

บทที่ 3 มาหาปัญหาถึงที่
ตระกูลสวีมีต้นตระกูลมาจากเจียงหนาน ตอนที่สวีเหวินเจิ้งอายุสิบหกปีเขาก็ออกไปหาประสบการณ์ ตอนนี้ผ่านไปสี่สิบปี ในที่สุดเขาก็ได้สร้างชื่อเสียงในเมืองใหญ่เช่นเทียนไห่!
ในความทรงจำของสวีเส้าถาง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มจากสวีเหวินเจิ้งเลย อย่างน้อยตอนที่เผชิญหน้ากับสวีเหวินเจิ้ง สวีเหวินเจิ้งไม่เคยแสดงสีหน้าที่ดีให้เขาเลย! แน่นอน นี่จะโทษสวีเหวินเจิ้งก็ไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เขาเองที่ไม่เอาไหน
“เจ้าลูกสารเลว ทำไมยังไม่ตายอีก?” สวีเหวินเจิ้งเห็นสวีเส้าถาง เขาก็โมโหขึ้นมาทันที และตะโกนด่าออกมา “ทั้งชีวิตของฉันสวีเหวินเจิ้งทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์มาตลอด ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีลูกชายไม่ได้เรื่องอย่างแกได้ยังไง!”
พอได้ยินว่าลูกชายรอดตายมาได้ ถึงแม้เขาจะดีใจ แต่พอเห็นสภาพของเจ้าลูกไม่ได้เรื่อง และนึกถึงปัญหาวุ่นวายที่เขาก่อไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นสภาพที่เหมือนใกล้ตายแบบนี้ สวีเหวินเจิ้งก็อยากจะตบเขาสักสองที!
ที่เรียกว่าพ่อแม่โดดเด่นลูกย่อมต้องโดดเด่นไม่แพ้กัน แต่ทำไมเขาถึงมีลูกชายที่ไม่เอาไหนแบบนี้ ปกติแล้วชอบใช้ชีวิตเสเพล รังแกคนอื่นยังไม่พอ ครั้งนี้กลับเกือบจะทำผิดฐานข่มขืน! และเหยื่อที่เกือบจะถูกข่มขืนยังเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเซิ่งซี่ กรุ๊ป ซ่งญีโน่อีก!
ไม่รู้ว่าซ่งญีโน่มีภูมิหลังมาจากไหน ทำไมถึงมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มครองตลอดเวลา ซ่งญีโน่เข้าทำงานที่เซิ่งซี่ กรุ๊ปสามปี แต่กลับไม่มีใครเคยเห็นบอดี้การ์ดสองคนนี้มาก่อน? แต่ผลลัพธ์ก็คือ ลูกชายที่ไม่ได้เรื่องของเขาข่มขืนไม่สำเร็จ แต่กลับเกือบถูกบอดี้การ์ดของซ่งญีโน่ทำร้ายจนเกือบตาย!
พอเห็นสวีเหวินเจิ้งเดินเข้ามา ฟางหลันก็กางแกนขวางหน้าสวีเส้าถางไว้ทันที “สวีเหวินเจิ้ง คุณมาทำอะไร? ลูกชายบาดเจ็บหนักขนาดนี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง? ฉันจะบอกคุณไว้เลยนะ ถ้าคุณกล้าทำร้ายเส้าถางแม้แต่เส้นผมเดียว ฉันจะหย่ากับคุณแน่! หย่า!”
“เขาเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะคุณหรือไง? มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังจะปกป้องเขาอีก?” สวีเหวินเจิ้งอยากจะด่าสวีเส้าถางให้มากกว่านี้ แต่พอได้ยินคำขู่จากภรรยา เขาก็ต้องกลืนคำด่าที่อยู่ในปากกลับไป และหันไประบายอารมณ์ใส่ภรรยาแทน
แม่ที่ใจอ่อนมักทำให้ลูกเสียคน! บางทีอาจจะมีหลายคนอิจฉาสวีเหวินเจิ้งที่มีเซิ่งซี่ กรุ๊ปขนาดใหญ่ แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ถึงความทุกข์ในใจ! ต่อหน้าคนอื่น เขาอาจเป็นมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียง แต่พอกลับบ้าน ทุกครั้งที่เห็นลูกชายที่ไม่เอาไหน เขาก็หวังว่าไม่อยากให้ลูกชายคนนี้เกิดมาเลย!
“ใช่ เพราะฉันที่ตามใจเขา ฉันเอ็นดูเขา ฉันมีลูกชายแค่คนเดียว ถ้าฉันไม่ตามใจเขาแล้วจะให้ตามใจใคร? ถ้าคุณไม่พอใจที่จะเห็นพวกเราสองแม่ลูก รอให้เส้าถางหายดี ฉันจะย้ายกลับบ้านพ่อแม่ของฉันทันที! ไม่มีเซิ่งซี่ กรุ๊ป เราสองแม่ลูกก็ไม่หิวตายหรอก!” เพียงแค่พูดถึงลูกชายของเธอ ฟางหลันก็จะกลายเป็นแม่สิงโตที่ดุร้ายทันที ใครก็ตามที่คิดจะทำร้ายลูกชายของเธอจะต้องถูกเธอฉีกออกเป็นชิ้นๆ!
พอเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันในห้องคนไข้ไม่หยุด สวีเส้าถางรู้สึกปวดหัวมาก อยากจะห้าม แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
หลังจากฟางหลันเอาเรื่องหย่ามาขู่ สวีเหวินเจิ้งก็พูดไม่ออก เขาสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธแล้วเอ่ยพูด “คุณ…ถ้าคุณทำแบบนี้ต่อไป สักวันเขาจะต้องตายแน่!”
“ยังไงก็ดีกว่าถูกคุณตีตาย!” ถึงแม้ฟางหลันจะรู้ดีว่าลูกชายของเธอถูกเธอตามใจจนเสียคน แต่ปากของเธอก็ไม่ยอมรับ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการตำหนิของสวีเหวินเจิ้ง เธอก็ไม่ลังเลที่จะตอบโต้กลับทันที
หลังจากนั้น คู่สามีภรรยาก็เริ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องผู้ป่วย บรรดาคุณหมอในห้องเห็นสถานการณ์ไม่ดี ก็แอบย่องออกไปจากห้องผู้ป่วย ทิ้งให้สวีเส้าถางซึ่งไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อยู่คนเดียว ถ้าเขาสามารถขยับตัวได้ เขาก็คงจะออกจากห้องไปให้ทั้งสองคนได้ทะเลาะกันตามสบาย
เพื่อสวีเส้าถางลูกชายที่ไม่เอาไหนคนนี้ คู่สองสามีภรรยาก็ไม่รู้ว่าเคยทะเลาะกันไปแล้วกี่ครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการทะเลาะที่รุนแรงที่สุด
“พอแล้ว หยุดทะเลาะกันได้แล้ว จากนี้ไปผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น!” ในที่สุดสวีเส้าถางก็พูดออกมา เขาไม่อยากเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว และเขาก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแน่นอน เพราะเขาไม่ใช่สวีเส้าถางคนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
สองสามีภรรยาที่กำลังทะเลาะกันก็หยุดชะงักไปทันที ก่อนจะมองไปทางสวีเส้าถางที่อยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เหมือนเห็นผี ด้วยนิสัยของเด็กคนนี้ เขาไม่โวยวายจะไปแก้แค้นซ่งญีโน่ แต่กลับบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมของเขา?
“ดูเหมือนว่าสมองจะยังไม่หายดี…” สองสามีภรรยาพูดพร้อมกันและส่ายหน้ากับถอนหายใจออกมา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในที่สุดสวีเส้าถางก็ได้ออกจากโรงพยาบาล
คุณหมอทุกคนต่างก็เชื่อว่าคุณชายคนนี้ได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้า บาดแผลที่หนักขนาดนี้ ตามการคาดการณ์ของพวกเขา เขาต้องอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยสามถึงห้าเดือน แต่เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ เขากลับเดินออกจากโรงพยาบาลได้อย่างกระฉับกระเฉง!
แน่นอนว่าสวีเส้าถางต้องไม่บอกพวกเขา ว่าเหตุผลที่เขาฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เป็นเพราะพลังภายในของเขากำลังทำการฟื้นฟูร่างกายเขาอยู่ แม้ว่าร่างกายตอนนี้จะไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการฝึก "เคล็ดปราบมังกร" ของเขา!
สวีเส้าถางจึงใช้ช่วงเวลานี้จัดระเบียบข้อมูลในสมองของเขา ถ้าตอนนี้ไม่ใช่เพราะเขาคือเจ้าของร่างคุณชายคนนี้ เขาคงอยากจะลงมือฆ่าคุณชายคนนี้ไปแล้ว!
สวีเส้าถาง หรือที่บางคนเรียกว่า "ตัวร้ายสวี" อายุยี่สิบห้าปี เป็นรองประธานเซิ่งซี่ กรุ๊ป แน่นอนว่านี่เป็นแค่ตำแหน่งเปล่าที่ไม่มีความหมายอะไร ความจริงแล้ว ที่คุณชายคนนี้มาทำงานที่เซิ่งซี่ กรุ๊ปก็เพื่อจุดประสงค์เดียว คือตามจีบซ่งญีโน่ที่ถูกเรียกขานว่า "สาวงามแห่งเที่ยนไห่"
สวีเส้าถางเติบโตมาพร้อมกับคาบช้อนทองคำในปาก ทั้งกินดื่มเล่นพนันหรือซื้อบริการ เขาเชี่ยวชาญทุกเรื่อง! วันหนึ่งเขาได้พบกับซ่งญีโน่โดยบังเอิญ และรู้สึกลุ่มหลงจนไม่สามารถลืมได้ เขาจึงขอให้สวีเหวินเจิ้งแต่งตั้งตำแหน่งรองประธานให้เขา และตั้งใจจะใช้ตำแหน่งนี้ในการเข้าหาซ่งญีโน่ แต่ใครจะคิดว่าเธอไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเขาก็ใช้วิธีการหลายวิธีในการตามจีบซ่งญีโน่ แต่ทุกครั้งก็ถูกเธอปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ สวีเส้าถางทนต่อความเย็นชาของซ่งญีโน่อีกต่อไปไม่ไหว จึงถือโอกาสตอนเมาและถูกเพื่อนยุยง เขาจึงคิดจะข่มขืนซ่งญีโน่แต่ผลลัพธ์คือเขาถูกบอดี้การ์ดของซ่งญีโน่ทำร้ายจนเกือบตาย หรือพูดให้ถูกก็คือเขาถูกทำร้ายจนตายไปแล้ว!
เกี่ยวกับฐานะที่แท้จริงของซ่งญีโน่ ก่อนหน้านี้สวีเส้าถางไม่เคยสืบเรื่องนี้เลย ในสายตาของเขา ซ่งญีโน่ก็แค่ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเซิ่งซี่ กรุ๊ปเท่านั้น อย่างมากก็แค่ผู้หญิงธรรมดาที่มีความสามารถเล็กน้อยเท่านั้นเอง!
เอาเถอะ เขายอมรับ ว่าซ่งญีโน่นั้นมีความโดดเด่นมากจริงๆ ถ้าไม่พูดถึงหน้าตาของเธอ เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทียนไห่ในอายุแค่ยี่สิบปี จากนั้นก็เข้าทำงานในเซิ่งซี่ กรุ๊ปใช้เวลาเพียงสามปี จากพนักงานฝ่ายขายธรรมดา กลายเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ทำรายได้ปีละหลายล้าน ประสบความสำเร็จในอาชีพที่หลายคนอาจจะไม่มีวันทำได้ แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเก่งของซ่งญีโน่แล้ว!
ผู้หญิงที่มีความสามารถมักจะมีหยิ่งเป็นธรรมดา ซ่งญีโน่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนที่ตามจีบซ่งญีโน่มีจำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็มีคุณชายเจ้าสำราญอย่างสวีเส้าถางอยู่ด้วย รวมไปถึงบรรดาชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงมากความสามารถ แต่เธอก็ไม่เคยตอบรับการจีบของใครเลย
สวีเส้าถางนั่งคิดทบทวนเรื่องซ่งญีโน่อยู่ในรถ ไม่นาน คนขับก็พาเขากลับมาถึงบ้าน แม้ว่าเขาจะมีภาพในหัวเกี่ยวกับคฤหาสน์ตระกูลสวี อยู่ในความทรงจำแล้ว แต่พอได้เห็นด้วยตาตัวเองก็ยังรู้สึกตกใจมากอยู่ดี
