Ep3 เจ้าของบ้าน
บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ กินพื้นที่สามไร่ ตั้งอยู่ในเขตนอกเมือง ห่างไกลความเจริญ ห่างไกลความแออัด ห้อมล้อมไปด้วยสนามหญ้าและปูทางเดินอย่างดีด้วยกระเบื้องคอนกรีตสีส้มอิฐ พื้นที่สนามหน้าบ้านปลูกประดับไปด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายพันธุ์ที่ให้เชยชมสีของดอกไม้ที่ตัดกับพื้นหญ้าสีเขียว ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้าน ถูกดูแลอย่างดีจากพวกคนสวน พื้นที่ด้านข้างมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ให้เจ้าของบ้านได้แหวกว่ายด้วยความสนุกสนาน ส่วนพื้นที่ด้านหลังสุดจะเป็นห้องครัว...และตามด้วยห้องพักพวกคนใช้ที่นอนเบียดเสียดกัน ห้องหนึ่งก็ประมาณสองสามคน ส่วนตัวบ้านสูงถึงสามชั้น มีขนาดความกว้างหนึ่งพันสองร้อยตารางวา ใหญ่ขนาดนี้ก็น่าจะมีพวกเจ้านายอาศัยกันอยู่หลายคน แต่ไม่เลย ที่นี่มีเจ้านายแค่คนเดียวคือ ‘ปรเมศร์’ ผู้ชายวัยสามสิบสาม ที่เหล่าพวกคนใช้เรียกว่า ‘คุณผู้ชาย’
ปรเมศร์ รูปร่างสูงโปร่ง มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย คิ้วหนาเรียงเส้นกันสวย จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้า ดวงตาคมเหมือนเหยี่ยว ริมฝีปากหนารอยหยักเด่นชัด สันกรามคมในแบบต้นฉบับของผู้ชาย เขาหล่อ...หล่อลากดิน...หล่อตะโกน และนั่นก็เป็นที่หมายปองของสาว ๆ แต่เขาไม่เคยชายตามองใครเลย เพราะด้วยนิสัยเย่อหยิ่ง โลกส่วนตัวสูง รักความสะอาด เจ้าระเบียบ ไม่ค่อยพูดค่อยจา มองโลกด้วยสายตาจริงจังเสมอ
เขามีไอคิวอัจฉริยะสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบ พูดได้ถึงเจ็ดภาษา หัวไว จดจำสิ่งยาก ๆ ได้แค่ในชั่วพริบตา จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก ด้วยวัยยี่สิบต้น ๆ จนถูกบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ก และนั่นแหละทำให้บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ต้องการตัวเขาเพื่อให้ร่วมงานด้วย เสนอเงินเดือนหลายหมื่นดอลลาร์เป็นค่าตอบแทนในแต่ละเดือน เงินมหาศาลขนาดนั้น มีเหรอที่ปรเมศร์จะปฏิเสธได้ เขาเลยเลือกทำงานเมืองนอกเป็นสิบ ๆ ปี
แต่เมื่อสามปีก่อน พ่อเพียงคนเดียวได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา ทำให้ปรเมศร์เสียใจหนักมาก และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เขาต้องกลับมาไทย เพื่อดำเนินธุรกิจของพ่อต่อ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ผลิตเบียร์ สุรา เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รวมไปถึงอาหารต่าง ๆ ภายในแบรนด์ของตัวเอง บริษัทนี้ถือเป็นหนึ่งในสิบสี่ที่ใหญ่ที่สุดของไทยก็ว่าได้
งานของเขาจึงหนักหนาเอาการสำหรับคนที่เพิ่งมารับตำแหน่งประธานคนใหม่ แต่ด้วยความฉลาด ความขยันทุ่มเทของปรเมศร์ ทำให้เขาเรียนรู้ได้ไวกว่าคนอื่น เริ่มตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นวางการตลาด เพียงแค่ปีเดียวทำให้บริษัทก้าวกระโดดอย่างไว เขากลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่คนทั้งประเทศรู้จัก ได้ลงนิตยสารน้อยใหญ่มากมายราวกับเป็นดารามีชื่อเสียงคนหนึ่ง และด้วยความร่ำรวย ความมีหน้ามีตาในสังคม ทำให้สาว ๆ หลายคนพากันเข้าหาเขา
ชีวิตหวือหวาไม่ได้จีรัง เมื่อเขาพบว่าตัวเองแปลกไปจากเดิม และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เขาต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน มาร่วมสองปีแล้ว...โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้เหตุผล...
ช่วงดึก
บรรยากาศเงียบสงบ บ้านหลังใหญ่ปกคลุมไปด้วยความมืด ไร้ซึ่งแสงสว่างจากไฟนีออน เพราะทุกคนต่างพากันหลับใหล รวมไปถึงร่างโปร่งในห้องนอนใหญ่ด้วยเช่นกัน
แก๊ก!! แก๊ก!!
เสียงบางอย่างกวนใจ ทำให้ปรเมศร์สะดุ้งตื่นจากภวังค์ นั่นคือเสียงกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์มาจากห้องด้านข้าง นั่นเป็นห้องทำงานของเขาเอง ซึ่งมันล็อคไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าไปได้ และยังมีประตูด้านข้างอีกบานเชื่อมต่อกับห้องนอนเขาโดยตรง ทำเสริมไว้ก็เพราะไม่อยากเดินอ้อมให้เสียเวลา
เจ้าของห้องตื่นอย่างงัวเงีย เปิดไฟสว่างจ้า ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบานที่ว่า ภายในห้องทำงานมืดสลัว มีแค่แสงไฟจากโคมไฟบนโต๊ะทำงานเท่านั้น ซึ่งเขามั่นใจมาก ว่าตอนหัวค่ำปิดไว้เรียบร้อยแล้วก่อนออกไป พอชะโงกมองหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะก็ยังปิดอยู่
หรือเสียงที่ได้ยินจะเป็นการคิดไปเอง
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะปิดไฟหนึ่งเดียวที่สว่างอยู่ในห้อง ก็กลับเห็นเงาตะคุ่มอยู่บนพื้นข้างโต๊ะขยับขึ้นลงถี่ ๆ ตรงข้ามกับที่เขายืนอยู่
ใครวะ? คนหรือผี...
ปรเมศร์หรี่ตามัว ๆ เพ่งมองให้แน่ชัด แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงครางออกมา
“อ่าห์...สุดยอดไปเลยค่ะ เสียวสุด ๆ”
เสียงแตกพร่า ตามด้วยเสียง แจ๊ะ!! แจ๊ะ!! ทำให้ปรเมศร์รู้ทันทีว่าต้องมีหญิงสาวสักคนมาทำอะไรพิเรนทร์ตรงนี้แน่ ๆ ไม่ใช่ผี!!
จากที่จะเดินไปปิดโคมไฟ ก็กลายเป็นเปิดสวิตช์ให้สว่างทั้งห้องแทน
เจ้าของเสียงสัปดนที่กำลังละเลงนิ้วกับกลีบงามตัวเองถึงกับตกใจ
“อุ๊ย!!”
เธอรีบดีดตัวลุกจากพื้น กวาดสายตามองรอบ ๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อหันมาเห็นเจ้าของบ้านยืนเท้าสะเอวไม่พอใจอยู่
“นี่เธออีกแล้ว!!”
สายตาคมกวาดตามองเรือนร่างเล็กตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวสีขาวโนบราเนื้อผ้าบางจนเห็นจุกสีอ่อนเด้งตั้งชัน กับกางเกงขาสั้นสีดำสั้นจู๋ที่ปลายกางเกงข้างหนึ่งถกขึ้นไปเห็นกลีบอวบอูม พอเห็นชัด ๆ แบบนี้ ผิวของเธอขาวจริง ๆ ขาวไปถึงเนื้ออ่อนตรงหว่างขาด้วย
อึก!!
เจ้าของบ้านกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ภาพตรงหน้ามันยั่วเกินไป เขาเองไม่ได้สัมผัสผู้หญิงมาเป็นปี ๆ ของดีอยู่ตรงหน้าจะอดใจได้ยังไง ขายาวเลยสาวเท้าเข้าไปหาคนตัวเล็ก
“คุณ...ผู้ชายมาได้ยังไงคะ”
เสียงขวยเขินถาม ในขณะที่ยกมือขึ้นมาปิดหน้าอก แต่นั่นกับทำให้เนินอกเด้งชัดกว่าเดิม เขากำลังถูกยั่ว...
เธอไม่กล้าสบตากับเขาก็เพราะคนตรงหน้าไม่ได้สวมเสื้อ มีเพียงกางเกงนอนขายาวที่ปิดแค่ท่อนล่าง อวดกล้ามแผงอกมัดแน่น หน้าท้องเป็นลอน จนถึงสะดือที่ตรงนั้นมีขนอ่อน ๆ ดกดำลากยาวลงมาถึงขอบกางเกง
“ฉันต้องถามมากกว่า ว่าสาวใช้อย่างเธอมาห้องทำงานของฉันได้ยังไง”
“เรื่อง...นั้น”
“อะไร?”
“หนูแค่มาช่วยตัวเอง เพราะห้องข้างล่างมีคนอยู่เยอะ” เสียงเล็กตะคอกพร้อมกับหลับตาปี๋ ทำไปเพื่อแก้เขิน แต่จะเขินทำไมในเมื่อเธอมาที่นี่เพื่อระบายความใคร่เอง
ปรเมศร์มาหยุดยืนตรงหน้าคนตัวเล็ก ใช้มือหนาโอบเอวคอด ดันเรือนร่างเย้ายวนให้แนบชิดเข้าหาอกตัวเอง กลิ่นครีมอาบน้ำอ่อน ๆ จากตัวเธอ ทำให้รู้ว่าเพิ่งจะอาบน้ำมามาด ๆ เธอตัวสะอาด ทำให้ชายหนุ่มระบายยิ้ม ก่อนจะมุดหน้าลงไปตรงระหว่างอกอิ่มพอดี
“อ๊ะ!! คุณผู้ชาย”
หญิงสาวที่กระสันอยู่แล้ว ก็กระสันเข้าไปใหญ่ เธอจิกทึ้งลงบนกลุ่มผมหนา แข้งขาเธอแทบยืนไม่ไหว เพราะคนตัวสูงเริ่มใช้ริมฝีปากขบลงไปบนเนินอิ่ม ก่อนจะถกชายเสื้อขึ้นมาสูงเหนือราวนม เผยให้เห็นเต้าใหญ่น่าฟัด เขามุดลงไปทั้งดูด...ทั้งดึงตรงจุกสีอ่อนด้วยความมันเขี้ยว
เขาก็แค่สนอง เมื่อมีหญิงสาวมาเสนอ ไม่เห็นจะผิดตรงไหน ก็เธอมายั่วเอง แถมบ้านนี้เป็นของเขา...เขาจะทำอะไร...ยังไง...กับใครก็ได้
“อ่าห์...คุณผู้ชาย อย่า...อะ...”
ปากบอกว่าอย่า แต่หญิงสาวหลับตาพริ้ม ขบริมฝีปากอย่างเสียว แค่ปลายลิ้นสากตวัดขึ้นลงไปบนยอดจุก เธอก็ครางกระเส่าพร้อมกับพ่นไอร้อนออกมาจากปากแล้ว
มาช่วยตัวเองต่อหน้าผู้ชายแสดงว่าของขาดจริง ๆ ดูท่าทางจะเจนจัดไม่น้อย ก็ดี!! จะได้ไม่ต้องสอนอะไรกันมาก สนุกด้วยกันทั้งคู่
แต่แล้ว...
“คุณผู้ชายเอาหนูเลยเถอะค่ะ...ปล่อยข้างในหนูได้เลย...หนูพร้อม...ซี้ด!!”
เสียงครางเร่งเร้า ทำให้ปรเมศร์ชะงัก ยกใบหน้าขึ้นจากอกอิ่ม มองคนหน้าแดงระเรื่อด้วยแววตาจริงจัง แล้วผลักร่างคนตัวเล็กออกห่างไปด้วยความรังเกียจ
