บทที่ 7 ปัญหาร้ายแรงแล้ว
เมื่อองครักษ์ได้ยินคำสั่งของฉู่หลิงเซวียน ก็วิ่งตรงไปข้างหน้าทันที
แววตาของเซินเป่าเป็นประกาย : “ท่านแม่ เบามือหน่อยนะขอรับ !”
เขายังต้องการศึกษา ศึกษามนุษย์พวกนี้ให้ดีอีกนะ !
ฉู่เชียนหลียืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน นางสะบัดแขนเสื้อ จากนั้นก็มีลำแสงเย็นเยียบจาง ๆ ปรากฏออกมา และพุ่งตรงเข้าใส่องครักษ์ที่กำลังวิ่ตรงเข้ามาในทันที
วินาทีต่อมา องครักษ์เหล่านั้นก็ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม รวมถึงฉู่หลิงเซวียนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ฉู่เชียนหลีหาว แล้วหันไปพยักหน้าให้กับเซินเป่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ : “องครักษ์ยกให้เจ้าทั้งหมด”
“ได้ ขอบคุณขอรับท่านแม่”
เซินเป่ารีบเดินตรงเข้าไปทันที แล้วใช้เท้าเตะขาขององครักษ์เหล่านั้นทีละคน ๆ ทำให้พวกเขาที่ยืนตัวแข็งทื่อเหมือนก้อนหินอยู่ ล้มลงกับพื้นทันที จากนั้นจึงหยิบฝักบัวรดน้ำบนพื้นขึ้นมา แล้วเคาะไปที่หัวของพวกเขาทีละคน ๆ
โป๊ก ๆ ๆ !
“กล้าจับข้าดีนัก ! กล้าขุดน้องชายของข้าดีนัก !”
ฉู่เชียนหลีเห็นเขามีความสุข จึงเดินเข้าไปหาฉู่หลิเซวียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เดินพลางก็หยิบกริชออกมา
ฉู่หลิงเซวียนดวงตาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว แต่ร่างกายกลับแข็งทื่อขยับเขยื้อนไม่ได้ : “เจ้า......เจ้าคิดจะทำอะไร ?”
ฉู่เชียนหลีเดินตรงเข้าไปหา หยิบกริชออกมาแล้วชี้ไปที่แก้มของฉู่หลิงเซวียน จากนั้นก็กรีดลงไปทันที บาดแผลเหมือนกับของร่างเดิมในตอนนั้นไม่มีผิด
“โอ๊ย !” ฉู่หลิงเซวียนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “มารสาว......เจ้ากล้าทำร้ายข้า ?”
ฉู่เชียนหลีลูบหน้าอกอย่างเกียจคร้าน ถึงแม้อาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออกเมื่อครู่จะคลายลงเล็กน้อย แต่ความรู้สึกไม่เต็มใจและเกลียดชังที่ถูกระงับไว้ ยังคงรุนแรงอยู่เช่นเดิม
“เช่นนี้ก็เดือดร้อนแล้วนะสิ......”
หากไม่แก้แค้นให้ถึงที่สุด ชีวิตวัยเกษียณของนางก็ไม่อาจดำเนินต่อไปได้อย่างนั้นหรือ ?
ฉู่เชียนหลีคิดพลางก็เดินไปยังห้องครัวที่อยู่ข้าง ๆ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ก็หยิบแส้ยาวออกมา แล้วฟาดลงไปที่ฉู่หลิงเซวียนอย่างแรง ทุกรอยบาดแผลจากแส้ ล้วนเหมือนกับของร่างเดิมในตอนนั้นไม่มีผิด
“โอ๊ย !”
ฉู่หลิงเซวียนหันมององครักษ์รอบข้างที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ ก็ตะโกนก่นด่าออกมา แววตากำลังข่มเจตนาฆ่าที่รุนแรงเอาไว้
“ข้าคือว่าที่พระชายาองค์ชายสาม เจ้าปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ ราชสำนักไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน !”
เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำว่าองค์ชายสาม ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา ความไม่เต็มใจและความโกรธแค้นพลุ่งพล่านขึ้นไปในสมองของนาง และส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนางอย่าสมบูรณ์
ใบหน้าของนางจริงจังขึ้น แล้วหยุดฟาดแส้ที่ถืออยู่ในมือทันที
ดูเหมือนว่าการแก้แค้นฉู่หลิงเซวียนแบบเดิม คงไม่เพียงพอที่จะทำให้ร่างเดิมคลายความแค้นลงได้อย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นคงเป็นปัญหาร้ายแรงแล้ว !
ฉู่หลิงเซวียนเห็นนางหยุดเคลื่อนไหว จึงคิดว่านางคงรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว : “เจ้าจงยกโสมเสวียนม่วงให้แก่ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า !”
ฉู่เชียนหลีเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา แล้วจู่ ๆ ก็เลิกกระโปรงขึ้นมา ยกเท้าเตะขึ้นไปตรงหัวใจของฉู่หลิงเซวียน จนนางหงายหลังลงไปบนพื้น
นางเพิ่งจะเริ่มใช้ชีวิตหลังเกษียณ ยังไม่ทันครบเดือน ก็ต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย
บัดซบสิ้นดี !
เซินเป่าเคาะหัวองครักษ์เหล่านั้นเสร็จแล้ว ก็จัดการกับ “น้องชายโสมคน” จนเสร็จเรียบร้อย เมื่อหันหน้ากลับไปก็พบกับท่านแม่ของตนเองอยู่ในสีหน้าเข้มงวด จึงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“ท่านแม่ เป็นอะไรไปขอรับ ?”
“แม่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาร้ายแรงแล้ว”
“เอ๊ะ ร้ายแรงขนาดไหนขอรับ ?”
“ร้ายแรงจนกระทั่งนอนไม่หลับ กินไก่ตุ๋นโสมคนไม่ลง”
เซินเป่าดวงตาเบิกโพลงทันที ใบหน้าของเขาซีดเผือด และรีบพูดขึ้นอย่างตื่นตระหนก : “เช่นนั้นควรทำอย่างไรดีขอรับ ?”
สำหรับท่านแม่แล้ว เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือเรื่องกินและเรื่องนอน แต่ตอนนี้นางกลับกินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่นไม่เท่ากับว่าผืนฟ้ากำลังจะถล่มหรอกหรือ ?
เพียงครู่เดียว ฉู่เชียนหลีก็ถอนหายใจออกมา : “ลูกรัก ลูกอยากออกไปดูโลกภายนอกบ้างหรือไม่ ?”
“โลกภายนอก ?”
“ใช่”
ในเมื่อไม่แก้แค้น ก็ไม่อาจใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสงบได้ เช่นนั้นก็ควรต้องจัดการกับทุกคนที่เคยมีความแค้นกับร่างเดิมเสียก่อน
สรุปว่า หากพร้อมก็ต้องใช้ชีวิตหลังเกษียณนี้ให้ได้ แต่หากไม่พร้อม ก็ต้องหาวิธีทำให้พร้อมเพื่อจะได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ !
“ออกสู่โลกภายนอกได้จริง ๆ หรือขอรับ ?” ดวงตาของเซินเป่าเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ
“เฮ้อ แม่เองก็ไม่อยากไป แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่ยินยอม”
ฉู่เชียนหลีเหลือบมองฉู่หลิงเซวียนกับองครักษ์เหล่านั้น แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามข่มอารมณ์หดหู่ในใจเอาไว้
“ไก่ตุ๋นโสมคนเสร็จแล้วใช่หรือไม่ ?”
“ขอรับ ท่านแม่ ตอนนี่ท่านกินลงแล้วหรือ ?”
“คงฝืนกินได้สักครึ่งตัว ยกออกมาเถอะ กินเสร็จแล้วก็เก็บข้าวของ เจ้าลองดูซิว่าจะเอาอะไรไปบ้าง”
“ได้ขอรับ ท่านแม่”
ฉู่เชียนหลีนั่งลงบนม้านั่งหิน เอนตัวลงบนโต๊ะหินด้วยร่างกายที่อ่อนปวกเปียก พลางถอนหายใจเบา ๆ
ใช้ชีวิตหลังเกษียณไม่ง่ายเลย องค์กรกาลเวลาบ้า !