บทย่อ
“อย่า... หยุดเถอะนาย” สาวน้อยพยายามดิ้นหนีมือใหญ่ที่กดแผ่นหลังของหล่อนให้ลำตัวแนบเอาไว้กับพนักโซฟา “ขอฉันดูชัดๆ... ว่าหนูเป็นสาวแล้วหรือยัง” จากนั้นนายหัวก็เอามือตบที่ต้นขาด้านในของมิญญา เพื่อให้มันแยกออกจากกัน ด้วยอยากเห็นเต่าน้อยว่าโตเต็มที่พร้อมจะใช้งานได้แล้วหรือยัง “อ๊อย... ” คนโดนจู่โจมแบบถึงเนื้อถึงตัวสะดุ้ง มือสากระคายลูบล้วงผ่านง่ามขาเข้ามาถึงหน้าท้อง ส่องผลให้ร่องสวาทเป็นกลีบอูมของหล่อนเสียดสีเข้ากับท่อนแขนของเขาอย่างจัง “นาย... อย่า” นายหัวขยับแขน หงายฝ่ามือตะล่อมบีบพูเนื้ออวบอูมเต็มมือ “โห... ใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้อีก” ร่องสวาทอูมแน่นเหมือนส้มโอสองกลีบประกบกัน ปลิ้นออกมาจากง่ามขาทางด้านหลัง แลเห็นเส้นไหมสีดำระยับ โอบล้อมพูงาม “ว้าว... ” มืออีกข้างของนายหัวหื่นรีบกระชากสายชุดนอนเส้นบางๆ ที่เกี่ยวไหล่กลมกลึงสองข้างเอาไว้ให้ลงมากองรวมกันอยู่ที่เอว “ผิวสวยเหลือเกินหนูจ๋า... ทั้งเนียนทั้งขาว” นายหัวตะลึงกับความสาวสะพรั่งของมิญญา รีบก้มหน้าลงมาจูบไซ้แผ่นหลังเปล่าเปลือยจากทางด้านหลัง หนวดเคราแข็งที่ปักทิ่มเนื้ออ่อนๆ ทำเอาคนตัวเล็กร้องครางด้วยความซ่านเสียวลืมตัว ไหล่สองข้างบิดส่ายไปมาคล้ายดิ้นรนจะหนี แต่ยากเหลือเกินที่จะพาตัวเองออกมาจากร่างหนา ประกบกายแนบอยู่ทางด้านหลัง
ตอนที่ 1
“ยอดรักของนายหัว”
ณ จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ภายในบ้านที่ปลูกสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ตั้งอยู่ในสวนปาล์มเนื้อที่หลายร้อยไร่ของ ‘นายหัวเผ่าพงษ์’
“นายคะ... มีไรอะไรหรือเปล่าคะ... ป้านิ่มบอกว่านายอยากเจอมิ้นใช่ไหมคะ”
‘มิ้น’ คือชื่อเล่น แต่ชื่อจริงของสาวน้อยผู้มีใบหน้าสะสวยสะดุดตาคนนี้ก็คือ ‘มิญญา’
หล่อนถามเสียงซื่อ ขณะดวงตากลมโตดำขลับ วิบวับไปด้วยหยาดแววความมีชีวิตชีวา กวาดสำรวจไปทั่วห้องนอนของผู้เป็นนาย แลเห็นขวดสุราที่วางอยู่บนโต๊ะพร่องไปเกือบครึ่งขวด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังดื่มอยู่คนเดียว
“ใช่... ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอสักครู่”
นายหัวเผ่าพงษ์กล่าวกับสาวน้อย ตอนนั้นเขาอยู่ในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าเพียงผืนเดียว อวดร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าสุดเซ็กซี่ แผงอกว้างแน่นนูนไปด้วยมัดกล้าม มีเส้นขนสีดำเป็นแพแผ่กระจายปกคลุมขึ้นมาถึงคอ หัวไหล่ทั้งสองข้างเต็มตึงไปด้วยมัดเนื้อแข็งแกร่งสุดเซ็กซี่ นอนเหยียดยาวไขว้ปลายเท้าอยู่บนเตียงด้วยแววตาท่าทางซึ่งมิญญายอมรับว่าเดาอารมณ์ไม่ถูก
“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับมิ้นคะ”
สาวน้อยในวัยใกล้สิบเก้าปี จ้องมองร่างเซ็กซี่ของนายหัวที่นอนอยู่บนเตียง
“มาตรงนี้... เข้ามาใกล้ๆ”
เสียงเข้มฟังดูดุ หญิงสาวในชุดนอนสีชมพูหวานลายคิตตี้แคทรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก็ปกตินายหัวไม่เคยเรียกหล่อนเข้ามาในห้องนอน แต่วันนี้กลับเรียกให้เข้ามาถึงในห้อง
“เข้ามา... ”
เสียงดุทำให้เรือนร่างรัดรึงขยับเข้ามาทรุดลงนั่งที่ริมขอบเตียง เหลือบมองหน้าเจ้าของห้องแล้วเอ่ยถาม
“นายเมาหรือเปล่าคะ”
ที่มิญญาถาม ก็เพราะว่าวันนี้สุ้มเสียงของนายหัวฟังดูห้วนๆ จึงอดถามไม่ได้
“ไม่รู้... ”
ยังคงตอบเสียงห้วนเหมือนเดิม
“นายไม่สบายหรือเปล่าคะ”
รู้สึกแปลกใจ สาวน้อยเอื้อมเอาหลังมือข้างหนึ่งขึ้นมาแตะที่บริเวณหน้าผากกว้างของนายหัว
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่คะนาย”
“ก็ฉันไม่ได้เป็นไร”
เขาส่ายหน้า ความใกล้ชิดทำเอาหนุ่มใหญ่เจ้าของสวนปาล์มใจเต้นแรง ยิ่งในตอนที่สาวน้อยโน้มกายเข้ามาใกล้ ให้ตายเถอะโรบิ้น... กลิ่นสาปสาวของหล่อนและทรวงอกอวบใหญ่ที่เบียดลงมาชนไหล่ ทำให้หัวใจของเขากระตุกสั่น เกิดปฏิกิริยาทางความรู้สึกบางอย่างที่ทำเอาท่อนเนื้อตรงกึ่งกลางกายเหยียดขยาย... แข็งเป็นลำอยู่ภายใต้ผ้าขาวม้า
“อ่า... ”
เผ่าพงษ์พริ้มตา พยายามหักห้ามอารมณ์อย่างสับสนใจ อีกใจนึกอยากกระชากเรือนร่างเอิบอิ่มของมิญญาเข้ามาปลุกปล้ำจูบฟัดแล้วร่วมรักให้สมใจอยาก หากอีกใจกลับร้องห้ามว่า ‘อย่า’ สติที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างบอกย้ำๆ กับตัวเองว่าสาวน้อยคนนี้รักและเทิดทูนเขาราวกับพ่อ... เขาจะทำตามความปรารถนามืดดำไม่ได้
‘ไม่... ’
หนุ่มใหญ่บอกย้ำกับตัวเอง เขาต้องหยุด ในฐานะผู้ปกครองของหล่อน... มันสมควรแล้วหรือ? ที่เขาจะกระทำย่ำยีด้วยการพรากพรหมจารีของเด็กสาวที่เขาอุตส่าห์เลี้ยงดูหล่อนมานานเกือบสิบปี นับตั้งแต่มิญญาอายุได้สิบขวบ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
ท่าทางของนายหัวดูสับสน
“เปลี่ยนใจ... ยังไงคะ”
เด็กสาวย่นหน้าผาก วันนี้นายหัวดูแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาใช้ให้คนไปตามหล่อนขึ้นมาพบที่ห้องนอน
“ออกไป... ไปไกลๆ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน”
เผ่าพงษ์รู้ว่าตัวเองมีความปรารถนามืดดำซุกซ่อนอยู่ในตัวตน สาวน้อยต่างหากที่ไม่เคยรู้ว่าในคราบของผู้ปกครองผู้แสนดีคนนี้... มีซาตานร้ายกระหายสวาทแอบแฝงอยู่ภายใต้แววตาเปี่ยมกรุณาปราณี
“นายเป็นไรคะ... เรียกมา... แล้วก็ไล่ นายไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ”
สาวน้อยแอบเบะปาก ต่อว่าคนที่มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เอาใจไม่ถูก นึกในใจว่าอีตาคนนี้สงสัยใกล้วัยทองเต็มที อารมณ์จึงขึ้นๆ ลงๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนตามไม่ทัน
“อย่าถามมาก... บอกให้ออกไปก็รีบไปสิ... ขืนชักช้าเดี๋ยวเธอจะโดนหนัก”
เผ่าพงษ์เท่านั้นที่รู้ดีตัวเองป่วย และไม่ใช่ความเจ็บป่วยทางกายชนิดที่ว่าปวดหัวตัวร้อนธรรมดา แต่เขาป่วยด้วยอาการที่เรียกว่า ‘hypersexuality’
อาการนี้เผ่าพงษ์รู้ตัวดีว่าเป็นมานานแล้ว นับตั้งแต่ร่างกายเริ่มเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น อาการยิ่งรุนแรงขึ้นในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ‘hypersexuality’ ทำให้เขากลายเป็นคนหื่น