บท
ตั้งค่า

บทที่2 หนังสือประหลาด

วันนี้เฉียวลู่ออกไปเดินเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่เธอไม่มีโอกาสได้ไปเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก โบราณสถานเมืองเก่าที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอนักแต่เฉียวลู่กลับไม่เคยไปเลยสักครั้ง

เฉียวลู่แต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนขายาวและหมวกเบสบอลสีขาวเข้ากับสีเสื้อของเธอ ถึงเฉียวลู่จะแต่งตัวธรรมดาแต่ออร่าความสวยของเธอก็ยังกระจายออกมาทำให้เวลาเดินผ่านไปทางไหนคนก็ต้องหันมองเธอจนต้องเหลียวหลัง

เฉียวลู่เดินเที่ยวทั้งวันจนเหนื่อยเธอจึงมาหยุดแวะพักแถวตลาดขายของเก่าโบราณที่มีคนมาตั้งโต๊ะขายของโบราณให้นักท่องเที่ยว ข้างๆ ม้านั่งที่เฉียวลู่นั่งมีคุณยายอายุราวเจ็ดสิบกว่าปีตามที่สายตาของเธอคาดคะเนนั่งอยู่

“คุณยายขายอะไรคะ”

เฉียวลู่ชวนคุณยายคนนั้นคุยหลังจากที่เธอมองอยู่นานแต่กลับไม่มีใครแวะดูของที่คุณยายคนนี้ขายเลยทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย คุณยายหันมายิ้มให้เฉียวลู่อย่างใจดี

“แม่หนู เมื่อไหร่จะกลับบ้านมีคนรออยู่นะ”

เฉียวลู่มองคุณยายคนนั้นด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอก็อยู่ที่บ้านแล้วจะให้เธอไปบ้านที่ไหนอีก สงสัยคุณยายคงจะจำคนผิดแน่ๆ เธอคิดแบบนั้นในใจ เฉียวลู่ยิ้มแห้งๆ กลับไปให้คุณยาย

“ยายให้หนังสือเล่มนี้นะเก็บเอาไว้ให้ดี”

คุณยายยื่นหนังสือปกสีครามซีดเล่มเก่าให้เธอ แต่เฉียวลู่ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับเพราะเธอไม่รู้จักกับคุณยายคนนี้แล้วเธอจะรับของมาได้ยังไง เฉียวลู่ไม่ได้คิดว่าคุณยายเป็นพวกมิจฉาชีพหรือนักต้มตุ๋นแต่เธอคิดว่าหนังสือที่คุณยายยื่นให้เธอนั้นดูเก่ามากอาจเป็นของเก่ามีราคาก็ได้ หากให้เธอมาฟรีๆ แบบนั้นคุณยายคงได้ขาดทุนแย่ เธอนิ่งคิดเล็กน้อย

“คุณยายคะ หนูว่าคุณยายน่าจะเก็บเอาไว้ขายดีกว่าไหมคะ หรือไม่ถ้าคุณยายอยากจะให้หนังสือเล่มนี้กับหนูจริงๆ คุณยายก็ให้หนูซื้อเถอะค่ะ”

เฉียวลู่หยิบเงินสามพันหยวนที่เธอพกติดตัวออกมายื่นให้คุณยาย เพราะเฉียวลู่ไม่ได้พกโทรศัพท์มาด้วยเธอคงไม่สามารถจ่ายด้วยวีแชทเพย์ คุณยายไม่ได้รับเงินไปจากเธอแต่ยังคงยิ้มให้เธออยู่แบบนั้นเฉียวลู่รับหนังสือเก่าเล่มนั้นมาและวางเงินเอาไว้ให้คุณยาย

เฉียวลู่กลับมาถึงบ้านของเธอก็มืดมากแล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอยืนกระสับกระส่ายรอที่หน้าบ้านด้วยความป็นห่วง

“ลู่ลู่ ไปไหนมามืดค่ำขนาดนี้แล้วทำไม่พึ่งกลับบ้าน โทรศัพท์ก็ไม่พกไปด้วยพ่อกับแม่เป็นห่วงรู้ไหม”

เฉียวลู่เดินเข้าไปกอดแม่ของเธออย่างออดอ้อนเพราะกลัวโดนดุ

“โธ่ แม่ขาหนูเที่ยวแถวนี้เองนะคะไม่ได้ไปไหนไกล นานๆ จะได้มีเวลาเที่ยวสักทีแม่อย่าดุหนูเลยนะ”

ท่าทางออดอ้อนเหมือนเด็กของเฉียวลู่ทำเอาพ่อกับแม่ของเธอรู้สึกอ่อนใจ

“อายุสามสิบกว่าแล้วยังมาออดอ้อนเป็นเด็ก ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวเถอะเดี๋ยวแม่อุ่นกับข้าวรอ”

เฉียวลู่ยิ้มอย่างผู้มีชัย เพราะสุดท้ายแม่ของเธอก็ยังคงแพ้ลูกอ้อนที่เธอใช้เป็นประจำเมื่อทำผิดตอนเป็นเด็ก แล้วแม่ของเธอก็โกรธเธอไม่ลงสักทีเมื่อเจอไม้ตายนี้ ทั้งพ่อและแม่ของเฉียวลู่อดส่ายหัวให้กับท่าทางดี๊ด๊าเป็นเด็กของเธอไม่ได้

นางเอกแถวหน้าอะไรกันนี่มันเด็กกะโปโลชัดๆ

เฉียวลู่อาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยแล้วเธอพูดเรื่องที่เธอไปเที่ยววันนี้ให้แม่กับพ่อฟังอย่างออกรสแต่กลับลืมเรื่องของคุณยายและหนังสือเก่าเล่มนั้นไปเลยจนกระทั่งเฉียวลู่กลับเข้าห้องนอนของเธอมา

“ลืมหนังสือเล่มนี้ไปเลย”

เฉียวลู่หยิบหนังสือเก่าเล่มนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือของเธอมาเปิดดู ข้างในว่างเปล่ามีเพียงตัวอักษรที่เขียนเอาไว้จางๆ ว่าเฉียวลู่

“ทำไม่มีชื่อของเราเขียนเอาไว้ในนี้นะ”

เฉียวลู่พลิกกระดาษหน้าถัดไปแต่กลับไม่มีอะไรเขียนเอาไว้เลยมีเพียงหน้ากระดาษสีขาวอมเหลืองเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเก่า เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ช่างเถอะ ถือซะว่าช่วยอุดหนุนคุณยายแล้วกัน”

ถึงแม้จะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างแต่เธอก็เลิกสนใจในหนังสือเก่าเล่มนั้นไป เฉียวลู่วางหนังสือเอาไว้ที่เดิมแล้วปิดไฟเข้านอนทันที คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดทั่วท้องฟ้ามีเพียงแสงดาวที่ทอประกายระยับเกลื่อนกลาดหนังสือเล่มเก่าที่เฉียวลู่วางเอาไว้บนโต๊ะค่อยๆ คลี่เปิดออกทีละหน้าเหมือนมีลมบางเบาพัดผ่านและค่อยๆ เร็วขึ้นแรงขึ้น แสงสว่างถูกสาดกระจายออกมาจากหนังสือเก่าเล่มนั้นและมันค่อยๆ ไหลมารวมกันเป็นจุดเดียวที่หน้าอกของเฉียวลู่และหายไปทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel