กูเกมส์เร็วตลอดอยู่แล้วปะ
ปั้ง! ปั้ง!
อืม ไม่ใช่เสียงอะไรหรอก เสียงไอ้บ้านั่นแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ที่ตอนนี้กำลังตบวอลเลย์กันแบบเมามันส์ ฉันถอนหายใจก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วก็เปิดหนังดูจากนั้นก็หยิบขนมมันฝรั่งห่อใหญ่ที่ซื้อมาขึ้นมากิน
ปี๊ด!
“พักก่อนๆ”
“เชี้ยเซทท์ มึงเสริฟ์ลูกแรงฉิบหาย”
ผมเท้าเอวพร้อมกับพยักหน้าแล้วตอบทุกคนที่เล่นด้วยกันออกไป
“อืม มันเป็นต่อเวลาลงแข่ง ส่วนมากคนที่ไม่แข็งจริงๆ รับลูกเสริฟ์ความแรงขนาดนี้ไม่ได้ อีกอย่างเอาไว้ใช้เสริฟ์แบบจี้ พวกมึงเพิ่มแรงทุกครั้งที่ซ้อมเดี๋ยวแรงก็ถึง”
“แหม่ ครูชู ยิ้มไม่หุบเลยนะ”
“นั่นดิ ครูไม่เก็บอาการเลยนะ”
“หึหึ นี่พยายามเก็บอย่างที่สุดแล้วเว้ย”
“อือหื้อ นี่ขนาดว่าเก็บแล้วนะ”
ผมยิ้มมุมปากก่อนจะมองที่ครูชูศักดิ์แล้วยิ้มให้ท่าน เพราะปีที่แล้วที่ผมมาแข่งกับที่นี่ผมก็ชนะแล้วก็ได้แชมป์ไป
“งั้นเดี๋ยวพวกเราพักกันก่อน ไปนั่งกินน้ำนั่งกินขนม เดี๋ยวครูจะลองให้ผู้หญิงเล่นบ้าง”
“ครับครู”
“เซทท์”
ผมหันมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาก็น่ารักอยู่นะ แต่ดูท่าทางจะเรียบร้อยมากอะ ใส่ชุดกีฬาของทางโรงเรียนแสดงว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกัน
“ว่า”
“น้ำไหมคะ”
ผมเลิกคิ้วแล้วมองไปที่ขวดน้ำในมือของผู้หญิงตรงหน้าที่ยื่นเข้ามาให้ก่อนจะละสายตามองไปที่ยัยตัวแสบที่ตอนนี้แทบจะนอนแล้วมั้ง สภาพ ผมเลยสั่นหัวก่อนจะตอบผู้หญิงตรงหน้ากลับไป
“ขอบใจ แต่ไม่เป็นไร กูไปพักละ”
“เออๆ รีบเลยนะมึงอะ”
“ไม่รีบได้ไงมึงดูสภาพ แม่งแทบจะนอนกินอยู่ละ”
“ฮ่าๆ”
“เฮ้ย ลูกสาวครูโหดนะเว้ย”
“ฮึ ผมไม่กลัวลูกสาวครูหรอก ถ้ากลัวจะพามาได้ไง”
“เนี่ยยย!!”
“ง้ววว!!”
ฉันละสายตามองไปที่สนามที่อยู่เสียงก็เหมือนจะดังขึ้นมา มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรมีนี่หว่า มีแต่คนยืนคุยกันฉันเลยหันมาดูหนังต่อ แต่ความสุขในชีวิตของฉันแม่งน้อยเกินจริงๆ ต้องไปต่อรองสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างแล้วมั้ง
“ไอ้เตี้ย เอาน้ำมากินสิ”
“หยุด อย่าเข้ามา”
ผมมองยัยตัวแสบที่ใช้ยกขาขึ้นมาห้ามผมไว้ไม่ให้เดินเข้าไปใกล้ แต่ถ้าถามว่าผมยอมไหม บอกเลยไม่ครับผม ผมยิ้มที่มุมปากก่อนจะใช้มือดึงขาของยัยตัวแสบลงมา
“โอ๊ย! ปล่อย ตัวก็มีแต่เหงื่อ ออกไปเลย”
ฉันโวยวายก่อนจะดิ้นแล้วใช้มือตีไปที่ไอ้บ้านี่ แล้วตัวมันก็มีแต่เหงื่ออะ ซึ่งบางคนแบบ โอ๊ย นักกีฬามีเหงื่อแล้วดูดีจัง ฉันคิดต่างจ่ะ ฉันไม่ชอบ แล้วนี่มันไม่รู้เล่นขนาดไหนสภาพถึงมีเหงื่อท่วมตัวขนาดนี้ทั้งๆ ที่ในอาคารนี้มีแอร์นะจ๊ะ แต่ถ้าเปิดให้นักเรียนซ้อมครูเขาก็จะเปิดเป็นจุดๆ ไม่ได้ทั้งหมดเหมือนตอนมีงาน แต่มันก็อยู่ในระดับที่เย็นอะ
“ฮึ เหรอ”
“เออ”
พรึ่บ!
ผมถอยหลังออกมานิดหน่อยพอจังหวะที่ยัยนี่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวผมเลยรีบเดินไปแล้วจับชายเสื้อตัวเองคลุมไปที่ศีรษะของยัยตัวแสบและใช้มือล็อกเอาไว้ แล้วไม่ต้องถามว่ายัยนี่เป็นยังไงนะ แม่งดิ้นเหมือนถูกน้ำร้อนลวกอะ
“งื้ออออ ไอ้บ้า! ปล่อยฉัน!”
ฉันพยายามดิ้นแล้วตอนนี้หน้าฉันโดนหน้าท้องของไอ้บ้านี่เต็มๆ แล้วจะไม่ให้ฉันโวยวายยังไงวะ ฉันใช้ขาเตะเขาแล้วก็ได้ยินเสียงไอ้บ้านี่หัวเราออกมา
“หึหึ หยุดดิ้นแล้วฉันจะปล่อยเธอ โอ๊ยย!! ยัยหน้าซาลาเปา!!”
ผมหัวเราะได้แป๊บเดียวก็ต้องร้องออกมาเสียงดังหลังจากยัยนี่ใช้ฟันกัดลงมาที่หน้าท้องของผม ผมเลยปล่อยมือแล้วยัยนี่ก็ดึงเสื้อออก พอก้มมองหน้าท้องตัวเองเท่านั้นแหละ แม่งเป็นรอยฟันยัยนี่แบบชัดเจน
“สมน้ำหน้า”
ฉันแลบลิ้นให้คนตัวสูงก่อนจะใช้มือจัดผมตัวเอง เพราะตอนนี้สภาพหัวไม่น่าจะไหว แต่ความคิดนี้ต้องหยุดไปเพราะไอ้บ้านี่แม่งใช้มือจับที่หน้าแล้วก็กดหัวฉันลงมาที่พนักพิงของเก้าอี้ฉันเลยใช้เท้าดันหน้าท้องของคนตัวสูงพร้อมกับใช้มือตีที่แขนของเขา
เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
“ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย! ฮึ ยัยตัวสั้น เธอจะยอมฉันไหมห๊ะ!”
ผมถามยัยตัวแสบและใช้มือจับขาข้างหนึ่งของยัยนี่เอาไว้ส่วนอีกข้างผมก็ใช้ขาของผมกดขายัยนี่เอาไว้กับเก้าอี้ แล้วแรงแค่นี้จะสู้อะไรผมได้
“ไอ้เปรต ปล่อย นายจะปล่อยฉันไหม”
“ไม่ปล่อยเว้ย ตัวสั้นๆ แบบเธอจะทำอะไรฉันได้ แนะนำให้ไปศัลยกรรมต่อขาก่อนครับผม เฮ้ย”
ฉันใช้แขนข้างหนึ่งโอบคอไอ้บ้านี่แล้วดึงลงมาก่อนจะใช้มืออีกข้างต่อยเข้าไปที่เอวของไอ้บ้านี่แรงๆ ถ้ายืนแล้วต่อสู้นะ ฉันจะเรียกกำลังแล้วจับไอ้บ้านี่ทุ่มลงกับพื้นจนกระอักเลือดเลย
ตุบ ตับ ตุบ
“ยัยตัวสั้น!”
“ไอ้เปรต ไอ้หมาบ้า งื้อ”
“ฮึ ถ้าเธอไม่หยุดเธอไม่มีจมูกหายใจแน่”
ผมปล่อยมือข้างที่จับขาของยัยตัวแสบอยู่มาบีบจมูกของยัยนี่เอาไว้แน่น แล้วแรงเตะต่อยแม่งก็โคตรจะเยอะ ผมช้ำหมดแล้วมั้ง เออ วิธีนี้เหมือนจะได้ผลเพราะพอยัยนี่เริ่มไม่มีอากาศหายใจก็เริ่มหยุดแล้วหน้าแม่งก็เริ่มแดง แล้วผิวยัยนี่แบบ จับนิดจับหน่อยแม่งก็แดงละ
“ปล่อย”
“ฮึ”
“เดี๋ยวนะ”
“อะไรของเธอ”
ฉันกับนายนี่หยุดทะเลาะกันแล้วเหมือนหัวมันเพิ่งนึกมาได้ว่าตอนนี้อยู่ในอาคารที่เค้าซ้อมวอลเลย์กันแต่ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยวะ
“ทำไมเสียงเงียบจังวะ ไม่มีใครเล่นกันแล้วเหรอ”
พอยัยตัวแสบพูดจบผมสองคนมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองที่สนาม พอหันไปมองทุกคนที่อยู่ในสนามก็มองมาที่ผมทั้งคู่แบบนิ่งๆ เงียบๆ เหมือนกันทุกคนไม่เว้นแม้แต่ครู แล้วพอครูเขารู้สึกตัวเลยปรบมือแล้วเรียกนักกีฬาผู้หญิงลงไปซ้อม
“เอ้าๆ มาๆ ใครจะไปพักก็ไป ส่วนผู้หญิงทุกคนลงมาที่สนามแบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนนักกีฬาผู้ชายไปพักได้”
ฉันมองไปรอบๆ ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงรุ่นเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง เหมือนนางจะอยู่ห้องหนึ่งนะ แต่ถ้าฉันตาไม่ฝาดคือนางเบะปากใส่ฉันจ่ะ ฉันก็เลยเบะปากใส่เหมือนกัน
“ทำอะไรของเธอ ปากเธอเป็นอะไรอีก”
ผมหันกลับมาแล้วเห็นยัยนี่เบะปากแล้วก็ขยับหัวดุกดิกไปมา พอมองไปก็เห็นเหมือนคู่กรณีของยัยนี่น่าจะเป็นผู้หญิงที่เอาน้ำมาให้ผมนะ ผมเลยเลิกคิ้วก่อนจะหันกลับมาและใช้มือหมุนศีรษะยัยตัวแสบมาหาพร้อมกับถามออกไป
“คู่กรณีของเธอ”
“ถ้าคอฉันเคล็ดนะ แล้วฉันก็ไม่รู้หรอกว่ายัยนั่นเป็นคู่กรณีของฉันไหมเพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นมีอะไร แต่ถ้ามาเยอะใส่ฉันจะเตะให้สลบเลย”
ฉันบอกคนตัวสูงออกไปด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง เพราะถ้าไม่อะไรก็จบกันไป แต่ถ้ามาเยอะ มาทำตัวเหมือนอยู่ในบทละครเจอฉันแน่
“ฮึ เก่งจริงๆ เลยเนาะ ไอ้เตี้ย”
“แล้วนายมานี่ทำไม จะไปไหนก็ไปเลยไป แล้วเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านวะ ฉันเบื่อแล้วนะ ฉันหิว ฉันอยากกลับไปนอน”
ผมเท้าเอวมองยัยตัวแสบที่เมื่อกี้แม่งยังจะฆ่าคนอื่นอยู่เลยพอพูดถึงของกินพูดถึงที่นอนอาการงี่เง่าเริ่มออก แต่บนเก้าอี้ยังมีขนมมันฝรั่งอยู่เลยนะ
“ปากยังกินอยู่เลยเธอบอกว่าหิว”
“เออสิ อันนี้มันคือขนม ไม่ใช่อาหารหลัก แล้วเลิกหรือยัง ฉันอยากกลับไปนอน”
ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะขมวดคิ้วแล้วถามเขาออกไป แล้วปกติคือฉันต้องใช้เวลานี้ไปเดินซื้อหนังไก่ทอด เครปญี่ปุ่น ลูกชิ้นทอด แล้วนี่คือ โอ๊ะ
“ดูสภาพหน้า ซ้อมอีกรอบเดียวครูเขาก็ปล่อยแล้วแหละ รอผู้หญิงซ้อมเสร็จก่อน”
“เออ ดีนะแค่วันเดียว”
ผมมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ยัยตัวแสบพอได้ยินเลยรีบถามยัยตัวแสบกลับไปอย่างเร็ว
“ใครบอกเธอ”
“เอ้า นายก็รู้ที่ตั้งอาคารแล้วปะ จะให้ฉันมานั่งเฝ้านอนเฝ้านายเล่นกีฬาทุกครั้งหรือไง”
“เออ แบบนี้แหละที่ฉันต้องการ”
“นายอายุเท่าไหร่ละ เด็กน้อยเบบี๋เค้ายังเดินมาที่สระว่ายน้ำคนเดียวได้เลยค่ะ”
“ก็ถ้าเธอไม่มาคะแนนเธอจะติดลบแน่ๆ เพราะฉันก็จะไม่มา ดีปะล่ะ”
“ไอ้โรคจิต”
“เอาน้ำเอาขนมมากินดิ๊ แม่งโคตรหิว”
“เอาไป”
ฉันหยิบถุงขนมที่ซื้อมาส่งให้คนตัวสูง ซึ่งมันก็ไม่น่าจะมีอะไร แต่ไอ้บ้านี่มันก็พยายามจะมีอะไรตลอดอะ
“หยิบออกมา ฉันเล่นกีฬามาเหนื่อยนะเว้ย ดูแลบัดดี้หน่อยดิวะ”
“ฉันอยากจะเตะให้ดั้งนายหักจริงๆ เลยว่ะ เอาไป ตอนตบวอลเลย์กูเห็นแม่งตบเอาๆ พอหยิบของจะขาดใจตายมั้ง”
“หึหึ เธอไม่เมื่อยปากมั่งเลยเหรอวะ”
“ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวว่ะ”
ผมเปิดขวดน้ำแล้วก็ยกดื่มพร้อมกับปรายตามองยัยตัวแสบ พอกินน้ำเสร็จผมก็ปิดฝาขวดน้ำก่อนจะถามยัยตัวแสบออกไป แล้วไม่รู้ว่าพูดหรือละเมอเพราะปากแม่งก็พูดตาก็จ้องโทรศัพท์
“ก๋วยเตี๋ยวอะไร”
“ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ”
“แล้วมันอยู่ไหน”
“อยู่ซอยหลังโรงเรียน”
ฉันตอบคนตัวสูงแล้วก็กะว่าจะชวนเพื่อนไปกิน เพราะเพื่อนฉันขับรถเป็นส่วนฉันยังไม่เป็น แต่ต้องกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนค่อยชวนเพื่อนเพราะอยู่คอนโดเดียวกันอยู่ละ แต่ได้ยินเสียงของคนตัวสูงพูดขึ้นมาก่อน
“อืม ถ้าฉันซ้อมเสร็จจะพาไปกิน”
ผมพยักหน้าแล้วก็แกะขนมกิน เพราะผมก็เพิ่งมาอยู่แถวนี้ยังไม่ค่อยรู้พวกร้านข้าวหรืออะไรเท่าไหร่ แล้วหลังเลิกเรียนผมก็ไปที่ร้านสักของพี่บอย เป็นกลุ่มเพื่อนที่เป็นรุ่นพี่เหมือนกัน ผมมองไปที่สนามแล้วก็ประเมินการเล่นของนักกีฬาฝ่ายผู้หญิงอยู่เงียบๆ
ตุบ!
“หื้อ อุบัติเหตุเหรอ”
ฉันได้ยินเหมือนเสียงอะไรหล่นเลยมองไปที่สนามแล้วก็เห็นยัยผู้หญิงที่เบะปากให้ฉันล้มลงไปที่พื้นทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปดูพร้อมกับได้ยินเสียงคนตัวสูงพูดขึ้นมา
“ฮึ การแสดง นั่งรออยู่นี่ เดี๋ยวไปซ้อมรอบสุดท้ายแล้วจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยว”
“อือ”
ผมมองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบไม่ใส่ใจ เพราะผมก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปเองโดยที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไร อีกอย่างผมก็ไม่ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว ผมก็ซ้อมแค่ในส่วนของผม ผมลุกขึ้นแล้วก็ส่งขวดน้ำกับถุงขนมให้ยัยตัวแสบก่อนจะใช้มือบีบแก้มทั้งสองข้างของยัยนี่เข้าหากัน
“โอ๊ย นายจะบีบแก้มฉันทำไมห๊ะ”
“ฉันพอใจ ทำไมอะ”
“ไอ้บ้า โรคจิต”
ฉันบ่นพึมพำออกมาพอไอ้บ้านี่หันหลังเลยใช้ขาเตะไปที่เอวของเขาเป็นการแก้แค้น
ปัก
“เดี๋ยวจะโดนนะเว้ย”
“รีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะเลื่อนขาขึ้นไปเตะก้านคอนาย”
“ฮึ น่ากลัวจังมั้ง”
ผมมองยัยนี่ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็เดินมาหาครูในสนาม
“ครูให้ผู้หญิงพักก่อนเถอะครับ งั้นเดี๋ยวพวกผมเล่นอีกรอบเดียวแล้วผมขอกลับเลยนะ”
“โอเคๆ มาๆ พวกผู้ชายเล่นรอบสุดท้ายแล้วแยกย้ายได้เลยนะ”
“ครับ!!”
“ไอ้เซทท์ มึงคบกับน้องมิลินท์แล้วเหรอ”
“แหม่ๆ เกมส์เร็วเลยนะมึง”
“เออ มันจะเกินปุยมุ้ย”
ผมยิ้มก่อนจะหยักคิ้วให้พวกพี่เขาที่เดินเข้าในสนามแล้วคุยด้วยผมเลยตอบพวกพี่เขากลับไป
“ฮึ กูเกมส์เร็วตลอดอยู่แล้วปะ มึงเห็นกูช้าตอนไหน”
“สัสเอ๊ย กูเกลียดมันว่ะ”
“เออ จะว่าไปกูก็เพิ่งเคยเห็นน้องมิลินท์มาที่ชมรมพวกเรานี่แหละ”
“หึหึ เออ จริง”
“แล้วยัยนี่ทำไมต้องมา”
ผมขมวดคิ้วก่อนจะเท้าเอวถามเพื่อนผมออกไปด้วยสีหน้าแบบไม่เข้าใจ เพราะยัยนี่ไม่ได้อยู่ชมรมกีฬาไม่มาก็ถูกแล้วปะ
“อือหื้อ หน้าตามึงพร้อมฆ่าพวกกูใช่ไหม”
“กูแค่ถาม”
“หึหึ หัวหน้ากูไม่ใช่แค่ไม่ชอบเล่นกีฬา ออกกำลังกายหัวหน้ากูก็ไม่ชอบ ก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เห็นหัวหน้ากูมาที่ชมรมกีฬา”
ผมหันไปมองไอ้อาร์มก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจพร้อมกับตอบพวกมันกลับไปและพากันหัวเราะออกมา
“กูก็ไม่แปลกใจหรอก ให้พามาชมรมกีฬาเหมือนจะถูกเชือด”
“ฮ่าๆ”
“แต่หัวหน้าเป็นแชมป์เทควันโดนะเว้ย ปีที่แล้วก็ชนะ”
“หึ วอร์มเครื่องไว้เตะกูมั้ง ตัวกูช้ำไปหมดละ วันหยุดสงสัยกูต้องไปตรวจว่าช้ำในหรือยัง”
“ฮ่าๆ”
“สัสเอ๊ย แต่ก็เหมือนที่เค้าบอกไง มีเมียต้องรักและเคารพเมีย”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์หลังจากเริ่มรู้สึกว่าถูกจ้องเลยมองไปที่สนามแล้วตอนนี้นักกีฬาผู้ชายพากันหัวเราะแล้วมองมาที่ฉัน แล้วไอ้แกนนำไม่น่าจะใช่ใครหรอก ไอ้บ้านั่นแน่ๆ ฉันเลยใช้นิ้วชี้ ๆ ไปที่เขาพร้อมกับทำหน้าข่มขู่แล้วก็หันกลับมาดูหนังต่อ
“พรืด สัสเซทท์ มึงนอนนอกห้องแน่ๆ”
“เซ้นส์น้องมิแม่งแรงจริง”
ผมมองยัยตัวแสบที่ใช้นิ้วชี้มาที่ผมแล้วทำหน้าตาข่มขู่ด้วยนะ อยากจะตัดมือมันทิ้งจริงๆ ผมมองยัยตัวแสบก่อนจะพึมพำออกมา พวกเพื่อนในชมรมของผมมันได้ยินก็พากันหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮึ อาการนี้กูคงต้องยกพานดอกไม้ขอขมาแม่งทุกวันเลยมั้ง มา กูพร้อมละ จะตบให้ลูกแตกเลย”
“ฮ่าๆ มาเว้ยๆ พี่เซทท์กูเครื่องร้อนละ”
ผมเล่นวอลเลย์ต่อไปสักพักก็แยกย้ายแล้วก็พากันเดินมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งพวก สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าขนหนู ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้แล้ว พออาบน้ำเสร็จผมก็มาแต่งตัวแล้วก็ถามเพื่อนในชมรมเรื่องเสื้อผ้า
“แล้วเสื้อผ้าเราเอากลับไปซักเองหรือว่ายังไง”
“ไม่ต้องๆ มึงจำเลขหลังเสื้อของมึงก็พอ เอาใส่ไว้ในนี้แหละจะมีคนเอาไปซักให้แล้วเขาก็จะเอามาแขวนไว้ให้ ส่วนผ้าขนหนูก็เอากลับไปซักเอง”
“อ๋อ เค งั้นกูกลับก่อนนะ”
“เออๆ เจอกันๆ”
ผมพยักหน้าให้เพื่อนในชมรมแล้วก็เดินมาหายัยตัวแสบที่นั่งรออยู่ที่เดิม แล้วตอนนี้ในสนามก็มีนักกีฬาผู้หญิงซ้อมอยู่
“ปะ เก็บของ”
“อือ”
ฉันเก็บของเสร็จเรียบร้อยคนตัวสูงก็พาฉันเดินมาสวัสดีครูชูศักดิ์ ท่านก็แซวเหมือนเดิมนั่นแหละ จากนั้นก็เอาขยะทิ้งแล้วก็พากันเดินออกมาข้างนอก