บทย่อ
เพราะถูกคนรักชั่วหลอกใช้จนต้องตกตายยกตระกูล ความคับแค้นใจอัดแน่นเสียจนแทบกระอักโลหิต หากมีโอกาศอีกครานางจะแก้แค้นคืนให้สาสม แม้จะต้องอยู่ในร่างสตรีนางอื่นยอมสิงศพคืนชีพ แลกด้วยทั้งหมดของชีวิตนางก็จะทำ
บทนำ1-1
แคว้นฟงหลิง
ยามราตรีเสียงลมกรรโชกที่โหมกระหน่ำรุนแรง ต้นไม้ทุกต้นโยกไหวไปตามแรงลม คล้ายกับมีมือหลายมือเสมือนเงามืดที่จับต้นไม้เหล่านั้นให้เอนไหวไปตามทิศทางลม จันทราสาดแสงส่องลงมาทำให้เห็นทุกสรรพสิ่งได้อย่างเลือนราง ยามนี้ภายในจวนตระกูลจาง ทุกคนต่างเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์กันหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงเรือนเหลียนฮวาที่ตอนนี้ยังคงมีแสงเทียนวับแวมให้พอมองเห็นได้อยู่บ้าง ภายในห้องมีหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีกำลังนั่งพนมมืออยู่ในอ่างน้ำที่มีกลิ่นสมุนไพรเข้มข้น พลางขยับริมฝีปากแดงฉ่ำท่องสวดคาถาบางอย่างไม่ยอมลดละ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกลงจนหนาวสะท้าน ก่อนที่นางจะขยับริมฝีปากบางเอ่ยวาจาออกมา
"ขอให้ข้างามที่สุด งามเป็นหนึ่งในแคว้นฟงหลิง สตรีใดก็มิอาจเทียบเคียงข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม"
กล่าวจบนางก็ยิ้มตาหยี ใบหน้างดงามล่มเมืองทว่ากลับแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาอำมหิต
"คุณหนูเจ้าคะ ยามนี้ดึกมากแล้ว รีบเข้านอนเถิดเจ้าค่ะ"
เสียงสาวใช้นางหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยท่าทีหวาดหวั่น หญิงสาวพลันปรายตามามองสาวใช้อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะตวาดเสียงดัง
"พูดมาก นังคนชั้นต่ำ!"
สิ้นเสียงหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะสั่งให้สาวใช้มาเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อย จึงกลับเข้าไปในห้องนอน นางทิ้งกายนั่งลงบนเตียง ก่อนจะยกชามใบหนึ่งที่มีน้ำแกงบางอย่างขึ้นมายกดื่มจนหมดถ้วย เหล่าสาวใช้ที่เห็นแม้จะรู้สึกอยากอาเจียนมากเพียงใดแต่กลับไม่กล้าแสดงท่าทีอื่นใดออกมา
จะไม่ให้พวกนางสะอิดสะเอียนได้อย่างไรกัน คุณหนูของพวกนางหลงใหลมนต์ดำจนถึงขั้นกินรกเด็กต้มน้ำแกงเข้าไป!
คุณหนูใหญ่ของพวกนางมีนามว่า จางเหมี่ยวลี่ เป็นบุตรสาวจวนแม่ทัพตระกูลจาง งดงามเหนือสตรีใดอีกทั้งมีความสามารถไม่น้อย บิดาของนางคือแม่ทัพใหญ่ เป็นบุรุษรูปงามองอาจแห่งยุค ส่วนมารดาของนางในกาลก่อนก็เป็นถึงสาวงามอันดับหนึ่งของแคว้นฟงหลิง ความงามของนางได้รับการถ่ายทอดจากบิดามารดาจนเป็นที่เลื่องลือ แม้จะมีข่าวลือแพร่สะพัดว่านางหลงใหลคุณไสยมนต์ดำ แต่ด้วยเพราะบิดานางทำความดีความชอบ ทำให้ราษฎรทั่วทั้งฟงหลิงไม่กล้านินทานางต่อหน้า แต่ลับหลังเรื่องของนางกลายเป็นเรื่องเล่าที่สนุกปากไปเสียแล้ว
จางเหมี่ยวลี่เริ่มเรียนรู้มนต์ดำผ่านไต้ซือผู้หนึ่ง เขามอบตำราให้นางเอาไว้ศึกษาหนึ่งเล่ม ในตำราเล่มนั้นมีทั้งวิธีการสาปแช่ง ศาสตร์ลับเรื่องความงาม ในคราแรกจางเหมี่ยวลี่ยังรู้สึกหวาดหวั่น แต่นานวันเข้านางกลับหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
จุดมุ่งหมายเริ่มแรกเพียงอยากทำให้ตนเองงดงาม นางจึงสั่งให้สาวใช้ไปหาซื้อรกเด็กจากหญิงชาวบ้านที่คลอดบุตรและกำลังจะนำรกไปทิ้ง นานวันเข้าก็ติดต่อซื้อขายกันอย่างลับๆ หญิงผู้นั้นเห็นว่างานนี้ได้เงินดีจึงไม่สนถูกผิดอันใดอีก เมื่อได้รกเหล่านั้นมาแล้วจางเหมี่ยวลี่จึงให้สาวใช้เอามาตุ๋นเป็นยาเสริมความงามดื่มกินทุกวันเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์งดงามอยู่เสมอ
เช้าวันต่อมา จางเหมี่ยวลี่ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมารับลมยามเช้า อากาศในฤดูใบไม้ผลิค่อนข้างที่จะดีไม่น้อยเลย นางจึงยืนรับลมต่ออีกครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินกลับเข้ามากินอาหารเช้าที่เรือนของตน ก่อนจะปรายตามองเหล่าสาวใช้แวบหนึ่ง
"เอาน้ำแกงตุ๋นมาให้ข้า"
สาวใช้นามว่าเยว่ซินหันขวับมามองเจ้านายของตน แล้วพูดด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ
"เอ่อ คุณหนู เมื่อคืนเพิ่งจะดื่มไปนะเจ้าคะ"
จางเหมี่ยวลี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงจ้องมองสาวใช้เยว่ซินด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย
"ข้าสั่งให้เจ้าไปเอามา ไม่ได้ยินหรือ หรือต้องให้ข้าตบสั่งสอน!"
"คุณหนู ตอนนี้ เอ่อ รกพวกนั้นจะหมดแล้วนะเจ้าคะ ยามนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงภาวะสงคราม ทางการจึงสั่งเกณฑ์ไพร่พล สามีภรรยาแยกจากกัน ทำให้หาหญิงท้องแก่ลำบากยากยิ่งนัก แทบไม่มีเด็กเกิดใหม่เลยเจ้าค่ะ"
จางเหมี่ยวลี่หลับตาลง พยายามระงับโทสะ แต่เวลานี้นางโมโหแล้ว น้ำแกงตุ๋นรกเด็กของข้า!
ทันทีทันใดนั้นนางจึงคว่ำโต๊ะอาหารจนถ้วยชามแตกกระจายเกลื่อนพื้น
"ไปหามาให้ข้า!"
เยว่ซินที่เห็นว่าเจ้านายตนบันดาลโทสะถึงขั้นฆ่านางได้จึงไม่กล้ารั้งรออะไรอีก รีบไปที่ห้องครัวเพื่อที่จะนำน้ำแกงมามอบให้คุณหนู จางเหมี่ยวลี่ทิ้งกายลงนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง ก่อนจะพนมมือขึ้นและพึมพำบางอย่างอยู่เงียบๆ
สวรรค์! ข้าจะไม่ผิดต่อบัญชาสวรรค์ ข้าจะต้องนำรกเหล่านั้นมาดื่มทุกวันให้จงได้ ท่านอย่าได้โกรธเคืองเลยนะเจ้าคะ
เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นไปถึงเรือนใหญ่ของจวนตระกูลจาง จางฮูหยินร้อนใจจึงรีบเร่งมาดูบุตรสาวของตนทันที เมื่อเห็นว่าเครื่องเรือนถูกทุบทำลายจนแตกกระจัดกระจาย นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา นางและสามีมีบุตรชายหญิงคู่หนึ่ง บุตรชายคนโตนามว่าจางเฉวียนอายุยี่สิบสองปี และจางเหมี่ยวลี่บุตรสาวอายุสิบเจ็ดปี โดยเฉพาะบุตรสาวนั้นนางรักดั่งแก้วตาดวงใจ จางเหมี่ยวลี่ต้องการสิ่งใดนางและสามีย่อมหามาให้ทุกอย่าง รู้ทั้งรู้ว่านางหลงงมงายในศาสตร์มนต์ดำพวกเขาก็ยังไม่สามารถคัดค้านนางได้
"เหมี่ยวเอ๋อร์ลูกแม่ เจ้าโมโหอันใดอีกเล่า ผู้ใดกล้าขัดใจบุตรสาวข้า!"
เหล่าสาวใช้ต่างนิ่งเงียบไม่กล้าปริปากพูดอะไร จางเหมี่ยวลี่เห็นว่ามารดามาหาก็ระงับโทสะสงบสติอารมณ์ลงได้ พูดคุยสนทนาไม่กี่ประโยคเท่านั้น ไม่นานนักเยว่ซินก็ยกน้ำแกงเข้ามาให้จางเหมี่ยวลี่ นางรีบยกขึ้นดื่มครั้งเดียวจนหมดถ้วย จางฮูหยินลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดผวา นางรู้ดีว่ามันคือน้ำแกงทำมาจากอะไร แม้จะอยากอาเจียนแต่ก็ไม่กล้ากล่าววาจาใดเพราะเกรงว่าจะทำร้ายจิตใจบุตรสาว
เมื่อได้ดื่มน้ำแกงแล้ว จางเหมี่ยวลี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมาโดยฉับพลัน พูดจาสนทนากับมารดาของตน
"ท่านแม่เจ้าคะ อีกไม่นานท่านพี่เซียวจิ้งก็จะยกทัพกลับมาพร้อมกับท่านพ่อแล้ว ข้าอยากจะเตรียมของต้อนรับเขาเจ้าค่ะ ท่านแม่ท่านช่วยข้าด้วยเถิด ท่านรู้จักร้านค้ามากมายย่อมหาของดีมาให้ข้าได้เป็นแน่"
จางฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนจะรับปากนาง
"เหมี่ยวเอ๋อร์ ไว้แม่จะจัดการเรื่องนี้ให้เจ้าเอง"
"ท่านแม่รักข้าที่สุดเลย"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
จางฮูหยินยิ้มให้บุตรสาวอย่างอ่อนโยน ตั้งแต่แต่งงานเข้าจวนตระกูลจางนางก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีมาโดยตลอด สามีนางเองเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แคว้นฟงหลิง อีกทั้งจางเฉวียนบุตรชายคนโตของนางก็เข้าสู่กองทัพเป็นทหารหนุ่มที่มากความสามารถ อีกไม่นานย่อมได้รับพระราชทานตำแหน่งในกองทัพตามรอยบิดาเป็นแน่
บุตรชายนั้นมีความสามารถตามรอยบิดา น่าเสียดายที่จางเหมี่ยวลี่แม้จะมีทักษะเรื่องการต่อสู้มาตั้งแต่วัยเยาว์แต่กลับละเลยไม่สนใจ วันๆ เอาแต่สนใจศาสตร์มนต์ดำเช่นนี้
จางเหมี่ยวลี่แย้มยิ้มให้มารดาอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาคมคายของเซียวจิ้งบุรุษที่ตนเฝ้าคะนึงหา
โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งชะตาชีวิตของนางจะพลิกผันไปอย่างไม่หวนคืน