บทที่ 7 การแยกชิงของสองท่านอ๋อง
บทที่ 7 การแยกชิงของสองท่านอ๋อง
อาหยู่ถืออาวุธที่ซ่อนอยู่ในมือ มันคือสิ่งที่คนสมัยก่อนใช้กัน อันหลิงหยุนไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ดูเหมือนมีดบิน
“นี่คือสิ่งที่เจ้าติดค้างข้า”
ตอนที่อาหยู่พูดเขาได้นั่งลงไป อันหลิงหยุนยังไม่ทันตั้งตัว อาวุธนั้นก็แทงเข้ากลางอก อันหลิงหยุนร้องด้วยความเจ็บปวด อาหยู่รีบดึงอาวุธออกมา แล้วก็ยิ้มด้วยความพอใจ แล้วได้ขยับปากว่า “ไปตายเถอะ”
พูดจบก็ถีบอันหลิงหยุน ข้างหลังก็คือเนินเขา อันหลิงหยุนก็กลิ้งลงเนินเขา
เหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา คนอยู่ในถ้ำไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาช่างไร้ความปรานี
ร่างที่กลิ้งลงถึงพื้น ความทรงจำของอันหลิงหยุนก็เริ่มกลับมา ตอนแรกอาหยู่มีน้องสาวคนหนึ่ง พวกเขาสองพี่น้องรักกันจนที่ว่าตายแทนกันได้ ตอนแรกยังดีๆ จนถึงอันหลิงหยุนสงสัยว่าน้องสาวของอาหยู่หลงรักกงชิงวี่ ก็ส่งคนไปจับน้องสาวของอาหยู่ ตอนนั้นน้องสาวของอาหยู่ตื่นตระหนก ชนเข้ากับรถม้าขณะหลบหนี แล้วได้ตายบนถนน จากนั้นมาอาหยู่ก็เกลียดอันหลิงหยุน
อาหยู่กลับเข้าไปในถ้ำ รายงานกับอ๋องเสียน “ทูลท่านอ๋อง ได้ฆ่านางตายแล้ว”
กงชิงวี่ได้ฟัง ทั่วร่างก็เย็นยะเยื่อ มือกำแน่นโดยไม่รู้ตัว ตอบกลับ “ ข้าแค่ให้เจ้าไปทำให้นางหมดสติ ช่างเถอะ นางคนนี้ ตายซะก็ดี”
อาหยู่ไม่แน่ใจนัก “อาจจะยังไม่ตาย แค่ตกลงเขา”
กงชิงวี่หลับตา และไม่อยากจะพูดอะไรต่อ
อาหยู่รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองคงทำผิด
อันหลิงหยุนลืมตาขึ้น สุดลมหายใจ มาสวมเข้าร่างร่างนี้ ดวงซวยจริงๆ
แต่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าคิดว่านางตายแล้ว นางก็จะได้ฟื้นฟูร่างกายอยู่ตรงนี้
หนึ่งคืนผ่านไป อันหลิงหยุนเหมือนได้ชีวิตมาใหม่ แต่นางรู้สึกว่าร่างกายมีอะไรบางอย่างจะออกมา แต่ก็เหมือนมีอะไรมากดไว้
ยังดียาชีวภาพนี้ฟื้นฟูได้เร็ว แค่คืนเดียวนางก็สามารถลุกขึ้นมาเดินได้ ลุกจากพื้น อันหลิงหยุนก็ได้สังเกตรอบๆ หาจุดที่สามารถขึ้นไปได้ ปีนขึ้นไป
กว่าจะถึงด้านบนก็เที่ยงวันแล้ว จะว่าไปก็ช่างโชคร้าย พอขึ้นมาก็เจอเสินหยุนเอ๋อผ่านไป
แต่ถ้าเทียบกับตอนนั้นที่คนเต็มไปหมด ตอนนี้คนก็น้อยลงมาก
มีแค่หญิงสาวสองสามคนร่วมเดินทาง
อันหลิงหยุนไม่อยากมีปัญหา คิดว่าจะให้พวกนางผ่านไปก่อน ไม่นึกเลยว่าจะมีคนกำลังชมวิว แล้วก็หันมาเจอนาง
ทันใดนั้น โจวเหม่ยเหลินได้ชี้หน้าอันหลิงหยุนพูด “ดูสิ พวกเรารีบมาดู นี้ไม่ใช่พระชายาเสียนเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี้”
เมื่อได้ตะโกนเสียงดัง ทันใดทันทุกคนก็มาอยู่ต่อหน้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนหลบไม่ทัน ต้องเดินขึ้นมาข้างบน มือข้างหนึ่งก็ได้ดึงเสื้อผ้าที่ฉีกขาด อีกด้านก็ได้มองดูเสินหยุนเอ๋อที่กำลังมา
เสินหยุนเอ๋อดูอันหลิงหยุนคงจะอยู่ข้างล่างทั้งคืนแน่นอน แล้วก็เสื้อผ้าก็ไม่เรียบร้อย ก็ได้คิดแผนขึ้นมา
ได้ยินแต่เสียงเสินหยุนเอ๋อพูด “ ข้านึกว่าใครกำลังทำเรื่องต่ำๆกันอยู่ ที่แท้ก็เป็นพระชายาเสียน พระชายาทำไมถึงมีรสนิยมเช่นนี้”
“คุณหนูเสินนี่เกิดปีหมาเหรอ เจอคนก็ไล่กัด” อันหลิงหยุนพูดจบก็เดินไปข้างหน้า
เสินหยุนเอ๋อกำมือแน่น “อันหลิงหยุน เจ้าไม่กลับมาขอโทษข้า อย่าโทษข้านะ ถ้าข้าทำให้เจ้าเสียชื่อเสียง”
อันหลิงหยุนหัวเราะ “ถ้าคุณหนูเสินไม่กลัวลิ้นเน่าเสีย ข้าจะกลัวอะไร”
พูดจบอันหลิงหยุนก็ไม่ได้สนใจนาง เดินไปอย่างเฉิดฉาย โกรธจนเสินหยุนเอ๋อกระทืบเท้า
อันหลิงหยุนหัวเราะไกลๆ ร่างเดิมทำไมถึงแพ้ให้กับคนไร้ค่าแบบนี้
อันหลิงหยุนกลับถึงจวนแม่ทัพ อาบน้ำเปลี่ยนผ้า นอนหลับด้วยความสงบ
แต่เวลาที่ดีก็มีไม่นาน ไม่นานเรื่องที่อันหลิงหยุนทำเรื่องที่กล่าวหาว่าเล่นชู้ก็ดังเป็นพายุ
เรื่องนี้ก็ถึงหูฮ่องเต้
ตอนแรกฮ่องเต้จะหาข้อแก้ตัวกับกงชิงวี่ แล้วให้อันหลินหยุนส่งกลับจวนแม่ทัพ เมื่อเกิดเรื่องนี้ ในที่สุดฮ่องเต้ชิงหยู่หาข้ออ้างได้แล้ว
“หยุนหยุน ฮ่องเต้รับสั่งให้เข้าเฝ้า” แม่ทัพอันยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น รีบตรงเข้าไปหาอันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนคิดว่าคงจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นแน่นอน
รีบอาบน้ำแต่งตัว อันหลิงหยุนกับแม่ทัพอันรีบเข้าวัง
ถ้าเทียบกับการเข้าวังครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ง่ายขึ้นมาก ลงจากรถม้า อันหลิงหยุนพยุงแม่ทัพอันลงมา เข้าเฝ้าฮ่องเต้พร้อมกัน
ณ ตอนนี้อันหลิงหยุนก็ได้เห็น หน้าประตูวังมีรถม้าที่หรูหรา อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ “ท่านพ่อ รถม้าที่อยู่หน้าประตูเป็นของบ้านใคร ดูแล้วทำไมคุ้นๆ”
“อั้ย พูดไปเรื่องก็ยาว พ่อลืมแล้ว !”
แม่ทัพอันไม่สะดวกที่พูดมาก เลยกลืนคำพูดไป
อันหลิงหยุนก็ไม่ถามมาก ตามเข้าไปวังเฟิ่งหยี
ถึงหน้าวังเฟิ่งหยี อันหลิงหยุนเห็นคนคนหนึ่ง อายุไม่ต่างจากนางมากนัก ใส่เสื้อสีเหลืองเหมือนห่าน แล้วคุมด้วยเสื้อคลุมสีแดง มีขนมากมายบนเสื้อคลุม ผมสีดำร่างสูง และนางก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสง่างาม
อันหลิงหยุนค่อยๆเดินดูด้านหลังของคนคนนี้ ในสมองเริ่มมีอะไรบางสิ่งเข้ามาป่วน
ในเวลาอันรวดเร็วความทรงจำเหล่านั้นก็ได้กลับคืนมา หญิงสาวผู้นี้ ท่านอ๋องเสียนได้หมั้นกันตั้งแต่วัยเด็ก ถึงแม้จะเป็นการหมั้นในวัยเด็ก แต่ทั้งสองก็พบเจอกันทุกวัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ตอนแรกคิดว่าโตขึ้นจะแต่งงานกัน แต่การกระทำที่วุ่นวายของอันหลิงหยุน ชีวิตคู่การแต่งงานของกงชิงวี่ก็ได้ถูกทำลาย จึงทำให้ในวันนี้มีแต่ความโกรธเกลียดต่อกัน
ผู้หญิงข้างหน้าที่ใส่เสื้อคลุมคนนี้ ก็คือคนรักและคู่หมั้นตั้งแต่วัยเด็กของกงชิงวี่ ชื่อจุนฉูฉู
แต่น่าเสียดายผู้หญิงที่เพียบพร้อมคนนี้ เพราะการปรากฏตัวของอันหลิงหยุน นางเลยต้องแต่งงานกับอ๋องตวนกงชิงหยิน
ขณะนั้นไทซางฮวาง (พระบิดาของฮ่องเต้) มีโอรส 3 พระองค์ พระองค์แรกคือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ฮ่องเต้ชิงหยู่ พระองค์รองคืออ๋องตวน กงชิงหยิน พระองค์เล็กคืออ๋องเสียน กงชิงวี่
ฮ่องเต้ชิงหยู่กับกงชิงวี่คือพี่น้องท้องแม่เดียวกัน เป็นโอรสของฮวงไทเฮา ส่วนอ๋องตวน กงชิงหยินเป็นโอรสของหวงไท่กุ้เฟย (พระมเหสี) อยู่วังตะวันตก
ที่น่าแปลกใจคือ โอรสของไทซางฮวางที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้มีเพียง 3 พระองค์ ส่วน ฮ่องเต้ชิงหยู่เป็นโอรสที่เกิดมาตอนที่ไทซางฮวางยังหนุ่ม ส่วนโอรสองค์ต่างๆ ได้เสียชีวิตหมดแล้ว
ที่เหลือกงชิงวี่กับกงชิงหยิน ทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน คลอดก่อนคนหนึ่ง คลอดหลังคนหนึ่ง
ราชวงศ์นี้ทายาทมีน้อย เลยไม่กล้าปล่อยปละละเลย ก็เลยปกป้องดูแลกงชิงวี่กับกงชิงหยินอย่างดี
ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังอยู่ในช่วงวัยกลางคน แต่ก็ยังไม่มีโอรส เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั่วทั้งอาณาจักรต้าเหลียงไม่มีใครกล้าเอ่ยขึ้น และฮองเฮาองค์ปัจจุบันก็ได้รับเกียรติพิเศษจากฮ่องเต้มากกว่าพระชายาองค์อื่นเป็นอย่างมาก ทั่วทั้งวังฮ่องเต้รักเพียงแค่นางผู้เดียว
อันหลิงหยุนเข้าใจ ต้องแอบแฝงความลับอะไรสักอย่าง
ฮ่องเต้ไม่มีโอรส งั้นผู้ที่จะได้สืบทอดราชบัลลังก์ก็จะตกอยู่กับน้องชายที่เหลือ แล้วฮ่องเต้ก็มีน้องชายไม่กี่คน มีเพียงแค่กงชิงวี่กับกงชิงหยินสององค์
อาณาจักรนี้จะเป็นของใคร คงต้องเป็นญาติที่ใกล้ชิด มันก็ชัดเจนที่สุดแล้ว
จุนฉูฉูนั้นตระกูลมีเกียรติ ท่านปู่เป็นถึงราชครูของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ท่านพ่อเป็นแม่ทัพเจิ้นหย่วน ท่านป้าได้แต่งงานกับพี่ชายของฮองเฮาเสินหยุนชู ความสัมพันธ์แบบนี้จะเป็นใครได้อีกเหรอ
ตอนแรก อันหลิงหยุนมีตระกูลที่มีอำนาจพอสมควร หากต้องการแย่งชิงตำแหน่ง ก็แต่งงานกับร่างเดิมนี้
แต่ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ ร่างเดิมคงเป็นแค่สิ่งของไร้ค่า
โอกาสไม่ดีเท่าจุนฉูฉู
อันหลิงหยุนแปลกและงงจนหัวหมุน ถ้าไม่มีร่างเดิมนี้ กงชิงวี่ก็คงแต่งงานกับจุนฉูฉู ราชทายาทที่จะได้บัลลังก์คงเป็นของกงชิงวี่แน่นอน
แม้ว่าแม่ทัพอันจะไม่ใช่พรรคพวกเดียวกับกงชิงวี่ แต่ด้วยความสัมพันธ์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แม่ทัพอันก็อาจจะฟังคำรับสั่ง
แต่ถ้าตอนนี้ แม้ว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะยกบัลลังก์ให้กับกงชิงวี่ แต่พวกเสนาบดีคงไม่ยอมรับ
เข้าใจเหตุผลนี้แล้ว ความเกลียดชังที่กงชิงวี่มีเอันหลิงหยุนก็เข้าใจ
ทั้งเรื่องส่วนตัวหรือส่วนรวม ร่างเดิมนี้สมควรตาย
เพียงแค่นางโชคร้าย ก็เลยต้องทนรับไว้คนเดียว
เดินถึงหน้าประตูอันหลิงหยุนกับแม่ทัพอันได้หยุด จุนฉูฉูหันหลังมาเจออันหลิงหยุน พยักหน้าเบาๆ
อันหลิงหยุนยกคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่แปลกเลยที่กงชิงวี่จะหลงรักนาง บุคคลเช่นนี้ไม่สามารถหาคนที่สองได้แล้ว
อันหลิงหยุนคิด ที่แท้เสินหยุนเอ๋อก็แค่เป็นบุคคลไม่สำคัญ