อดีตของเว่ยซูหนิง
"แค่ก...แค่ก...นะ...น้ำ...ขอน้ำ"ฉันหิวน้ำมากเลยอย่างกับว่าร่างกายนี้ขาดน้ำมานานมากแล้ว
"คะ.....คุณหนู...คุณหนูฟื้นแล้ว"เสียงใครกันแต่ตอนนี้ฉันต้องการน้ำเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
"นะ...น้ำ....ขอน้ำ"
"อ่ะ...น้ำ...นี้เจ้าค่ะน้ำค่อยๆ ดื่มเจ้าค่ะ"หลังจากฉันได้ดื่มน้ำก็ค่อยๆ ปรับสายตาแล้วมองไปรอบๆ ห้องแต่จู่ๆ ก็
"อ่ะ...โอ้ย...ปวด...ปวดเหลือเกินทำไมถึงปวดแบบนี้"ฉันทรมานจนต้องยกมือขึ้นมากุมขมับเอาไว้
"คุณหนู! เป็นไรไปเจ้าค่ะ"
"ปวดหัว ฉันปวดหัวมากเลย"มันทรมานมากเหมือนมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลย
"รอบ่าวก่อนนะเจ้าค่ะบ่าวจะไปตามท่านหมอมาให้เจ้าค่ะ"นางก่อนจะวิ่งออกไปโดยไม่ลืมปิดประตูเอาไว้
มีภาพหลายอย่างฉายภาพมาในสมองภาพต่าง ๆ เล่าเรื่องราว คาดว่าจะคือเจ้าของร่างคนเก่าก่อนที่เธอจะมาอยู่แทนแต่ล่ะภาพบ่งบอกนิสัยเก่าของร่างนี้และความรู้สึกส่วนลึกของเธอคนนี้
ย้อนไปตอนเว่ยซูหนิงยังมีชีวิตอยู่นางมีนิสัยที่ร้ายกาจและริษยาคนอื่นตบตีสาวใช้ในเรือนแบบไม่มีเหตุผล
"จับมันไปโบย! ไม่ตายก็แค่พิการ"นางสั่งบ่าวชายจับสาวใช้คนหนึ่งที่ทำให้นางไม่พอใจนำไปลงโทษโดยไม่สนชีวิตของผู้อื่น
"ขอรับ! "บ่าวชายทำตามสิ่งที่นางสั่งไม่อย่างนั้นตนจะซวยไปด้วยอีกคน
"คุณหนูพอเถอะเจ้าค่ะทำแบบนี้นายท่านจะโกรธเอาได้นะเจ้าค่ะ"ไม่พอใจข้าหรือเหอะ ท่านพ่อเคยสนใจลูกสาวอย่างข้าด้วยหรอไม่เห็นจะจำได้เลย
"หุบปากถ้าเจ้าไม่อยากโดนลงโทษ"
วันถัดมา
"ฮือๆ ....ฮือๆ ..พะ...พี่สี่นั้นของข้าอย่าเอาไปเลยนะเจ้าค่ะ"เด็กน้อยอายุเพียง6ขวบบุตรสาวคนเล็กที่เกิดจากอนุภรรยาที่มีตำแหน่งในจวนเป็นเพียงสาวใช้ของท่านแม่ทัพโจวผิง แต่ก็โชคร้ายหลังจากนางคลอดบุตรสาวได้เพียงสองวันก็ตายจากไปส่วนบุตรสาวของนางเพราะท่านแม่ทัพไม่ค่อยมีเวลาจึงมีเพียงสาวใช้ในจวนคอยดูแลนางให้
"ข้าจะเอา แล้าเจ้าจะทำไมจะไปฟ้องท่านพ่องั้นหรือเอาสิข้าจะได้นำมันไปเผาทิ้งซะ"ทุกสิ่งที่ท่านพ่อให้เจ้าข้าจะแย่งมาให้หมดมันควรเป็นของๆ ข้าแต่เพียงผู้เดียว
เพราะน้องเล็กของนางอ่อนแอเกินไปแถมเจ้าน้ำตานางไม่ชอบคนอ่อนแอและที่ยิ่งเกลียดไปกว่านั้นคือท่านพ่อรักน้องเล็กมากกว่านาง เพียงเพราะน้องเล็กไม่มีแม่หรือแล้วนางเหล่านางก็ไม่มีแม่ทั้งที่นางเกิดจากฮูหยินใหญ่แต่ท่านพ่อก็ไม่เคยมองว่านางเป็นลูกสาวเลยสักนิดเดียวนางเคยสงสัยว่าพี่ชายทั้งสามที่ร่วมมารดาเดียวกันแต่ท่านพ่อก็ยังรักแตกต่างจากนางที่แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองจนวันหนึ่งที่นางได้ไปยินในสิ่งที่ไม่ควรรู้เข้า
"ท่านพ่อข้าไม่เข้าใจทำไมท่านต้องทำเหมือนไม่สนใจไม่รักน้องสี่เลย"พี่ใหญ่ที่ห่วงความรู้สึกของน้องสาวตนรีบเอ่ยถามท่านพ่อทันที
"เพราะพ่อไม่อยากให้นางเจ็บปวดหากรู้ความจริงว่านางไม่ใช่ลูกสาวและไม่ใช่น้องสาวของพวกเจ้า นางก็แค่วิญญาณดวงหนึ่งที่เข้ามาอาศัยร่างของน้องสาวเจ้าเท่านั้น"ไม่ใช่ลูกสาวเป็นเพียงดวงวิญญาณดวงหนึ่งหรือ
"แต่ท่านพ่อก็ควรให้ความรักแก่นางบ้างสักครั้งก็ยังดี ข้ารู้ที่ท่านแม่หายไปจากบ้านเพราะดวงวิญญาณของน้องถูกจอมมารดำนำไปตั้งแต่ยังเด็กและนำดวงวิญญาณของเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาใส่ไว้ในร่างนี้ท่านแม่เลยต้องจากไปเพื่อตามหาน้องสาว"พวกท่านพูดไรกันข้าไม่เชื่อมันต้องไม่ใช่ความจริง
เพล้ง!
"หนิงเอ่อร์/น้องสี่"ท่านพ่อและพี่ชายทั้งสามต่างหันมาที่นางและเอ่ยเรียกนางเป็นเสียงเดียวกัน
"ฮึกๆ ......ฮือๆ ..มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ยท่านพ่อพี่ใหญ่....ฮือๆ "นางถามทั้งน้ำตาทั้งเสียใจทั้งทำใจยอมรับความจริงไม่ได้
"มันคือความจริงและเจ้าต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าเจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้าหากเป็นลูกสาวข้าจริงนางจะมีปานดอกเหมยที่แขนข้างซ้ายแต่เจ้ากับไม่มีอะไรปรากฎขึ้นเลย"ฮือๆ ในที่สุดข้าก็ได้รู้ความจริงแล้ว ข้าเป็นใครกันแน่
"ท่านพ่อ/ท่านพ่อ/ท่านพ่อ"พี่ชายทั้งสามตะโกนเรียกท่านพ่อด้วยความตกใจไม่คิดว่าท่านพ่อจะเอ่ยกับนางแบบนี้ถึงนางจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ก็ตามแต่พวกเขาก็รักนาง แต่ต่อจากนี้ข้าคงไม่วันกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
"ลููกเข้าใจแล้ว ลูกขอตัวก่อนนะเจ้าค่ะ"นางรีบวิ่งหนีความจริงกับไปยังเรือนที่นางอาศัยอยู่นางไม่พร้อมจะยอมรับความจริงเลย
เวลาผ่านไปไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดออกมาเลยจากวันนั้นที่นางรู้ความจริงก็เอาแต่เก็บตัวท่านพ่อก็ไม่กลับบ้านยอมรับราชองค์การไปทำศึกกับศัตรูต่างแคว้นส่วนพี่ชายทั้งสามแม้จะมาเยี่ยมนางบ่อยครั้งแต่นางก็ปฎิเสธที่ออกไปพบ
จนวันสุดท้ายของชีวิตที่นางไม่ได้กล่าวอำลาผู้ใดและไม่มีผู้ใดเลยจะล่วงรู้ว่าจะมีวันนี้
จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ~
"เจ้านกน้อยไม่ต้องกลัวข้าจะพาเจ้ากลับคืนบ้าน เจ้ายังดีที่มีบ้านมีครอบครัวต่างจากข้าเป็นใครก็ไม่รู้แม้แต่บ้านก็ยังไม่ใช่ของข้าเลย ที่ไปก็ไม่มี เอาล่ะข้าพาเจ้ากลับบ้านแล้วนะนกน้อย"นางปีนขึ้นมาบนต้นไม้สูงเพื่อเอาลูกนกกลับมาไว้ยังลังของมันแต่จังหวะที่นางกำลังจะลงแม่นกกลับลังมาคิดว่านางจะมาทำอัตรายลูกมันจึงบินเข้ามาจิกนางจนนางพลัดตกต้นไม้หัวแตกและหมดสติไปถึง3เดือนด้วยกัน
กลับมายังปัจจุบัน
"ที่แท้เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้เอง
เรามาอยู่ในร่างคุณหนูสี่ตระกูลเว่ย ท่านพ่อคือท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เว่ยโจวผิง มีบุตรชายสามมีบุตรสาวสอง เคยมีฮูหยินแต่หายสาบสูญ จริงสิปานดอกเหมยหากคนตายไปไม่ใช่เว่ยซูหนิงตัวจริงแล้วเราล่ะ"เธอแค่คิดเล่นๆ แต่พอเอาแขนข้างซ้ายมาดูปรากฏว่าที่ข้อมือเธอมีปานรูปดอกเหมยอยู่แล้วแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน ใช่ความจริงแน่ๆ เราแค่ฝันสิแค่ฝันไป
"มันคือความจริงต่างหากล่ะ"เอ๊ะ! เสียงแบบนี้จะใครไปไม่ได้เทพแห่งโชคชะตาสมองเท่าเด็ก
"หมายความว่าไง"บอกมาให้เคลียร์ยัยเทพสมองเด็กไม่งั้นล่ะก็จับแม่งทุ่มแน่
"นี้ๆ ....ให้มันดีๆ ข้าได้ยินเสียงความคิดเจ้านะ ที่มาเนี่ยแค่จะบอกว่านี้คือโลกที่เจ้าควรจะได้อยู่ตั้งแต่แรกและที่สำคัญอย่าลืมพลังชีวิตของเจ้าอีกครึ่งอยู่ที่ข้าหากทำไรข้าล่ะก็เทพสมองเด็กคนนี้จะๆ ....ไว้คิดอีกที"เหอะๆ ดูพูดเข้าหากนี้คือโลกที่เราควรอยู่แต่แรกงั้นเราก็คือเว่ยซูหนองตัวจริงแล้วคนที่มาอยู่ในร่างนี้ล่ะคือใครกัน
"คิดไรให้เยอะ นางคนนั้นก็คือเจ้าของร่างที่เจ้าไปอยู่มาอีกโลกหนึ่งนั้นและแต่ตอนนี้นางจะไม่มีตัวตนอีกแล้วในเมื่อร่างที่เจ้าเคยอาศัยอยู่ได้ตายลงไปแล้ว"แบบนี้เธอคนนั้นก็น่าสงสารมากเลยทั้งเจ็บปวดทรมานแถมยังไม่เคยรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนอีก
"ห่วงอยู่ได้คนอื่นเนี่ย ห่วงตัวเจ้าเองเถอะเห็นเจ้ามีสภาพแบบนี้แล้วอย่างจะบอกเหลือเกินว่ารับไม่ได้ ข้ามาบอกเจ้าแค่นี้และส่วนเจ้าอยากรู้อะไรก็หาในหนังสือเล่มนี้ล่ะกันข้าขอตัวก่อน"ส่งหนังสือเล่มหนึ่งให้เธอและก็จากไปดั่งคำที่ว่า 'มาเร็วไปเร็ว'เอาเถอะฉันคงต้องปรับตัวอีกเยอะเลยจะทำไรก่อนดีน่า