แรกพบ
2 แรกพบ
พอซิงซิงเดินออกจากเรือนไป หลิวอี้เฟยรีบเดินไปยังด้านข้างของเตียงนอน แกะแผ่นไม้มุมข้างเตียงออก ตั๋วเงินที่นางแอบสะสมเอาไว้มาตลอด 5ปี ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็คงพอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ อยู่ที่นี้ทั้งถูกรังแกจากพวกยัยแก่แร้งทึ้ง บ่าวไพร่ไม่ให้ความเคารพ สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า
หันซ้ายหันขวา อยู่ข้างกำแพง เอาไงดี พอมายืนใกล้ๆ สูงใช่ย่อย สูงขนาดนี้จะบีนยังไง จดเวลาเวรยามมาอย่างดี แต่ดันมาเจอกำแพงมุมที่ สูงที่สุดในจวน จะบีนออกยังไงล่ะ หลิวอี้เฟยได้แต่ยืนถึ้งหัวตัวเอง อยากจะตะโกนแหกปากระบายอารมก็กลัวจะมีคนได้ยิน
"สำเร็จมั้ยเจ้าค่ะ" หลิวอี้เฟยสะดุ้งสุดตัว เมื่อหันไปมองตามเสียง เป็นซิงซิงสาวใช้ประจำตัวของนางนั้นเอง "เฮ้อ เจ้านั้นเองตกอกตกใจหมดเลย "
"ซิงซิงว่าคุณหนูกลับไปเตรียมตัวดีกว่าเจ้าค่ะ" สาวใช้พูดไปลากแขนเจ้านายตัวแสบไปด้วย ตั้งแต่นางตื่นมาจากล้มหัวพาดพื้น เมื่อ5ปีก่อน จากคุณหนูสี่ผู้เรียบร้อย พูดจาอ่อนหวานงดงาม กลายเป็นแก่นแก้ว แสบทรวง พูดจาวาแปลกๆ แต่นางแสดงออกแต่ตอนอยู่กับซิงซิงเท่านั้น
"เฮ้อ ไอ้ข้าก็ลืมไปว่ากำแพงมันสูง บันไดลิงก็ไม่ได้เตรียมมา แล้วจะทำไงดีล่ะซิงซิง ข้าไม่อยากเจออ๋องบ้ากามคนนั้น" หลิวอี้เฟยได้แต่นั่งตัดพ้อ
"ซิงซิงว่า คุณหนูเตรียมตัวจะดีกว่าเจ้าค่ะ ใกล้ได้เวลาแล้ว "
"ในเมื่อไม่มีทางเลือก อยากเจอก็จะให้เจอ"
"คุณหนูคงไม่ได้วางแผนอะไรแปลกๆ ไว้ใช่มั้ยเจ้าค่ะ"
หลิวอี้เฟยไม่ตอบสาวใช้ ได้แต่ยิ้มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย บอกไปก็ไม่สนุกสิ
ที่เรือนรับรอง คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ประธาน หลิวอี้สง ราชครูแห่งแค้วนหยาง เก้าอี้ข้างๆ กันคือฮูหยินใหญ่ หลิวเจียวมี่ และคุณชายรองหลิวอี้ฝาน คุณชายคนเดียวของตระกูล แล้วที่ยืนเหมือนไร้ตัวตนอยู่ คือ หลิวอี้เฟย นางใส่ชุดสีขาวขลิบฟ้า สายคาดเอวสีน้ำเงิน ยืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
โอ้ยยยยย เมื่อไรอิตาบ้ากามนั้นจะมา ข้าอึดอัด ยัยแก่ฮูหยินก็ไม่ยอมให้ข้านั่ง ให้ยืนรอจะปวดขาไปหมดแล้ว
ท่านอ๋องเสด็จ เสียงบ่าวหน้าเรือนรับรอง เมื่ออ๋องสามเดินเข้ามาในห้องโอ้วแม่เจ้า หล่อลากดิน หล่อโอป้ามากค่ะคุณพี่ขา อี้เฟยยืนตะลึง มาอยู่โลกนี้ได้5ปี เพิ่งเจอคนหล่อขนาดนี้ สูง180 ผิวขาว หน้าเนียนมาก
ท่านอ๋องสาม เหมือนเห็นหน้าของหญิงสาวที่ยืนตะลึง อยู่ในพะวง จึงยิ้มหวานตอบ ทำเอาอี้เฟยได้สติทันที
ก้มหน้าก้มตา ด่าตัวเองในใจ ที่เผลอปล่อยไก่ให้ อิตาอ๋องบ้ากามหัวเราะเยาะเอา
อ๋องสามหยางชงอวี้ ได้ชื่อว่าอ๋องเจ้าสำราญ เข้าออกหอโคมเขียวเป็นว่าเล่น มีอนุถึงสามคน แต่ยังไม่ได้แต่งพระชายา
หลิวอี้สง รีบลุก ให้อ๋องหยางชงอวี้นั่งเก้าอี้ประธาน
"หลังจากมีราชโองการประทานสมรสของเปิ่นหวางกับคุณหนูสี่ตะกูลหลิวเมื่ออาทิตก่อน วันนี้เปิ่นหวาง จึงมาของดูหน้าว่าที่พระชายาซักหน่อย คงไม่เป็นการรบกวน"
"ไม่เลย ไม่เลย ข้าน้อยยินดีเสียด้วยซ้ำไปที่ท่านอ๋องมาเยือน" หลิวอี้สง รีบประจบออกนอกหน้า หลิวอี้เฟยได้แต่ยืมก้มหน้าอยู่ท่าเดิม จนฮูหยินเดินมายืนข้างๆ แล้วหยิกเอว
"หลิวอี้เฟย ถวายพระพรท่านอ๋องเพค่ะ" ยิ้มเอียงอายเล็กน้อย พร้อมถอนสายบัวอย่างงดงาม
หยางชงอวี้ ยิ้มกว้าง ตามประสาหนุ่มเจ้าเสน่ห์
เฮอะ นางก็เหมือนลูกสาวตะกูลขุนนางทั่วๆ ไปนั้นล่ะ มีดีแค่สวย เรียบร้อย ได้ข่าวว่านางนั้นเรียบร้อย เพียบพร้อมทุกด้าน ส่วนราชครูก็หวังให้เค้าเป็นฐานสร้างอำนาจหน้าที่
"อายุเท่าไรแล้วล่ะ"
"18 ปีเพค่ะ" หลิวอี้เฟย งุนงงถามคำถามบ้าบออะไรเนี้ย
"แล้วทำไมถึงยังไม่ออกเรือน บุตรสาวบ้านอื่นเค้า16ปีก็ออกเรือนแล้ว " หยางชงอวี้ ถามด้วยน้ำเสียงปนขำ
ฮูหยินรีบตอบ อย่างไว" นางร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนี้หายดีแล้วเพคะ"
หลิวอี้เฟยได้แต่ยืนขำในใจ ใครบอกนางร่างกายไม่แข็งแรง หากไม่แข็งแรงจริงคงอยู่ไม่รอดมาถึงวันนี้หรอก ตลอด5ปีมานี้ นางพยามหนีออกจากจวนมาไม่รู้กี่ครั้ง ถูกจับได้ทุกครั้งก็เจอโบย ใต้ร่มผ้าเนื้อแตกมาไม่รู้กี่รอบแล้ว 55555555555 คิดแล้วก็แอบภูมิใจตัวเอง
"เปิ่นหวางยังไม่อยากมีพระชายา" หลิวอี้สงกับฮูหยินได้ฟังแล้วก็ตกใจ ไม่น้อย
"แต่ เป็นราชโอการ ประทานสมรสนะท่านอ๋อง จะขัดไม่ได้" ราชครูหลิวอี้สงรีบตอบสวนออกไปอย่างรวดเร็ว หน้าถอดสี
"แล้วยังไง? ใครจะบังคับเปิ่นหวางได้ หากเปิ่นหวางไม่อยากแต่งคือไม่แต่ง" เฮอะ อยากให้ข้าเป็นบันไดบีนขึ้นไปสินะ ไอ้แก่ราชครู
หลิวอี้เฟย ที่ยืนพยายามกลั้นหัวเราะอยู่มุมห้อง ในที่สุดก็ทนไม่ไหว หลุดขำมาเบาๆ ถึงจะไม่ดังมากนัก แต่ก็ทำให้ทุกคนในห้องหันมาที่นาง
หยางชงอวี้ เลิกคิ้วเล็กน้อย น่าสนใจ
"เปิ่นหวาง มีธุระ วันนี้ขอตัวก่อน" พูดจบก็เดินออกไปเลย ราชครูหลิวอี้สง ฮูหยินใหญ่และหลิวอี้ฝาน ยังไม่ได้ทันกล่าวอันใด
พอทุกคนได้สติก็หันกลับมาที่ ตัวต้นเหตุ จะเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกจากหลิวอี้เฟย ที่ยืนเอามือพยายามปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่