจียอีเป็นคนช่วยนางขึ้นมา

"ข้า ๆ เอ่อ..ข้าไม่เป็นไร" นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังเรื่องที่นางย้อนเวลากลับมาอีกครั้งจะให้เจียอีรู้ไม่ได้เพราะเจียอีอาจคิดว่านางคงเสียสติไปแล้วเป็นแน่

"แน่นะเจ้าคะเพราะถ้าหากท่านเป็นอะไรไปนายท่านกับฮูหยินได้เฆี่ยนบ่าวหลังลายแน่เจ้าค่ะ" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นทำเอา ฮุ่ยเจียงยิ้มออกสาวใช้คนนี้ยังคงเป็นคนที่ทำให้นางยิ้มออกเสมอ ฮุ่ยเจียงพลันนึกไปถึงครั้งที่เจียอีเอาร่างของนางมารับกีบม้าที่พุ่งเข้าใส่ร่างนางจนทำให้เจียอีขาพิการเดินไม่ปกติ แล้วยังเรื่องที่ทั้งสองเดินทางเข้าสู่แคว้นฉีพบการลงโทษของคนโหดเหี้ยมพวกนั้นจนทำให้เจียอีต้องตายแล้วนางก็ไม่มีชีวิตรอดเหมือนกัน

ตอนนี้ฮุ่ยเจียงยังรู้สึกถึงผิวเนื้อที่เจ็บแสบจากการโดนแส้ฟาดอยู่เลยเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นไปไม่นาน แล้วยังเลือดเนื้อของชายสารเลวผู้นั้นที่ไหลออกมาเป็นลิ่มเลือดยังติดตานางจนถึงตอนนี้

แต่ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้นางได้โอกาสย้อนกลับมาอีกครั้งดวงตากลมสั่นไหวยามที่มองไปที่ใบหน้าของสาวใช้

"เจียอี.." ฮุ่ยเจียงยังคงเรียกสาวใช้อีกครั้งคล้ายกับยังไม่เชื่อสายตา แต่ตรงหน้านี่ก็คือสาวใช้ของนางจริง ๆ

"เจ้าค่ะคุณหนูต้องการสิ่งใดหรือเจ้าคะ"

พรึบ!!

ยังไม่ทันที่เจียอีจะพูดจบร่างเล็กของคุณหนูก็โถมเข้ามาใส่จนนางแทบตั้งรับไม่ทันด้วยความตกใจเจียอีก็ยืนนิ่งกลายร่างเป็นหุ่นฟางดวงตาเบิกกว้างไม่ไหวติงพูดออกมาด้วยอาการตะกุกตะกัก นี่นับเป็นครั้งแรกที่เจียอีถูกคุณหนูกอดนางเอาไว้ นางที่เป็นเพียงสาวใช้ผู้ต่ำต้อย

"คะ..คุณหนูเจ้าคะปล่อยบ่าวเถิดเจ้าค่ะ นี่ดูไม่เหมาะเท่าไรนะเจ้าคะ บ่าวเป็นเพียงสาวใช้..." เจียอีพูดอย่างถ่อมตัวฮุ่ยเจียงสัมผัสได้ถึงอาการเกร็งของสาวใช้นางก็อมยิ้ม

"ก็ได้ ๆ ถ้าอย่างนั้นข้าไปอาบน้ำดีกว่าฟังเจ้าบ่นแล้วรำคาญหูนัก ฮ่า ฮ่า ดูหน้าเจ้าสิช่างน่าตลกนัก" ฮุ่ยเจียงพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะแล้วเดินเข้าไปหลังฉากแต่ใบหน้าของนางตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

เจียอีที่ได้ยินคุณหนูพูดจาหยอกล้อหัวเราะเสียงดังนางก็ถึงกับยกมือแคะหูปกติคุณหนูพูดน้อยยิ้มหวานไม่มีเสียล่ะที่จะฉีกยิ้มกว้างส่งเสียงหัวเราะจนตาหยี นี่คุณหนูเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

หลังจากฮุ่ยเจียงชำระร่างกายเสร็จก็แต่งกายด้วยชุดที่ตนเองเป็นคนเลือกแล้วเดินมานั่งบนเก้าอี้ที่มีคันฉ่องสะท้อนใบหน้าตนเอง นางปล่อยให้สาวใช้จัดการกับผมของนาง

"คุณหนูเจ้าคะท่านใส่ชุดนี้งดงามมากเลยนะเจ้าคะแต่ว่าเหตุใดท่านถึงต้องไปที่วัดด้วยละเจ้าคะ คุณหนูเพิ่งฟื้นท่านยังไม่หายดีประเดี๋ยวไข้จะกำเริบขึ้นมาอีกนะเจ้าคะ" เจียอีพูดด้วยความเป็นห่วงใยคุณหนูถึงไม่รอให้หายจากอาการป่วยไข้เสียก่อนแต่มือบางกระฉับกระเฉงของนางก็ยังหวีผมคุณหนูไปด้วย

"เอาเถิดข้าหายดีแล้วแต่ที่ข้าต้องการไปวันนี้ก็เพราะเมื่อคืนข้าฝันร้ายเจ้าไปเตรียมตัวเถิดเดี๋ยวข้าจะไปขออนุญาตท่านพ่อกับท่านแม่เอง"

"เจ้าค่ะคุณหนู" ในเมื่อไม่สามารถขัดใจคุณหนูของนางได้นางจึงถอยออกมาแล้วไปทำตามที่คุณหนูสั่ง

ฮุ่ยเจียงมองตามสาวใช้ก่อนจะส่ายหัวไม่ว่าชาติไหน ๆ สาวใช้คนนี้ก็คอยเป็นห่วงเป็นใยนางตลอด ฮุ่ยเจียงมองตัวเองผ่านคันฉ่องมือบางยกขึ้นแตะที่ใบหน้าที่เคยถูกกรีดด้วยมีดคมกริบพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจของสหายชั่ว เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของนางยังติดก้องอยู่ในหูไม่จางหาย ฮุ่ยเจียงปิดเปลือกตาลงเก็บความทรงจำไว้ที่เลวร้ายไว้ในซอกลึกในใจจากนั้นลืมตาขึ้นมองตัวเองอีกครั้ง แววตาเย็นเยียบที่สะท้อนอยู่ในคันฉ่องถ้าใครได้เห็นคงขนลุกกับสายตาของนาง

จิ่วเย่ว ห่าวอู๋ ถ้าหากมิอาจหลีกเลี่ยงได้ชาตินี้ข้าจะเอาคืนพวกเจ้าอย่างสาสม

ในระหว่างที่คิดถึงเรื่องราวของชายโฉดหญิงชั่วแต่ฮุ่ยเจียงกลับลืมไปว่าในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตนั้นมีใครอีกคนที่เสียใจกับการจากไปของนางอย่างสุดซึ้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel