บท
ตั้งค่า

ข้าคือคุณหนูสาม

“คุณหนูไม่สบายถึงขนาดจำตัวเองไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ!” จางเหม่ยอิงพูดพลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง “เธอช่วยบอกฉันที ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน แล้วเธอคือใคร?”

“บ่าวชื่อหงเอ๋อร์เจ้าค่ะ..” บ่าวสาวคนนั้นตอบเสียงสั่น พลางนึกในใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูของตน

“ที่นี่คือบ้านสกุลจาง และท่านก็คือคุณหนูจางเหม่ยอิง บุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีกรมยุติธรรม จางซวนหลง กับฮูหยิน หวงเจียซิน”

จางเหม่ยอิงพยักหน้าหงึกหงักด้วยความงงงวย เธอเริ่มประมวลข้อมูลอันน้อยนิดที่อยู่ในหัว

“เดี๋ยวนะ... ฉันเป็นบุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีกรมยุติธรรม? หงเอ๋อร์ นี่เธอล้อฉันเล่นหรือเปล่า?”

“คุณหนู ข้ามิได้ล้อเล่นนะเจ้าคะ ร่างกายท่านเพิ่งจะฟื้นจากอาการอ่อนแอ แถมท่านก็สลบไปเพราะหายใจไม่สะดวกอีก อาจจะเป็นเพราะท่านเหนื่อยมากเกินไปหรือไม่ก็คิดถึงเรื่องราวต่างๆ มากเกินไป”

หงเอ๋อร์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะเริ่มปรนนิบัติคุณหนูจางเหม่ยอิงด้วยการช่วยจัดหมอนให้เข้าที่ และยกน้ำชามาวางไว้ข้างเตียง

“คุณหนู ดื่มชานี่เถอะเจ้าค่ะ เผื่อจะช่วยให้ท่านรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง”

จางเหม่ยอิงรับถ้วยชามาดื่มอย่างเอื่อยเฉื่อย แต่เธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

“นี่ฉันกลายเป็นคุณหนูโบราณยุคจริงๆ ไปแล้วสินะ มันก็ดูไม่เลวเลยนะ”

หงเอ๋อร์ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินคุณหนูจางเหม่ยอิงพูดจาแปลกๆ หลุดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

"เอ่อ... คุณหนูเจ้าคะ ท่านพูดถึงอะไรที่ว่าเป็นคุณหนูในยุคโบราณนี่มันหมายความว่ายังไงกันเจ้าคะ?"

“ก็ฉัน ข้าหมายถึงแบบ… เอ่อ ข้าก็แค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันแปลกตาไปหมดน่ะ เหมือนตัวเองหลุดมาจากโลกอื่นอย่างนั้นเลย”

หงเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะถือวิสาสะยกมือขึ้นแตะหน้าผากของจางเหม่ยอิงด้วยความกังวล

“คุณหนู หรือว่าท่านจะยังไม่หายดีจริงๆ? ทำไมถึงพูดแปลกๆ เช่นนี้? บ่าวกลัวว่าท่านอาจจะเพ้อเพราะพิษไข้เสียแล้ว”

จางเหม่ยอิงรีบโบกมือ “ไม่ใช่ ไม่ใช่! ข้าสบายดี ไม่ได้เพ้ออะไรหรอก ก็แค่รู้สึกแปลกๆ เท่านั้นเองน่ะ อย่าซีเรียสเลยนะหงเอ๋อร์!”

แต่หงเอ๋อร์ยังคงมองจางเหม่ยอิงด้วยสายตาไม่ค่อยมั่นใจนัก

“เช่นนั้นบ่าวขอล่ะ ท่านว่าโปรดอย่าพูดแปลกๆ อีกเลยเจ้าค่ะ บ่าวกลัวใจจะขาดทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดแปลกๆ จากคุณหนู!”

จางเหม่ยอิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“ตกลงๆ ข้าจะไม่พูดอะไรแปลกๆ อีกแล้ว แต่เธอ... เจ้าต้องสัญญานะว่าจะไม่มองข้าเหมือนเป็นคนบ้าอีก”

หงเอ๋อร์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ “บ่าวสัญญาเจ้าค่ะ แต่ถ้าท่านพูดจาแปลกๆ อีก บ่าวก็จะถือว่าท่านยังไม่หายดีและจะเชิญหมอหลวงมาดูอีกครั้งนะเจ้าคะ!”

และทันทีที่จางซวนหลง เสนาบดีแห่งกรมยุติธรรมและฮูหยินหวงเจียซิน ผู้เป็นมารดาได้ข่าวว่าบุตรสาวคนงามฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้ว ทั้งสองก็รีบเดินเข้ามาเยี่ยมในห้องนอนด้วยความดีใจ

“เหม่ยอิง ลูกแม่! เจ้าเป็นอย่างไรบ้างลูก” หวงเจียซินเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน ในขณะที่บิดายืนมองอยู่ด้านหลังด้วยท่าทีเคร่งขรึม แต่ภายในใจกลับร่อนรุ่มตรงข้ามกับท่าทีที่แสดงออกภายนอก

จางเหม่ยอิงยิ้มแหยๆ ในใจคิดว่าต้องใช้ไหวพริบนิดหน่อยเพื่อรับมือสถานการณ์นี้ สองคนนี้เป็นใครกัน ทำไมร่างเดิมไม่ทิ้งความทรงจำไว้ให้ฉันเลย เอาล่ะ ตายเป็นตาย แกล้งทำเป็นจำไม่ได้แล้วกัน!

“เอ่อ... พวกท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ?” เธอทำหน้าเลิ่กลั่ก แสร้งทำเป็นตกใจและสับสน

จางซวนหลงกับหวงเจียซินเบิกตากว้างพร้อมกันด้วยความตกใจ

“เจ้า…จำพ่อไม่ได้หรือ เหม่ยอิง?” บิดาเอ่ยอย่างตกตะลึง

จางเหม่ยอิงรีบหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามสวมบทบาทอย่างเต็มที่ “ข้า…จำอะไรไม่ได้เลยเจ้าค่ะ ท่าน...พวกท่านเป็นใคร?”

หวงเจียซินยกมือปิดปากด้วยความตกใจ พลางมองบุตรสาวด้วยสายตาเวทนา

"เหม่ยอิงของแม่ ความจำเจ้าหายไปงั้นหรือ!? ไม่ได้ ไม่ได้ ข้าต้องรีบตามหมอ... ท่านพี่ ช่วยไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้ได้ไหมเจ้าคะ?"

จากนั้น เสนาบดีจางจึงออกไปตามหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมาดูอาการของบุตรสาวสุดที่รัก แต่ทว่าไม่มีใครสามารถบอกได้แน่ชัดว่าคุณหนูจางเหม่ยอิงเป็นอะไร ได้แต่สรุปเอาว่านางอาจได้รับผลกระทบจากตอนที่สลบไปอย่างกะทันหัน

“เอ่อ… ข้าคงต้องรบกวนให้พวกท่านช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้ข้าสักพักนะ” เธอพูดกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อหงเอ๋อร์และพ่อบ้านที่มีชื่อว่าหลิวกงหยวน

“บ่าวจะช่วยดูแลท่านอย่างเต็มที่ มีอะไรที่สงสัยสามารถถามบ่าวได้ตลอด คุณหนูไม่ต้องกังวลไปนะเจ้าคะ”

หลิวกงหยวน พ่อบ้านวัยกลางคนก็ยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว

“คุณหนูวางใจได้ ข้าจะช่วยแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างให้ท่านเอง ถึงท่านจะลืมอะไรไปหมด แต่พวกข้าจะไม่ยอมให้ท่านลืมเรื่องที่สำคัญอย่างแน่นอน”

“เรื่องสำคัญ?” จางเหม่ยอิงทำหน้างง แต่ในใจก็นึกสนุกไปกับสถานการณ์นี้แล้ว เธอพยักหน้ารับราวกับนักสืบกำลังวางแผน

“ดีเลย เช่นนั้นข้าคงต้องฝากฝังตัวข้าไว้กับพวกเจ้าชั่วคราวแล้วล่ะ!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel