ตอนที่ 6 หนีช้ำ (กุหลาบทะเลทราย)
ตอนที่ 6 หนีช้ำ
ประเทศไทย
พวงพรมองหน้าเพื่อนสาวอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นจุฑาพรเดินเข้ามาในโรงพยาบาลแต่เช้า หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนรักทันที
“ยัยจุมาตั้งแต่เมื่อไร แล้วเป็นยังไงบ้างหนุ่มอาหรับหล่อหรือเปล่าเธอ” พวงพรถามอย่างตื่นเต้น
จุฑาพรได้แต่ยิ้มให้ “หล่อสิ ฉันอยากพบอาจารย์หมอตอนนี้ท่านอยู่ไหน”
“ท่านเพิ่งมาเมื่อครู่นี้เองอยู่ในห้องนั่นแหล่ะ” เพื่อนสาวบอก
“เดี๋ยวฉันค่อยมาคุยด้วย ขอไปพบอาจารย์หมอก่อนจะเอารายงานเข้าไปส่งด้วย” หญิงสาวบอกพร้อมกับเดินหนีไปเฉยๆ พวงพรได้แต่มองตามหลังเพื่อนไปอย่างไม่เข้าใจ
พวงพรยืนรอเพื่อนสาวที่หน้าโรงพยาบาลเพราะเธอออกเวรพอดี จุฑาพรเดินเข้ามาหาเพื่อนรักและฝืนยิ้มให้ “ไปหาที่คุยกันดีกว่า ฉันหิวข้าวแล้วด้วยเมื่อคืนกินกาแฟไปแก้วเดียวเอง” พวงพรเอ่ยชวน
สองสาวจึงเดินข้ามถนนมานั่งที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล เมื่อหาที่นั่งได้เรียบร้อยแล้วพวงพรจึงถามหญิงสาวทันที
“แกคุยอะไรกับอาจารย์หมอตั้งนานหละจุ”
“เรื่องย้ายไปโรงพยาบาลต่างจังหวัด” หญิงสาวบอกเสียงเรียบ พวงพรแทบสำลักกาแฟที่ยกขึ้นจิบ
“แกว่าอะไรนะ”
“แกได้ยินไม่ผิดหรอก” หญิงสาวย้ำ
“แกจะย้ายไปทำไมให้ลำบากในเมืองแบบนี้สบายดีอยู่แล้ว”
“ฉันอยากไปช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากจริงๆ” หญิงสาวบอกเหตุผลกับเพื่อนแต่พวงพรไม่เชื่อเธอคบกับจุฑาพรมานานย่อมรู้ใจกันดี
“แกแน่ใจหรือว่าไม่อยากบอกฉัน”
“บอกเรื่องอะไร” หญิงสาวแกล้งไม่สนใจ
“แกไม่ต้องมาปิดบังฉันหรอกเราคบกันมานานแล้วนะจุทำไมเธอเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวหละ” พวงพรคาดคั้น
“ไม่มีอะไรจริงๆพร ฉันไปเห็นความทุกข์มาและอยากจะทำอะไรเพื่อจะช่วยคนที่ตกทุกข์จริงๆ ไม่มีเรื่องอะไรที่มากไปกว่านี้เลย จริงๆนะ” หญิงสาวบอกเสียงหนักแน่น พวงพรจึงไม่อยากเซ้าซี้ต่อ
“แล้วจะไปที่ไหนแล้วไปเมื่อไร”
“อาทิตย์หน้า ทางนั้นเขาต้องการพยาบาลเพิ่มพอดี”
“ไกลหรือเปล่า”
“ จ. เชียงราย”
“โอ้โฮ ไกลมากเลย ฉันคงคิดถึงแกมากเลยนะเพื่อน” พวงพรทำหน้าเศร้า จุฑาพรกุมมือเพื่อนสาวเอาไว้
“เราก็โทรคุยกันได้นี่นา แถมเวลาแกเบื่อกรุงเทพก็ขึ้นไปหาฉันก็ได้”
“แต่มันก็เหงาใจ ฉันกับแกเคยไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จู่ๆแกก็มาหนีฉันไปไกลขนาดนั้น” หญิงสาวน้ำตาคลอ
“อย่าร้องสิยัยพรเดี๋ยวคนในร้านเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันทำอะไรแก”
“บ้าสิ ยัยบ้า” พวงพรตีเพื่อนเบาๆ
“งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงเองถือว่าเลี้ยงส่งแกไปด้วยเลย” พวงพรเช็ดน้ำตาและเรียกบริกรเข้ามาสั่งอาหารเพิ่ม
“ถ้างั้นฉันกินไม่อั้นเลยก็แล้วกัน” จุฑาพรยิ้ม
“ตามสบายเลยเพื่อน”
จุฑาพรนั่งซบหน้าลงกับเข่ามองออกไปนอกหน้าต่างของห้องพัก น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หญิงสาวภาวนาขอให้ชายหนุ่มผ่านพ้นการผ่าตัดไปได้อย่างปลอดภัย
“จุขอให้คุณปลอดภัยนะคะนาธาน และก็ขอให้คุณมีความสุขกับผู้หญิงที่คุณรัก จุขอแค่เก็บคุณไว้ในใจตลอดไปก็เพียงพอแล้ว”
เธอคิดว่าถ้าได้เปลี่ยนบรรยากาศและเปลี่ยนสถานที่ทำงานอาจจะทำให้ตัวเองไม่คิดมากและไม่คิดถึงเขาอีก
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดเชียงราย จุฑาพรมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ 3 เดือนแล้วที่นี่หญิงสาวไม่มีเวลาหยุดพักเพราะมีคนไข้มากทั้งชาวเขาและชาวบ้านธรรมดา เธอทำงานอย่างสนุกจนลืมวันลืมคืน
“เหนื่อยหรือเปล่าครับคุณจุ” หมอประจำโรงพยาบาลเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แค่นี้สบายมาก” หญิงสาวบอกพร้อมกับหัวเราะ ทั้งสองไม่ทันสังเกตว่ามีใครอีกคนเดินตรงเข้ามาที่พวกเขา
“ขอโทษนะครับผมมีเรื่องจะให้คุณทั้งสองช่วย” ชายหนุ่มบอก
บดินทร์และจุฑาพรหันมาพร้อมกันแต่สีหน้าที่แสดงออกแตกต่างกัน
“มีอะไรให้ผมช่วยครับ ท่าทางคุณไม่ใช่คนไทยนะครับแต่พูดไทยชัดมาก” ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ครับ ผมมาตามหาภรรยาของผมน่ะครับเธอหนีมาที่เมืองไทยและมาอยู่ที่นี่” นาธานมองใบหน้าที่ซีดเผือดของหญิงสาวอย่างชอบใจ
“เธอชื่ออะไรครับเผื่อผมจะรู้จัก”
“เธอชื่อ..”
“คุณหมอคะไหนบอกว่าจะไปดูคนไข้ที่ห้อง 102 ไงคะ” หญิงสาวรีบพูดขัดขึ้น
“จริงสิผมลืมเลย คุณช่วยคุณผู้ชายท่านนี้ด้วยนะ” ชายหนุ่มสั่งก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้น
“คุณต้องการอะไรคะ” หญิงสาวถามออกไป เธอตกใจมากที่เขามาปรากฏตัวที่นี่เขาควรจะอยู่ที่รุวัยดามากกว่า
“ผมบอกไปแล้ว ผมมาตามหาภรรยาของผมเธอชื่อ จุฑาพร คุณรู้จักหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มอมยิ้ม
หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
“คนชื่อนี้มีตั้งมากมายในประเทศไทยและที่นี่ก็อาจมีเป็น 10 คน”
“แต่คนที่ชื่อ จุฑาพร มณีนุช มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น”
“แล้วคุณรู้จักเธอหรือเปล่า” หญิงสาวลอยหน้าถาม
“รู้จักสิครับผมมีรูปนี่ไง เพื่อนของคุณเป็นคนให้ผมมา” ชายหนุ่มยิ้มหวาน
“ยัยพร” หญิงสาวก้มหน้านิ่งไม่ทันได้เห็นว่าอีกฝ่ายก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอแล้ว
“ทำไมหนีผมมา” เขากระซิบถามที่ข้างหูขนแขนของหญิงสาวลุกชัน
“ไม่ทำไมหรอกค่ะ ก็แค่กลับมาทำงานต่อเพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีพยาบาลแล้วคุณหายดีแล้ว” หญิงสาวบอกและเดินหนีมา ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้เดินตามหญิงสาวอย่างไม่ลดละ ทั้งคนไข้และพยาบาลสาวๆต่างพากันมองชายหนุ่มอย่างเสียดาย
“คุณเป็นเมียผม”
“คุณแน่ใจนะคะ ถ้างั้นฉันขอถามคุณหน่อยเถอะที่คุณทำลงไปเพราะอะไรเพราะความเมาของคุณหรือเพราะอะไร” หญิงสาวถามออกไปแต่ในใจของเธอหวังอยู่ลึกๆว่าเขาจะบอกคำว่ารักกับเธอ
“ผมขอโทษที่ทำแบบนั้นลงไป ผมเสียใจ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนลง
“เสียใจคุณพูดได้แค่นี้หรือคะ” จุฑาพรเก็บความขมขื่นเอาไว้ในใจ
“แล้วคุณต้องการอะไรบอกมาสิคุณถึงจะยกโทษให้ผม”
“ไม่ค่ะ ดิฉันไม่ต้องการอะไรอีกแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ขอตัวนะคะ” หญิงสาวก้าวเท้าเร็วขึ้นแต่ก็ไม่วายที่เขาจะตามมาทันและยืนดักหน้าเธอเอาไว้
“ดูคุณไม่เสียใจกับสิ่งที่เสียไปเลย”
“ใช่ คุณเข้าใจถูกต้องฉันถือว่าทำบุญคุณกับฉันจะได้ไม่ต้องไปเจอกันอีกในชาติหน้า” หญิงสาวตะคอกใส่หน้าเขาพร้อมกับเชิดหน้าใส่
“คุณเลิกเดินตามฉันเสียทีสิคะ ฉันจะทำงาน” หญิงสาวหันมาบอก
“เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องคุณยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“แต่ฉันไม่มีอะไรที่ต้องคุยกับคุณ ฉันเกลียดคุณและขยะแขยงคุณยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด” หญิงสาวตะคอกใส่หน้าเขา
“ได้ ผมพูดกับคุณดีๆไม่รู้เรื่องแล้วอย่าหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกันจุฑาพร” ชายหนุ่มบอกและเดินจากไป หญิงสาวหวั่นใจกับคำขู่ของเขานัก
วันรุ่งขึ้นนาธานก็มาที่โรงพยาบาลที่หญิงสาวทำงานอีกครั้งและคราวนี้เขาก็มีสาวสวยตามมาด้วย จุฑาพรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้น
“สวัสดีครับ คุณหาภรรยาคุณเจอแล้วหรือครับ” บดินทร์เอ่ยถามเมื่อพบกับชายหนุ่มอีกครั้ง
“ครับ เจอแล้ว”
“ดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณสวยมากเลยครับ” บดินทร์กล่าวชมเพราะคิดว่าหญิงสาวที่มากับเขาคือภรรยาของเขาซึ่งชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปฏิเสธ จุฑาพรนึกหมั่นไส้ชายหนุ่มจึงเดินมาควงแขนบดินทร์บ้าง
“เที่ยงแล้วจุหิวแล้วเราไปทานข้าวกันนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้กับชายหนุ่ม บดินทร์เองก็งงมากแต่ก็ทำตามที่หญิงสาวบอก
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
นาธานยืนมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยวคนอย่างเขาถ้าต้องการอะไรก็ต้องได้ยิ่งจุฑาพรเป็นเมียของเขาด้วยแล้วเขาไม่ยอมยกให้ใครเด็ดขาด