4
Chapter 4
คนอะไรเถื่อนนัก เชอะ! แต่เราไม่ได้บอกที่อยู่ให้เขารู้เสียหน่อย ชิ จ้างให้ก็ไม่กลัวหรอก จ้างให้ขาอ่อนก็ไม่ได้เห็นหรอก
อรนภัสคิดว่าเขาคงแกล้งขู่เธอไปแบบนั้นเอง
ครู่ใหญ่ เสียงข้อความก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาอรนภัสตกใจกับข้อความที่บอกบ้านเลขที่ของเธอชัดเจน เขารู้ได้ยังไงนี่ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาอีกทำให้เธอจำใจต้องรับสาย
“ยอมรับสายแล้วเหรอ”
เสียงเข้มที่เอ่ยมาตามสายทำให้หัวใจเธอเต้นแรงผิดจังหวะอีกครั้ง
“คุณรู้ที่อยู่ฉันได้ยังไงคะ” เธอถามเสียงระรัว
“แหม... เป็นธรรมดา พี่ต้องสนใจทุกเรื่องของว่าที่เมียสิ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้จะไม่รู้”
“คุณ!”
อรนภัสพวงแก้มแดงเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดนั้น คนอะไรขี้ตู่นัก เธอไปเป็นว่าที่เมียเขาตอนไหนกัน
“พรุ่งนี้พี่จะไปหาเธอที่บ้าน ไปฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อแม่ของเธอ และจะรับเธอไปที่ร้านขนมด้วย”
ภวัตแจ้งความประสงค์ ทั้งๆ ที่เขารู้จักบิดามารดาของเธอดี
“ไม่ได้นะคะ” อรนภัสรีบห้ามเสียงระรัว
“ทำไมล่ะ” ภวัตเลิกคิ้วเข้มอย่างไม่ชอบให้ใครขัดใจ
“จะให้ฉันบอกคุณพ่อกับคุณแม่ยังไงเรื่องของคุณ ที่จู่ๆ คุณก็โผล่มา แล้วไหนจะแฟนฉันอีก”
เธอปด เขารุกเหลือเกิน ไม่ให้เธอได้ตั้งตัวเลย
“เธอยังไม่มีแฟน”
ชายหนุ่มแย้งเสียงเรียบติดจะขรึมเหมือนไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องไร้สาระ
“ฉัน…” เป็นอีกครั้งที่อรนภัสพูดไม่ออก
“พรุ่งนี้จะเข้าไปหาจริงๆ ห้ามปฏิเสธ ฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ”
อรนภัสตาโต ค่อนขอดในใจ คนอะไรเผด็จการเป็นอาชีพ!
“เอ่อ... แค่มารับได้ไหมคะ ฉันยังไม่รู้จะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไง ถ้าจู่ๆ คุณจะโผล่เข้าไปหาท่านเลยแบบนี้”
เธอพูดแล้วต้องกัดริมฝีปาก ทำไมเธอต้องไปรับปากเขาด้วยนี่
“ก็บอกไปว่า... ว่าที่สามีจะมารับ”
“คุณ” อรนภัสทำเสียงขัดใจ
“ก็ได้” ชายหนุ่มรับปากเพราะไม่อยากทำให้เธอโกรธ
“แล้วปกตินอนดึกหรือเปล่า หวังว่าพี่คงไม่ได้โทรมากวนนะ แค่อยากได้ยินเสียงเธอก่อนนอน คืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”
ภวัตลูบหน้าร้อนๆ ของตัวเอง
เฮ้อ! ซ้อมตั้งนานกว่าจะพูดออกมาได้ งานนี้สงสัยต้องขอบคุณเพื่อนรัก
อรนภัสไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่พูดสายด้วยหน้าแดงจัดขนาดไหน เธอคิดว่าเขากำลังหน้าเคร่ง ทำเสียงวางอำนาจอยู่ต่างหาก
“เอ่อ... ทำไมคะ อยากคุยกับฉันเหรอ”
หญิงสาวอดถามต่อไม่ได้ เริ่มผ่อนคลายเมื่อเขาชวนคุย ไม่ได้มีท่าทีพูดจาลวนลามเธออย่างที่คิด
“พี่จะโทรไปหาเธอทุกคืนได้ไหม แต่ถ้าไม่ได้จะบุกถึงบ้านเลย”
เอากับเขาสิ แล้วแบบนี้จะให้เธอตอบว่าไม่ได้หรือไง เขาเล่นดักทางเอาไว้แบบนี้
“คุณพูดแบบนี้ฉันจะปฏิเสธได้เหรอคะ”
อรนภัสเริ่มต่อล้อต่อเถียงกับเขาบ้าง
“ไม่อยากให้ปฏิเสธไงเลยดักคอเอาไว้ก่อน”
ภวัตพูดขึ้น แล้วเขาก็กลอกตาไปมา การจีบหญิงนี่มันยากเอาการอยู่เหมือนกันแฮะ เขาเองก็ไม่ใช่คนโรแมนติกเสียด้วยสิ
“อร”
ชายหนุ่มเห็นเธอเงียบเสียงไปนานจึงเอ่ยเรียก คิดว่าอีกฝ่ายวางสายไปแล้ว
“คะ”
อรนภัสหลุดจากภวังค์ความคิดขานรับเขางงๆ เมื่อเห็นเขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฝันดีก็แล้วกัน ไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้จะไปรับนะ”
เขาตัดบทแต่ยังไม่วางสาย อรนภัสเผลอยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธออยากบอกเขาว่าฝันดีเช่นกันแต่ไม่กล้า
“บอกฉันด้วยว่าฝันดี จะได้เสมอกัน” เขารุกเร้าเอาคำตอบ
“ฝันดีค่ะ คนเผด็จการ”
เธอว่าใส่โทรศัพท์แล้วกดวางสาย ภวัตถือโทรศัพท์ค้าง จะเอ่ยเรียกแต่อีกฝ่ายชิ่งวางสายไปเรียบร้อยแล้ว มือหนาวางโทรศัพท์บนหัวเตียง เขาไม่ได้เข้านอนและหลับฝันดีอย่างที่บอกเธอสักนิด แต่กำลังจะออกไปจัดการกับน้องสาวตัวแสบต่างหาก
จุดประสงค์ที่เขามากรุงเทพฯ ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อมาทำความรู้จักกับอรนภัสเท่านั้น แต่เป็นเพราะเพียงแพรน้องสาวของเขาด้วย!!!
ร่างโปร่งบางที่เต้นอยู่กลางผับในตัวเมืองใหญ่อย่างสุดฤทธิ์สุดเดชทำให้ดวงตาคมกริบตวัดมองอย่างโมโห สายตาของผู้เป็นนายทำให้หินผา... ลูกน้องคนสนิทถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ นึกเป็นห่วงหญิงสาวขึ้นมาทันที กำลังจะโดนระเบิดลูกใหญ่โดยไม่รู้ตัว
“ว้าย ใครน่ะ!”
เพียงแพรตวัดสายตาดุๆ หันมามอง ก่อนจะตาโตอ้าปากค้าง หน้าซีดเผือด เมื่อเห็นดวงตาดุดันชนิดที่ถอดแบบกันมากำลังมองตรงมาอย่างโกรธจัด “พี่วัต!” เพียงแพรร้องเสียงหลง เมื่อพี่ชายมาโผล่เอาที่นี่ ในขณะที่เธอกำลังเหวี่ยงร่างโยกย้ายส่ายไปมาอย่างเมามัน
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
เสียงกัมปนาทดังไปทั่วแข่งกับเสียงเพลงอึกทึกของผับหรูใจกลางเมืองหลวงศิวิไลซ์
“เฮ้ย! พี่วัตมาได้ไงนี่”
เพียงแพรตกใจเมื่อได้ยินเสียงราวฟ้าพิโรธของพี่ชาย รู้ว่าอีกฝ่ายโมโหร้าย ดุดันขนาดไหนเวลาโกรธ
“ฉันก็นั่งรถมาน่ะสิ ถามโง่ๆ”
คำตอบของพี่ชายทำให้เพียงแพรลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ปกติภวัตจะบอกก่อนล่วงหน้าให้เธอได้เตรียมตัวว่าเขาจะเดินทางจากปักษ์ใต้มาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ แต่คราวนี้เขามาแบบไม่ให้เธอตั้งตัวจริงๆ
“กลับ!”
เสียงดุดันพูดอย่างไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน
เพียงแพรแม้จะดูไม่เกรงกลัวใคร เป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟันขนาดไหน แต่พอเจอพี่ชายเอาจริงเข้าก็หงอ เธอไม่ได้กลัวแต่เกรงใจ ปัจจุบันภวัตเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ครอบครัว แถมเงินที่เธอใช้อยู่ทุกบาททุกสตางค์ก็เป็นเงินของพี่ชายแทบทั้งสิ้น
“ใครน่ะแพร”
วรวุฒิเข้ามาสอบถามเพื่อนสาวที่มาเที่ยวด้วยกัน ทำท่าทีปกป้องอย่างไม่คิดเกรงกลัว
ภวัตตวัดสายตาคมดุมองหนุ่มหล่อสำอางที่ยืนประกบใกล้ๆ กับน้องสาวคนรอง วรวุฒิได้สบตาคมกริบนั้นก็เริ่มกลัว แต่ยังใจกล้าเพื่ออยากแสดงให้เพียงแพรเห็นว่าสามารถปกป้องเธอได้
“พี่ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ ถ้าเมาแล้วก็กลับบ้านไปซะ”
น้ำเสียงของไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทำให้ภวัตมองตอบดั่งเพชฌฆาต วรวุฒิถึงกับขาสั่น แต่เพราะกำลังตามจีบเพียงแพรอยู่ อีกอย่างคืนนี้ก็กะว่าจะเผด็จศึกหญิงสาวให้ได้ จึงยังปักหลักดึงดันไม่ไปไหน
“โก้ เอ่อ... นายกลับไปสนุกกับคนอื่นๆ เถอะ”
เพียงแพรหันไปบอกชายหนุ่มข้างๆ ถ้าพี่ชายเธอโกรธ วรวุฒิไม่เหลือซากแน่
“ทำไมต้องกลัวด้วย เขาเป็นอะไรกับแพร บอกโก้มาเดี๋ยวนี้ เขาบังคับแพรใช่ไหม โก้ไม่กลัวหรอก โก้จะปกป้องแพรเอง”
วรวุฒิยังแสดงความเป็นลูกผู้ชายพูดอย่างแสนดีเพื่อเรียกคะแนนจากหญิงสาว
ภวัตไม่อยากฟังใครพล่ามอีก เขาลากมือน้องสาวออกจากผับอย่างไม่คิดสนใจ เพราะไม่เช่นนั้นอาจสายเกินไป
“เดี๋ยว ปล่อยเพียงแพรเดี๋ยวนี้ ไม่ว่านายจะเป็นใคร โอ๊ย!!!”
วรวุฒิพูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนหมัดหนักๆ ของภวัตเข้าให้
“แล้วมึงเป็นใคร มาตามตอแยน้องสาวกูทำไม ไอ้หน้าอ่อน”
ภวัตกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายขึ้นมา วรวุฒิถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“พะ... พี่เป็นพี่ชายของแพรเหรอ”
วรวุฒิละล่ำละลักถามเสียงสั่น ดวงตาดุดันคมกริบราวมีดโกนคู่นั้นทำให้ชายหนุ่มแทบฉี่ราด
“ไอ้หน้าอ่อนอย่างมึง แค่มองตาก็รู้ อยากจะฟันน้องสาวกูใช่ไหม?”
ภวัตผลักร่างที่เล็กกว่าออกแทนที่จะกระทืบซ้ำ ไม่อยากรังแกคนไม่มีทางสู้ วรวุฒิรู้สึกเสียหน้าอย่างหนักเมื่อโดนหยามเกียรติ เขาพยักหน้าให้ลูกน้องของบิดาที่ติดตามมาจัดการภวัต ร่างสูงของนายหัวหนุ่มโดนขวดเหล้าทุบเข้าที่ไหล่จนได้รับบาดเจ็บ
“หมาลอบกัดหรือไง”
ภวัตสบถอย่างโมโห คนที่คิดว่ามาคนเดียวกลับมีลูกน้องมาด้วย อีกทั้งยังหุ่นล่ำทั้งนั้น ลูกน้องที่ติดตามมาของภวัตจัดการถล่มคนของวรวุฒิจนน่วม