บท
ตั้งค่า

Ep05 ใสซื่อ

“เธอ?” คิ้วย่นเลิกขึ้นสูง เป็นนัยถามว่าเจ้านายถามถึงใคร

“สาวใช้คนใหม่”

“ยัยริน...เธอชื่อริน อายุ22 นิสัยน่ารัก พูดเก่ง ทำงานเก่ง ป้าเลยรับเข้ามา”

“แค่นี้เหรอ”

“แค่นี้ค่ะคุณผู้ชาย”

“ป้าไม่ได้ซักประวัติหรือไง ว่าเธอมาจากไหน ลูกเต้าใคร ก่อนมาเป็นสาวใช้ทำงานอะไรมาก่อน บ้านอยู่ที่ไหน”

“ไม่ค่ะ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ก็เธอออกจะน่ารักน่าไว้ใจ”

“อะไรนะ!! ถ้าเธอเป็นโจรล่ะ เป็นคนต่างด้าวหนีแรงงานมาจะทำยังไง”

“โธ่...คุณผู้ชายคิดมากไปแล้ว” ป้าลำดวนคลี่ยิ้มออกมา จริง ๆ ก็รู้นิสัยของเจ้านายตัวเองดีว่าเป็นคนเที่ยงตรงขนาดไหน แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นเอามากกับอีแค่สาวใช้คนใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะใส่ใจสาวใช้คนไหนเลย

ในวินาทีเดียวกัน คนที่ถูกเอ่ยถึงก็เดินพรวดพราดเข้ามาในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสนทนากัน ทำให้ทุกคนต่างหยุดชะงักหันไปมองคนมาใหม่ ส่วนรินเองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะทุกสายตาหันมามองเธออย่างพร้อมเพรียง

“หนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ เมื่อกี้แค่ไปช่วยลุงสนั่นล้างรถ...ชุดเลยเปียก”

เธอเอ่ยตอบไปก่อน เพราะกลัวว่าการทำงานวันที่สองจะทำให้ใครไม่พอใจอีก แต่ทุกคนไม่ได้โฟกัสกับสิ่งที่คนลนลานพยายามอธิบาย ที่จ้องเธออยู่ก็เพราะพิจารณาว่าเป็นคนต่างด้าวอย่างที่เจ้านายเพิ่งพูดไปไหม

“มาก็ดีแล้ว เธอมาร้องเพลงชาติให้คุณผู้ชายฟังหน่อย เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นคนต่างด้าว”

“หนูเหรอ?” ดวงตากลมโตเบิกกว้างยิ่งกว่าเก่า

“ก็ใช่สิ เด็กคนนี้ไม่รู้เรื่องเอาซะเลย”

รินรู้ทันที ไอ้ที่ทุกสายตาหันมามองตัวเองเมื่อครู่ คงเพราะกำลังถูกนินทาอยู่ ใบหน้าสวย ๆ ระบายยิ้ม ก่อนจะเดินไปยืนข้างคุณผู้ชายที่เบนหน้าหันกลับไปหยิบถ้วยกาแฟขึ้นจิบ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่

“เสียงหนูไม่เพราะ จะฟังกันได้เหรอคะ”

“หน่า ๆ บอกให้ร้องก็ร้องสิ”

“ค่ะป้า...แฮ่ม!! วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำในนองเต็มตลิ่ง...” แค่วรรคแรกก็ทำเอาคนที่ยืนอยู่ต่างพากันกลั้วหัวเราะ ก็เพราะเธอร้องผิดเพลง...เสียงเหิน...เสียงหลง หาความเพราะไม่ได้ ผิดกับคนนั่งหัวโต๊ะที่กาแฟในปากแทบพุ่งออกมา

เสียงเธอมันแสบแก้วหู เหมือนวัวกำลังจะออกลูกยังไงยังงั้น

“เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกัน...”

“พอ!!”

ปรเมศร์ตะคอกจนคนร้องเพลงถึงกับสะดุ้งเม้มปากสนิทเป็นเส้นตรง ก็ขืนเขาไม่ห้ามมีหวังคนเสียงเพี้ยนได้ร้องจนจบเพลงแน่ ๆ

“เชื่อแล้วใช่ไหมคะว่าหนูเป็นคนไทย”

เสียงใสถามกลับ ใบหน้าฉายแววความใสซื่อ

ตกลงเธอซื่อจริงหรือว่าแกล้ง

“จะไปไหนก็ไป”

เสียงเบื่อหน่ายเอ่ยพร้อมกับสะบัดมือไล่ ร่างอ้อนแอ้นเหลือบไปมองป้าแม่บ้านก่อนจะก้าวไปยืนใกล้ ๆ สาวใช้สองคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว ป้าลำดวนจึงก้าวกลับมายืนที่เดิม

ทั้งสี่คนยืนเรียงหน้ากระดาน ปรเมศร์ปรายตาไปมองนิด ๆ พร้อมกับหันมากินขนมปังคำโต ๆ วันนี้เขากินเยอะเป็นพิเศษเพราะมีอาหารตามองเพลิน ๆ ในบรรดาที่ยืนอยู่สี่คน ถึงจะใส่ชุดยูนิฟอร์มเหมือนกัน แต่เธอโดดเด่นที่สุด ก็เพราะยังเอ๊าะ หน้าตาสะสวย ผิวขาวเนียนสมวัย โดยเฉพาะหุ่นที่พอมองแล้วทำให้เขาคิดถึงเต้าอวบอิ่มที่เมื่อคืนฟัดยังไม่ทันหนำใจ

“มื้อกลางวันคุณผู้ชายจะรับประทานอะไรดีคะ” ป้าลำดวนจะถามแบบนี้เสมอ เพราะกลัวทำอาหารมาแล้ว คุณผู้ชายที่อาศัยอยู่เมืองนอกมาเป็นสิบ ๆ ปีจะกินอาหารไทยไม่ได้

“ปลาแซลมอน” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยตอบ เขาไม่ได้หันไปมองคนถามสักนิด เอาแต่นั่งฉีกขนมปังใส่ปาก

“ใส่ในแกงเขียวหวานเหรอคะ”

ขวับ!!

ทุกสายตาหันไปมองเจ้าของเสียง ซึ่งมาจากปากคนที่ยืนอยู่ท้ายสุด เพราะจู่ ๆ เธอก็เอ่ยโพล่งออกมา จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นป้าลำดวนที่จะต้องเอ่ยต่อ

ใบหน้าสวยเลิกคิ้วสูง เพราะไม่รู้เลยว่าทำไมพวกเขาถึงหันมามองตนแบบนั้น

“เด็กคนนี่เนี่ย ไม่รู้หรือไงปลาแซลมอนมาจากเมืองนอก ราคาตัวละหลักหมื่นหลักแสนจะให้มาใส่ในแกงเขียวหวานได้ไง มันลดคุณค่าปลาดี ๆ หมด” ป้าลำดวนตำหนิเธอ

“อ้าว ปลาแซลมอนไม่ใช่ปลากรายเหรอคะ” หน้าตาแบ๊วถามต่อ พลางมองป้าลำดวนสลับกับสาวใช้ทั้งสองคน

“ใช่ที่ไหนกันล่ะ มาจากบ้านนอกหรือไงไม่รู้จักปลาแซลมอน” ป้าคนที่ยืนข้าง ๆ รินเอ่ยแทรกขึ้น พร้อมกับขบขันในความซื่อ...ความเปิ่นของคนถาม

“หนูมาจากบ้านนอก อ่านหนังสือไม่ค่อยจะออก เลยไม่รู้อะไรเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะที่พูดแทรกออกไปแบบนั้น” รินส่งยิ้มเจื่อน ๆ ยืนห่อไหล่พลางใช้ปลายนิ้วชี้แตะเข้าหากัน ท่าทางขวยเขินน่าเอ็นดู จนคนอื่นโกรธเธอไม่ลง แต่ไม่ใช่สำหรับปรเมศร์ เขานั่งดูพฤติกรรมของเธอด้วยสีหน้านิ่ง ไม่เชื่อสักนิดว่ายัยนี่จะใสซื่อ ก็มายั่วเขาซะขนาดนั้น จะบอกว่าใสซื่อได้ยังไง

“พวกป้าจะไปทำอะไรก็ไป”

เจ้าของบ้านกดเสียงต่ำ ทำให้ทุกคนต่างหันมามอง

“ค่ะคุณผู้ชาย”

ทั้งสี่กำลังจะหมุนตัว แต่เจ้าของบ้านดันเอ่ยต่อ

“ยกเว้นเธอ ต้องอยู่คอยเสิร์ฟกาแฟให้ฉัน” หน้าคมเชิดปลายคางชี้สาวใช้คนใหม่ ป้าแม่บ้านทั้งสามคนหันไปมองคนที่ต้องอยู่ ก่อนจะหมุนตัวกลับเดินออกไปจากห้องอาหาร

เอาล่ะ...พวกเขาได้อยู่กันตามลำพังแล้ว ร่างอ้อนแอ้นก้าวขยับไปยืนตำแหน่งป้าลำดวน จับมือประสานวางไว้ตรงหน้าท้อง ยืนแอ่นอกหลังตรง เชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อย เตรียมพร้อมจะรับคำสั่งเจ้านายที่ตอนนี้เหมือนเขากำลังจะอ้าปากเอ่ยอะไรสักอย่าง

“ต้องการเติมกาแฟใช่ไหมคะ”

รินเอ่ยก่อนที่จะได้รับคำสั่ง หมุนตัวไปหยิบเหยือกแก้วใส่กาแฟบนโต๊ะด้านหลัง สาวเท้ามาหาเจ้านายที่กำลังนั่งขมวดคิ้วมุ่ย ที่เขากำลังจะเอ่ยไม่ได้ต้องการกาแฟ แต่จะถามเรื่องของเธอต่างหาก

ทว่า!!

ขาเรียว ๆ ของคนรีบร้อนดันสะดุดกันเอง ก่อนจะก้าวมาถึงตัวเขา พลันให้กาแฟที่ยังอุ่น ๆ สาดใส่กางเกงคนที่นั่งอยู่ ทำให้ปรเมศร์ถึงกับลุกยืนพรวดพราดด้วยความหงุดหงิด ก้มมองคราบกาแฟเปียกเลอะเต็มหน้าขาและเป้ากางเกง ดีที่กาแฟไม่ร้อนมาก ไม่งั้นเขาคงโดนลวกไปแล้ว

“ทำบ้าอะไรของเธอ!!”

“ขอโทษค่ะ ๆ หนูไม่ได้ตั้งใจ”

คนก่อเรื่องวางเหยือกแก้วไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากระโปรง เช็ดคราบกาแฟบนกางเกงเจ้านาย แล้วนั่งคุกเข่าลงเพื่อให้เช็ดได้ถนัด

“ร้อนไหมคะ หนูว่าคุณผู้ชายถอดกางเกงออกมาเลยดีกว่า เดี๋ยวหนูเช็ดให้”

“จะบ้า...”

เสียงติดหงุดหงิดเอ่ยไม่จบประโยค เพราะเหลือบไปมองร่างอ้อนแอ้นที่นั่งคุกเข่าอยู่ สายตาปรเมศร์หยุดนิ่งที่ร่องอกของเธอพอดี มองจากมุมสูงแล้วมันยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ จนเขาต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ

ส่วนเธอเห็นว่าเจ้านายเงียบไป คิดว่าเขาคงร้อนเอามาก ๆ จนพูดไม่ออก เลยถือโอกาสเอาผ้าเช็ดหน้าซับลงไปที่เป้ากางเกงของชายหนุ่มอย่างจัง พลันให้ชายหนุ่มตกใจสะดุ้งถอยห่างทันควัน

“คุณผู้ชายจะหลบทำไมคะ หนูแค่จะเช็ดให้”

ใบหน้าสวยแหงนมองคนร่างสูง ส่งยิ้มนิด ๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“หนูใช้ปากเช็ดให้ก็ได้นะคะ คุกเข่าแบบนี้เช็ดถนัดดี”

ปรเมศร์ถึงกับเบิกตาโพลง เขาโดนเธอยั่วอีกแล้ว

ยัยนี่ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คนอื่นเห็น เธอกำลังกวนประสาท...

พอเห็นว่าคนถูกถามเอาแต่จ้องเธอไม่วางตา สาวใช้ใจกล้าเลยเอื้อมมือไปปลดตะขอกางเกงให้ ปรเมศร์ได้สติ ปัดมือเธอทิ้ง จ้องมองด้วยสายตาไม่พึงพอใจ ก่อนที่จะมีคนบางคนเดินเข้ามาในห้อง

“เอ๊ะ!! กำลังทำอะไรกันอยู่คะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel