เงินเท่านั้น
“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรอง ข้าน้อยผิดไปแล้วทำให้แม่นางจูต้องเดือดร้อนฝ่าบาทโปรดลงทัณฑ์ข้าน้อยสองคนที่นำเรื่องเหลวไหลมากวนใจแต่ได้โปรดอย่าลงทัณฑ์แม่นางจู”
“พอแล้ว ไม่ต้องแล้ว แค่ยุติเรื่องราวที่ข้าไม่สู้ชอบใจเหล่านี้เสียแล้วตั้งหน้าตั้งตาช่วยเหลืองานราชสำนัก ต่อไปเอาล่ะข้าจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นหากข้าได้ยินว่า มีใครบาดหมางกันเพราะ…เฒ่าแก่เนี๊ยของหอสุริยันจันทราอีกละก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนหัวของนางตอนนี้ฟาดอยู่บนแท่นประหารแล้วรอแค่เพรชฆาตลงดาบก็เท่านั้น”
“ไปได้แล้ว”ไคเฉิงส่งเสียงเตือนขุนนางทั้งสอง หนักใจแทนหลี่หลงเซียวไม่น้อย
หอสุริยันจันทรา
“ท่านแม่ขา คืนนี้ข้าจะได้นั่งบัลลังก์หญิงงามอันดับหนึ่งถูกต้องไหมเจ้าค่ะ”
จงอันเล่อที่งดงามราวกับดอกไม้ในเหมันตฤดูที่หาดอกไม้งามได้ยากยิ่งนั่งไขว่ห้าง ร่างอรชร เพราะเคยต้องมือชายมาแล้วจึงยิ่งอวบอิ่มเข้ารูปเข้ารอย เนินถันที่ดันอาภรณ์บางเบาแม้แต่หญิงงามในหอคณิกายังอดชื่นชมไม่ได้ อกอวบปากอิ่มผ่านมือชายก็ยิ่งอวบยิ่งอิ่มท้าทายทุกสายตาหลอกล่อให้บุรุษน้อยใหญ่มาหลงใหลได้ไม่ยาก
หญิงในหอคณิกาสองคนบีบนวดอีกคนก็พัดให้อย่างเอาใจ
เงยหน้ามอง ชิงหรูพร้อมกับหยิบองุ่นเข้าปากเคี้ยวช้าๆ ริมฝีปากแดงแม้ยามงับเอาผลองุ่นยังยั่วยวนราวกับงานศิลปะ
“เจ้า วันนี้ได้รับเลือกให้นั่งกลางเวที บรรเลงเพลงผีผา อวดความงามของเจ้าแล้วจงจำที่ข้าสอนให้ขึ้นใจ สิ่งเดียวที่หญิงงามควรกระทำคือการชม้ายชายตาอย่างไรให้เหมือนกับไม่ได้ชม้ายชายตาทว่าบุรุษหนุ่มน้อยใหญ่จะต้องแทบใจละลายกับสายตาของเจ้าที่ค่อยๆ ช้อนขึ้นมองพวกเขาช้าๆ แต่อย่าเพ่งไปยังบุคลใดบุคลหนึ่งหากแต่เหมือนกวาดสายตาส่งสายตาให้กับทุกบุรุษ อย่างยั่วยวน”
“ขอบคุณท่านแม่” ชิงหรูย่อกายลงราวกับจูอันเล่อที่อายุอานามห่างจากนางไม่กี่ปีเป็นฮองเฮาของที่นั่นก็ไม่ปาน
“เจียวเจียวเงินในถุงเอาไปแบ่งกัน เมื่อวานใต้เท้ากวงมอบเงินให้ข้าเสียมากมายเพียงแค่ข้ายอมนั่งดื่มสุรากับเขาคืนนี้เพียงหนึ่งไห”
อันเล่อยิ้มหยันใต้เท้ากวงบิดากวงซีหยิน หญิงที่กระชากหัวใจของอันเล่อเมื่อสามเดือนก่อนให้หลุดลอยไปบัดนี้ต้องมายอมจ่ายมากมายเพื่อตัญหาเพียงอย่างเดียว
“ขอบคุณท่านแม่ท่านใจดีกับพวกเราที่สุด ว่าแต่พี่สาวของท่านไม่เมื่อวานนางมาที่นี่มารับเอาหีบทองไปแล้วเจ้าค่ะ”
“ช่างนางให้บ้างแจกบ้างข้าก็มีเงินทองล้นมือในเมื่อนางบอกว่าท่านพ่อไม่สบายถึงข้าจะถูกขับออกจากตระกูลแต่ก็นั่นแหละเงินข้ามีมากมายอยากได้เท่าไหร่ก็แค่ขอเพิ่ม ก็ควรจะแบ่งพวกเขาเสียบ้าง อย่างน้อยเขาก็ให้ข้าเกิดมา”
“ท่านแม่ใจดีที่สุด พวกข้าน้อยลืมตาอ้าปากได้เพราะท่านที่ทำให้ หอสุริยันจันทราโด่งดัง ก่อนหน้านั้นซบเซาจนต้องนั่งตบยุง ท่านแม่ข้าอยากจะเป็นเหมือนท่านบ้าง”
“ข้าใช้อดีตเป็นดั่งบทเรียน พวกเจ้าไม่เป็นเหมือนข้าก็ดีแล้วเอาเงินไปแบ่งกันแล้วก็จำคำสั่งสอนของข้าให้ดีแล้วพวกเจ้าจะสบาย”
“ท่านแม่ข้ายังไม่เข้าใจว่าท่านแม่เหตุใดจึงเป็นที่หมายปองของบุรุษทั้งหลาย”
ชิงเจียวหรือเจียวเจียวถามขึ้นดังเป็นตัวแทนเหล่านางคณิกาทั้งหลาย
อันเล่อยิ้ม
“ความยากอย่างไรเล่าข้าเคยสอนพวกเจ้าหลายครั้งแล้วเป็นหญิงคณิกาใช่จะต้องเอาใจบุรุษเพียงเท่านั้นหากเจ้าเอาใจพวกเขามากไปก็ช่างง่ายดายยิ่งนัก พวกเขาก็จะไม่เห็นคุณค่าของพวกเจ้าไม่เห็นความยากในการที่จะได้พวกเจ้าไปครอบครอง”
“ท่านแม่เจ้าขาเช่นนั้นก็ต้องเล่นตัวใช่ไหมเจ้าค่ะ”
“หาใช่การเล่นตัวหากแต่ว่าทำให้เหล่าบุรุษรู้ว่าตัวเจ้า ...ก็ยากอยู่นะแต่สิ่งตอบแทนมันน้อยไปหากให้เยอะกว่านี้อาจจะง่ายขึ้น เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเป็นคำพูดก็เท่านั้น”
“ท่านแม่ช่างหลักแหลม”อันเล่อหยิบถุงเงินวางตรงหน้าอีกถุง
“เอาไปซื้ออาภรณ์สวยๆ ใส่กัน”
“ขอบคุณท่านแม่ท่านแม่ใจดีที่สุด”เหล่านางงามทั้งหลายต่างยิ้มกว้างสดใส อันเล่อถอนหายใจยาว
รอยยิ้มสดใสในวัยสาวของพวกนางช่างสดใสเสียจริงเด็กกำพร้าจากที่พ่อแม่ขายมากับเด็กเร่ร่อนไร้ที่ซุกหัวนอนเช่นเดียวกับอันเล่อในตอนนั้น รอยยิ้มของพวกนางยามที่มีเงินทองจึงสดใส อันเล่อจำๆ ได้ว่าเคยมีรอยยิ้มแบบนั้นล่าสุดเมื่อไหร่กัน ไม่สิอันเล่อก็ไม่ได้แก่หงำเหงือกอะไรเสียหน่อยก็แค่ผ่านวัยสาวไปเร็วกว่าใครเพราะคิดว่าไม่ใช่เวลาที่ต้องมาคร่ำครวญอะไรควรเป็นเวลาที่หาเงินเข้ากระเป๋ายืนด้วยลำแข้งตัวเองในเมื่อบิดาตัด อันเล่อออกจากตระกูลจงเพราะท่านแม่ทัพซงหยวนอวีคนดี พาคนมาจับตัวอันเล่อถึงที่ตระกูล