ตอนที่ 5 ภาพซ้อนNC+++
" อื้อ...อ๊ะ...อ๊ะ...คะ คุณภูผา มินนี่สะ..เสียวค่ะ "
สาวทรงโตตรงหน้าร้องออกมาอย่างคนทรมานปนเสียวซ่าน เพราะตอนนี้คนตัวโตตรงหน้าช่างร้อนแรงเหลือเกิน เธอขย่มเขาอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยหวังให้รสสวาทของเธอสามารถมัดใจชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้ แม้ว่าตอนนี้จะมีเหล่าบรรดาเพื่อนๆของเขานั่งสังสรรค์ดื่มกินกันอยู่แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เธอร่อนเอวอย่างลืมอายเพื่อหวังไปสู่ปลายทางสีรุ้งของเธอ
ภูผา
ผมที่ตอนนี้โดนสาวทรงโตตรงหน้าขย่มอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นี้ก็ครางในลำคอเบาๆอย่างสุขสม โดยไม่ได้สนใจพวกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ข้างๆกันเลย พวกผมก็เป็นแบบนี้แหละเห็นกันมาหมดทุกสิ่งอย่างจนไม่ได้รู้สึกอายกับการกระทำเช่นนี้เลย
" ซี๊ดด...มินนี่เร็วกว่านี้ ผมไม่ไหวแล้ว....อ๊าสส์ "
พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นตามแรงอารมณ์ของคนทั้งคู่ทำให้เพื่อนๆทุกคนต้องหันมาสนใจอย่างเสียไม่ได้
" ไอ้นี่ มึงเบาๆหน่อยสิวะ รุนแรงขนาดนี้ไปเปิดห้องไป เด็กกูตกใจหมด "
เสียงอาร์มพูดขึ้นพลางมองหน้าสาวน้อยบนตักแกร่ง แต่ก็เพื่อจะเอ่ยแซวเฉยๆ เขาเห็นภาพพวกนี้จนชินตาแล้ว
" เออ กูก็ว่า มึงนี่กิน(ตับ)ได้ทุกที่จริงๆ "
นัทพูดเสริมทัพเพื่อนพร้อมกับลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆของสาวสวยสุดเซ็กซี่บนตักแกร่งเช่นกัน
พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ
เสียงของสาวทรงโตที่ยังขย่มต่อไปอย่างไม่ได้สนใจกับคำของคนรอบข้างสักนิด
" อื้อ...มินนี่ไม่ไหวแล้วค่ะ "
" ซี๊ด..ชาไทย...โอ้วว "
คนตัวโตเผลอครางชื่อของสาวน้อยที่พึ่งไปส่งเธอเข้านอนมาเมื่อสักครู่ เวลาแบบนี้เขาเห็นเธอในจินตนาการได้อย่างไร และเสียงนั่นก็ไม่พ้นสายตาของพวกเพื่อนๆของเขาจนได้
" นี่มินนี่เองนะคะ ไม่ใช่ชาไทยอะไรนั่น "
คนตัวโตที่ไกล้จะถึงฝั่งฝันยกสะโพกของเธอขึ้นแล้วรัวสะโพกตอกอัดมังกรตัวใหญ่เข้าออกอย่างเร็วและแรงทุกครั้ง และเพียงไม่นานก็เสร็จสม
" อ๊าาาส์ "
" กรี๊ดดด "
เขาปลดปล่อยลาวาสีขาวขุ่นออกมาจนหมดทุกหยาดหยดอย่างสบายตัวใส่เครื่องป้องกันจนเกือบเต็มเสร็จแล้วจึงรีบถอดถอนตัวตนออกมา
หลังจากที่เสร็จสมแล้ว เขาก็ยกตัวสาวทรงโตนี้ลงจากตักแกร่ง พร้อมทั้งถอดเครื่องป้องกันออกแล้วทิ้งลงถังขยะข้างกายอย่างไม่ใยดี พร้อมกับหันไปมองที่เธอ
" เดี๋ยวฉันจะให้เลขาเซ็นต์เช็คให้ เธอออกไปได้เลยนะคืนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ไปต่อกับใครแล้ว "
สาวทรงโตตรงหน้ารู้สึกขัดใจไม่น้อยแต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้จึงจำยอมต้องเดินออกจากโต๊ะของเขาแล้วไปรับเงินก้อนโตนั่นทันที
" เมื่อกี้กูได้ยินชื่อเพื่อนของน้องสาวมึงหรือเปล่าวะหรือว่ากูหูฝาดว่ะไอ้ภู "
ธีร์เอ่ยแซวเพื่อนยกใหญ่ เพราะไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน
ผมไม่ตอบอะไรออกไปได้เพียงแต่อมยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจ พลางคิดไปในหัวว่าตอนที่ผมกำลังร่วมรักอยู่กับสาวคนนั้นทำไมในหัวถึงคิดแต่ภาพของเธอนะสาวขี้เมาคนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนของน้องสาวของผม เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงอยู่ๆก็ไปคิดถึงหน้าของเธอเฉยเลยผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ดูเหมือนเธอจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผมเข้าซะแล้ว
" มึงคงหูฝาดไปมั้ง คนอย่างกูน่ะหรอจะครางชื่อผู้หญิงคนไหนได้ "
ผมแก้ตัวออกไปน้ำขุ่นๆ
" กูก็ว่าเสือกินเงียบอย่างมึงที่ไม่เคยยกหัวใจให้กับสาวสวยคนไหนเลย อยู่ๆจะมาครางชื่อคนที่พึ่งรู้จักได้ยังไง นอกซะจากว่ามึงจะตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบเขาให้แล้ว แล้วมึงเป็นแบบนั้นไหมล่ะ "
นัทพูดเสริมเพื่อหาพิรุท
" เพ้อเจ้อ!! สำหรับกูมีแค่ความพอใจ ถ้าพอใจก็ดิวกันได้ก็ไปต่อกันจนเสร็จ แล้วก็จ่ายเงินจากนั้นก็แยกทางกูว่าแบบนี้สบายใจกว่าเยอะ "
ผมแก้ตัวไปทั้งที่ความจริงก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงไม่น้อยอยู่เหมือนกันเมื่อได้ใกล้กับสาวน้อยน่าฟัดคนนั้น
" เออ กูจะคอยดูมึงอย่ากลืนน้ำลายตัวเองก็แล้วกัน น้องน่ารักออกขนาดนั้น อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะอดใจไหวไปได้สักกี่น้ำ "
อาร์มยังคงพยายามเค้น
" ความอดทนกูจะสักกี่น้ำกูก็ไม่รู้หรอกแต่ว่าถ้าได้ขึ้นเตียงกันกูหลายน้ำแน่ อันนี้คือสิ่งที่กูการันตีได้ หึ! "
" ไอ้เวร!!! เพื่อนน้องก็ไม่เว้นนะมึง "
" หึ! "
ผมตอบออกไปเพียงแค่นั้นตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธเพราะว่าใจจริงก็อยากทำความรู้จักกับเธอให้มากยิ่งขึ้นผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน รู้เพียงแต่ว่าเป็นเพื่อนของยัยฟ้าใสตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยที่ไปเรียนกันในต่างประเทศ ได้ยินน้องเล่าให้ฟังคร่าวๆว่ารู้จักกันตอนไปเรียนเพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกันแล้วจึงสนิทสนมกันมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้
" แล้วคืนนี้มึงจะอยู่เฝ้าน้องมึงหรือเปล่าวะคงจะเช้ากว่าพวกเธอจะตื่น หรือว่าจะให้คนของกูเฝ้าไว้ก็ได้รับรองปลอดภัยแน่นอน "
อาร์มเจ้าของผับหรูแห่งนี้ถามออกไป
" กูฝากด้วยแล้วกันเพราะว่าคืนนี้กูมีธุระสำคัญต้องไปจัดการ กูต้องบินไปต่างเมือง คงไม่ได้อยู่รอจนน้องจะตื่นหรอก กูฝากมึงไปส่งพวกเธอทั้งหมดทุกคนด้วยละกัน "
" เออ มึงไปเถอะเดี๋ยวกูจัดการให้ "
" เออ ขอบใจมาก "
จากนั้นพวกเราก็อยู่ดื่มกินกันต่อจนดึกดื่น เป็นผมที่เป็นคนขอตัวออกมาก่อนเพราะว่าต้องรีบไปจัดการธุระสำคัญ ซึ่งลูกน้องก็ได้เตรียมเครื่องบินส่วนตัวรอไว้แล้ว ชีวิตคนทำงานแบบผมแทบไม่มีเวลาให้กับใครเลยแม้กระทั่งเวลาส่วนตัวของตัวเอง จึงไม่แปลกใจเลยที่ผมเลือกที่จะไม่มีใคร เพราะถ้าหากดึงใครเข้ามาในชีวิตแล้วละก็นอกจากจะพาลปวดหัวแล้วผมยังไม่มีเวลาดูแลพวกเธอเหล่านั้นให้ดีได้อีกด้วย