ยอดหมอหญิงแห่งพิษ สะบัดลายหงส์

114.0K · ยังไม่จบ
-
65
บท
79.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางคือสตรีอัปลักษณ์ไร้ค่ามีฐานะต่ำต้อยที่สุดแห่งตระกูลขุนนาง ที่ใครๆต่างรังแก เขาเป็นถึงราชาสูงศักดิ์ที่สุดในแคว้นเทียนหนิง ซึ่งเหล่าผู้คนต่างเคารพนอบน้อม เป็นหนึ่งในใต้หล้า!ณวันอภิดศกสมรส เกี้ยวเจ้าสาวมาเยือน ประตูใหญ่ของจวนอ๋องฉินปิดแน่นสนิท และทิ้งคำมาหนึ่งประโยค “พรุ่งนี้ค่อยมา” นางโดดเดี่ยวตัวลำพัง เหยียบย่ำศักดิ์ศรีย่างก้าวเข้าประตูจวนอ๋องไป...... หารู้ไม่ว่า:ยัยขี้เหร่ไร้ประโยชน์คนนี้ ความจริงแล้วเป็นถึงหมอพิษอัจฉริยะ!ในคืนวันแต่งงานช่วยยชีวิตนักฆ่า พอนางรักษาบาดแผลสำเร็จก็สัญญาว่า:"พี่ชาย รีบหนีไปเถอะ ข้าไม่เปิดโปงเจ้าหรอก" ไม่คาดว่านักฆ่าจะตอบกลับมาว่า:"คืนแรกที่ส่งตัวเข้าห้องหอ เจ้าจะให้ข้าไปแห่งใดรึ?"

นิยายย้อนยุคท่านอ๋องพระชายาฟินๆราชวงศ์/ชนชั้นเจ้า

บทที่ 1

ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเมืองตงไห่

“ผลั๊ว” ดังขึ้นมาคำหนึ่ง แฟ้มประวัติผู้ป่วยเล่มหนาถูกปาลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง ผอ.หลินสีหน้าเขียวคล้ำ ตะคอกด้วยความเดือดพล่าน “หานหยุนซี คุณหลี่เป็นหนึ่งในประธานบริษัทของหลิงหยุนกรุ๊ป เขาถือหุ้นของโรงพยาบาลเราอยู่40% คุณต้องจัดการถอนพิษให้เขาก่อน!”

พอเผชิญต่อความเดือดพล่านของผู้อำนวยการ หานหยุนซียืนเอามือซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อกาว และสงบนิ่งเป็นอย่างมาก

“ผอ.หลิน ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณหลี่ถูกพิษงูอ่อน ๆ มา ไม่ใช่เคสเร่งด่วน ทางฉันไม่อนุญาตให้แทงคิวค่ะ”

เธอหน้าตาสะสวยงดงาม ดวงตากลมโต มีลักยิ้มคู่หนึ่ง อายุยังน้อยก็มีชื่อเสียงสะเทือนไปทั้งวงการแพทย์แผนจีนด้วยทักษะการฝังเข็มที่ทำให้คนตะลึง และเป็นยอดฝีมือในการถอนพิษที่หาได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นพิษของสัตว์ พิษของพืช พิษทางเคมีหรือว่าพิษในร่างกายมนุษย์ ล้วนเป็นสิ่งที่เธอถนัดทั้งนั้น

“ทางคุณงั้นหรือ? คุณทำความเข้าใจหน่อย ที่นี่คือหลิงหยุน!” ผู้อำนวยการตบโต๊ะอย่างโกรธแค้น

“ผอ. ฉันขอยืนยันอีกครั้ง คุณหลี่ไม่ใช่เคสเร่งด่วน ไม่ว่าเขาเป็นใคร อยู่ต่อหน้าหมอ ทุกคนก็……”

คำพูดของหานหยุนซียังพูดไม่ทันจบ ผู้อำนวยการก็พูดขัดจังหวะขึ้นมา “พอแล้ว อย่ามาพูดกับผมว่าอยู่ต่อหน้าหมอ ทุกคนเท่าเทียมกัน แค่แบ่งแยกชายหญิงเท่านั้น หานหยุนซี ผมขอบอกคุณนะ รีบไปจัดการถอนพิษซะ ไม่งั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็ไสหัวออกไปจากวงการแพทย์ได้เลย! ”

ขู่เธองั้นเหรอ?

ตอนแรกนึกว่าหานหยุนซีจะกลัว แต่ว่า เธอยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม และสีหน้าจริงจัง “ผอ.หลิน อยู่ต่อหน้าฉัน ไม่มีแบ่งแยกชายหญิงด้วย มีแค่คนสองประเภทเท่านั้น คือคนที่ฉันอยากรักษากับคนที่ฉันไม่อยากรักษา ฉันไม่อยากรักษาคุณหลี่ เชิญไปหาผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นเถอะค่ะ! ”

เธอพูดจบ ก็ยิ้มอย่างมีมารยาท แล้วหมุนตัวเดินจากไป แผ่นหลังที่ดูบอบบางสง่างามและอ่อนโยน ท่ามกลางความงดงามที่เยือกเย็นแฝงความหยิ่งทะนงที่ไม่อาจมองข้ามเอาไว้

แต่ว่า ตอนที่หานหยุนซีเปิดประตูออก ผอ.หลินก็ยังโกรธแค้นเป็นอย่างมาก “หานหยุนซี คุณกล้าพูดจาแบบนี้กับผมเลยเหรอ คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

พูดจบ ก็คว้าแฟ้มประวัติคนไข้บนโต๊ะขึ้นมาปาไปตรงหลังศีรษะเธอ หานหยุนซีนิ่งอึ้งไป แล้วรู้สึกถึงความอุ่นร้อนค่อย ๆ ไหลลงมาตามด้านหลังศีรษะเธอ

เธอหันหน้าไปอย่างตกตะลึง แต่ว่า ยังไม่ทันมองผอ.หลินสักแวบ ร่างกายก็อ่อนยวบลงไปเลย……

สามพันปีก่อน ณ แคว้นเทียนหนิง

หานหยุนซีตื่นขึ้นมาในเกี้ยวเจ้าสาวด้วยความสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงดนตรีมงคลดังเซ็งแซ่จากรอบด้าน เสียงปี่เสียงกลองดังต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่ตรงหน้ากลับมืดมิดไปหมด

เกิดอะไรขึ้น?

หานหยุนซีดึงของที่คลุมอยู่บนหัวลงมา พอมองดู ก็ต้องสูดลมเย็นเข้าไปเฮือกหนึ่ง นี่……นี่มันผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวนี่นา?

ก้มหน้าลงแล้วแหงนหน้าขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ก็พบว่าตัวเองแต่งตัวด้วยชุดเจ้าสาวเต็มยศ อย่างกับเจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน……จะบ้าตาย!

เกี้ยวเจ้าสาวโอนเอนไปมา ทำให้หานหยุนซีรู้สึกปวดหัวขึ้นมา แล้วในเวลานั้นเอง ความทรงจำแปลก ๆ ช่วงแล้วช่วงเล่าก็พุ่งเข้ามาในสมอง

ไม่ต้องแปลกใจเลย นางทะลุมิติมา ที่สำคัญทะลุมาแล้วก็ต้องแต่งงานเลย!

เจ้าของร่างเดิมเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลหานตระกูลการแพทย์แห่งแคว้นเทียนหนิง ชื่อว่าหานหยุนซี เพราะว่าตอนนั้นทักษะการแพทย์ของมารดาเก่งกาจจนได้ช่วยชีวิตฮองเฮาในตอนนั้นเอาไว้ ซึ่งก็คือไทเฮาในปัจจุบัน จึงได้ประทานให้ลูกในท้องหมั้นหมายกับองค์ชายเจ็ดในตอนนั้น ซึ่งก็คืออ๋องฉินหลงเฟยเย่ในปัจจุบัน ตอนนั้นยังถูกกล่าวขานกันไปช่วงหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ฐานะของตระกูลหานก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปด้วย

แต่ใครจะไปรู้ว่าหานหยุนซีคลอดออกมาก็ทำให้มารดาตายไป แถมยังกลายเป็นหญิงอัปลักษณ์ที่ไร้ความสามารถ ไม่รู้เรื่องการแพทย์ เรื่องงานแต่งก็เลยถูกถ่วงเวลามาเรื่อย ๆ และกลายเป็นเรื่องที่ห้ามเอ่ยถึงของอ๋องฉิน แต่ว่าช่วงก่อนอ๋องฉินไปทำให้ฮ่องเต้โมโห ฮ่องเต้ก็เลยประกาศราชโองการออกมา ให้หาฤกษ์แต่งงานให้ได้ก่อนสิ้นเดือน

แล้ววันนี้ ก็เป็นวันแต่งงาน

อ๋องฉินหลงเฟยเย่ถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นองค์ชายที่เหลือน้อยท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดีของราชวงศ์ อายุยังน้อยแค่อายุยี่สิบต้น ๆ แต่นับตามลำดับเครือญาติกลับเป็นพระปิตุลา(เสด็จอา)เพียงคนเดียวในตอนนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งที่มีอำนาจในแคว้นเทียนหนิง

จวนอ๋องฉินอยู่ทางใต้ของเมือง ส่วนตระกูลหานอยู่ทางเหนือของเมือง เกี้ยวเจ้าสาวจึงจำเป็นต้องทะลุจากทางเหนือไปทางใต้ อ๋องฉินแต่งงาน ถึงเจ้าตัวไม่โผล่มา แต่ก็ทำให้ผู้คนสนใจจนถนนโล่ง แตกตื่นกันทั้งเมือง

ในตอนที่หานหยุนซีกำลังเรียบเรียงความทรงจำพวกนี้อยู่ จู่ ๆ เสียงดนตรีมงคลก็หยุดลง แล้วได้ยินแต่เสียงแม่สื่อร้องดังขึ้นว่า “แย่แล้วแย่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”