2
“ให้มันแน่”
“สาวๆ ที่ผมควง สวยๆ เซ็กซี่น่าขย้ำทั้งนั้นนะครับ ผมไม่ชอบจืดชืด อ้วนเป็นหมูเหมือนเด็กสาวิกาของคุณแม่หรอกครับ”
“อ้วนเป็นหมู!” คุณกวินตราทวนคำลูกชายแล้วสะบัดค้อน ดูพูดแต่ละอย่าง น่าตบปากนัก
ปากคอเราะราย... คนที่โดนหาว่าอ้วนเป็นหมูถึงกับสะดุ้ง ขณะที่จะนำของหวานไปเสิร์ฟ
สาวิกาก้มมองรูปร่างของตัวเอง เธออ้วนเป็นหมูจริงๆ เหรอ?
เธอสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร น้ำหนักแค่ห้าสิบกิโลกรัมเองนะ เขาพูดเว่อร์เกินจริง
“อ้าว... แม่สา เอาของหวานมาเสิร์ฟเหรอ” คุณกวินตราหันมาพอดีจึงเอ่ยถามขึ้น
“ค่ะคุณท่าน” เธอเดินไปเสิร์ฟขนมหวาน เป็นกล้วยบวชชีจากสวนหลังบ้าน คุณกวินตราชอบอากาศบริสุทธิ์ หลังวางมือจากธุรกิจก็กลับมาอยู่บ้านสวนของท่าน เป็นมรดกตกทอดของบิดามารดา ท่านกลับมาทำไร่ทำสวนออกกำลังกาย เรียกว่าต้นตระกูลของท่านเป็นเศรษฐีของที่นี่เพราะมีที่ดินมาก เธอกับมารดาช่วยดูแลบ้านหลังนี้เพราะมารดาเป็นคนสนิทและอีกนัยหนึ่ง เป็นเพื่อนวัยเด็กของท่าน นานๆ ท่านจะแวะมาพักผ่อนและมาดูผลหมากรากไม้สักทีหนึ่ง แต่พอมารดาของเธอเสีย ท่านก็วางมือจากธุรกิจกลับมาอยู่ที่นี่ เธอเลยรับหน้าที่ดูแลท่านต่อจากมารดา
คุณกวินตราเป็นคนใจดีมีเมตตา ชอบช่วยเหลือคนอื่น แถมยังมองคนที่น้ำใจและความเป็นคนดีมากกว่าที่ทรัพย์สินเงินทอง ท่านเมตตาเอ็นดูส่งเสียเธอเล่าเรียนตั้งแต่เด็ก เธอจึงคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างเต็มที่ มิขาดตกบกพร่อง
“กล้วยบวชชีเหรอครับคุณแม่” คนไม่ชอบรับประทานของหวานเห็นแล้วส่ายหน้าไปมา
“ฝีมือแม่สา ลองชิมดูสิ กินกล้วยบวชชีก็ดีกว่ากินเหล้ากินเบียร์เป็นไหนๆ” กวินยังโดนมารดาแดกดันเล็กๆ พอได้ยินว่าเป็นฝีมือของเด็กในบ้าน หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราเขาก็ลองตักชิมดู กลิ่นหอมหวานมันอร่อยทำให้เขาต้องตักกินอีกเป็นคำที่สองและคำต่อๆ ไป ไม่นานก็หมดถ้วย
“เอาอีกไหมล่ะ”
“พอแล้วละครับ หวานเลี่ยนแสบลิ้น”
“แล้วอร่อยไหมล่ะ”
“ก็... อร่อยครับ” เขาเอ่ยชม คนทำเผลอยิ้ม แต่พอเขาหันมาสบตาด้วยเธอก็หลบหน้าหลบตาเลี่ยงออกมาทันที
“จะค้างที่นี่หรือเปล่า แม่จะให้แม่สาเตรียมห้องเอาไว้ให้”
“ค้างครับ” เขาตอบรับขณะยกน้ำเย็นๆ ขึ้นดื่ม
บ้านสวนที่ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จริงๆ ลูกชายจะกลับมานอนบ้านก็ยังได้ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ในคอนโดฯ หรูหราใจกลางกรุงเสียมากกว่า ส่วนบ้านหลังใหญ่นั้นคุณกวินตราให้คนสนิทช่วยดูแล เพราะมันหลังใหญ่เกินไป ท่านเหงาเลยมาอยู่ที่นี่ ตอนกลางวันมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาสนทนาปราศรัยให้หายเหงา ได้อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ ออกแรงทำสวนบ้างก็ได้ ออกกำลังกาย ดีกว่านั่งๆ นอนๆ ให้โรคภัยไข้เจ็บถามหา
คุณกวินตราเรียกเด็กสาวมาสั่งความให้ไปจัดห้องหับให้บุตรชาย สาวิการับคำก่อนจะรีบไปจัดการโดยเร็ว ไม่กี่นาทีเพื่อนบ้านก็มาเยี่ยม นั่งคุยกันอย่างออกรส กวินจึงขอตัวจากมารดาเสีย
เขาเดินมาหยุดหน้าประตูห้อง ลูบคางไปมา ก่อนจะกัดปากเบาๆ กวาดสายตามองไล้รูปร่างอวบอิ่มไม่วางตา เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก
“ว้าย! อุ๊ย! อื้อ...” สาวิการ้องติดกันหลายครั้งก่อนจะเป็นเสียงคราง เมื่อโดนลูบก้น พอเธอหันมาเขาก็กดเธอลงบนเตียงนอนกว้างที่เธอเพิ่งดึง ผ้าปูเตียงเสร็จ เขาใช้มือตะปบปิดปากของเธอเอาไว้ เด็กสาวส่ายหน้าไปมา ตกใจกลัวเขายิ่งนัก
“สัญญาว่าจะไม่ร้อง แล้วจะปล่อย โอเค้” เน้นย้ำ ในขณะที่เธอรีบพยักหน้ารับ
เขาค่อยๆ เปิดปากของเธอ เธอทำท่าจะร้องเป็นจังหวะเดียวกับที่เผยอริมฝีปาก เขาจึงบดจูบลงไปหาเต็มรัก
สาวิกาเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะโดนจูบ เขากดมือเธอทั้งสองข้างเอาไว้บนเตียง สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน เธอจะกัดลิ้นของเขา แต่เขา เบี่ยงหลบทัน เธอหอบสะท้าน ทำท่าจะร้องเขาก็บดจูบลงมาใหม่ จูบเอาๆ จนแทบหายใจหายคอไม่ทัน
“ไหนบอกว่าจะไม่ร้องไง”
“อื้อ...” แค่อ้าปากเขาก็บดจูบลงมาอีก บดปากเธอจนช้ำบวมเจ่อ