7. น่าจะถูกสิง
สายของวันเธอก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงพูดคุยของคนเจ็บ ที่อาการดีขึ้นกว่าเมื่อคืนที่นอนไม่ได้สติแต่ก็ยังมีสะลึมสะลืออยู่ เธอลุกพับผ้าห่มก่อนจะเดินออกมาเพื่อเข้าห้องน้ำ ซึ่งมีสายตาของทั้งสามมองอยู่
“คุณนิลจะอาบน้ำด้วยก็ได้นะครับ ผมให้แม่บ้านเอาเสื้อผ้ามาให้ด้วยอยู่ในกระเป๋า”
“ก็ดีค่ะ” นิลินตอบโดยไม่ได้สนใจว่าคนเจ็บจะตื่นขึ้นมาหรือยัง เพราะคิดว่าคงเป็นสองหนุ่มที่คุยกัน
“มึงสองคนก็ออกไปสิ เมียกูจะอาบน้ำ” เสียงแหบพร่าเปล่งออกมา แต่ก็ดังพอให้นิลินได้ยินด้วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเดินมาหยุดที่ปลายเตียง ถึงได้เห็นว่าคนเจ็บกำลังมองเธออยู่ แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่าเมื่อกี๊เขาหมายถึงใคร นิ้วเรียวชี้ใส่ตัวเองทันที
“เมื่อกี๊คุณหมายถึงฉันเหรอ”
“แล้วเฮียแต่งงานกับใครล่ะ”
“นิลว่าคงต้องให้หมอมาเช็คสมองเขาด้วยนะคะ ดูท่าจะกลับตาลปัตรน่าดู” นิลินพูดจบก็ตั้งท่าจะเดินไปห้องน้ำ ก่อนจะชะงักเท้าแล้วหันกับมาพูดอีก
“อ่อ ไอ้งานแต่งที่คุณหมายถึง ฉันว่ามันไม่ใช่นะ น่าจะเรียกวิ่งราวเสียมากกว่า เพราะมันรวดเร็วมากกกก”
นิลินลากเสียงกวนอีกฝ่ายเช่นเดิม พร้อมรอยยิ้มและคิ้วเรียวที่มันขยับขึ้นลง สร้างความขบขันเอ็นดูให้กับคนมองเสียมากกว่าจนคิมหันต์ส่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“นิลินตัวจริงเสียงจริงสินะ โตเป็นสาวขนาดนี้แล้วยังแก่นเซี้ยวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แล้วมึงสองคนจะยืนมองเมียกูอีกนานไหม นิลจะอาบน้ำ”
สองหนุ่มหันหน้ามองกันด้วยความสงสัย เห็นทีเขาต้องให้นพพรเอาเจ้านายไปเช็คสมองเหมือนที่นิลินบอกแล้ว ตื่นมาก็หวงเมียยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีก
“มึงคิดเหมือนกูใช่ไหมไอ้สิน”
“เออ จู่ๆ นายทำไมถึงได้หวงคุณนิลแบบนี้บางทีก็แทนตัวเองว่าเฮียอีก นอกจากคุณแพนนายก็ไม่เคยให้ใครเรียกแบบนี้เลยนะ ทำไมถึง”
“นั่นสิ หรือว่าถูกยิงจนสมองกระทบกระเทือน”
“บ้านมึงสิไอ้สินถูกยิงจนสมองกระเทือน” กันตะส่ายหัวกับความคิดเพื่อน ก่อนจะเดินออกมานั่งหน้าห้องจนลูกน้องพากันสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถาม แต่ภายในห้องคิมหันต์ยังคงนึกถึงหยดน้ำตาที่นิลินมีให้เขา ก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้
“ขอโทษที่ฉันไม่เคยสนใจเธอเลย ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ฉันจะทำมันให้ดีแล้วกันนะ”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้น ก่อนที่เปลือกตานั้นจะปิดลงอีกครั้ง นิลินเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าอีกฝ่ายหลับ เลยเดินมาห่มผ้าให้แล้วกลับไปนั่งที่โซฟาเพื่อทำงานต่อ
การแต่งตัวของเธอวันนี้มันต่างออกไปจากทุกวัน เพราะแม่บ้านที่เตรียมเสื้อผ้ามาให้นั้น เก็บเอาแต่ชุดเดรสมาให้ทั้งหมด เธอเลยต้องใส่เดรสสีขาวพริ้วไหวน่ามอง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาจนกระทั่งสาย
คิมหันต์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีหมอเข้ามาตรวจ เขาถึงได้เห็นคนตัวเล็กที่นั่งทำรายงานอยู่ นัยน์ตาคมจ้องมองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเขาครั้งแรกอย่างเต็มตา หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน พอหมอออกไปเขาก็พูดขึ้น
“ไม่คิดว่าเมียเฮียจะสวยขนาดนี้นะ”
“เอ้า! อีตานี่สงสัยจะยังไม่หายสมองเสื่อมแหง” นิลินคิดในใจพร้อมกับยิ้มแห้งใส่
“คุณเป็นอะไรมากเปล่าเนี่ยะ หรือว่ามีวิญญาณมาสิงร่างถึงได้เพี้ยนขนาดนี้ จะบอกอะไรให้นะ ฉันจะสวยยังไงก็ไม่ใช่เมียคุณแน่ๆ ถึงเราจะจดทะเบียนกันก็เถอะ อย่าลืมคำพูดของคุณและใบหย่าของฉันในอีกสองเดือนแล้วกัน”
นิลินพูดจบก็หันมาทำรายงานต่อ ถึงมันจะไม่ได้เร่งรีบอะไรก็เถอะ แต่ทำเสร็จแล้วก็ได้พักยาวเธอคิดแบบนั้น คิมหันต์นอนมองคนตัวเล็กตาละห้อย
เพราะไม่รู้จะเถียงเธอยังไง ตอนนี้ก็เหมือนยาจะออกฤทธิ์อีกแล้ว แต่ก็ไม่กล้าที่จะเรียกให้อีกฝ่ายมาปรับเตียงให้ แต่คนที่เอาแต่ก้มหน้าใส่จอคอมกลับลุกเดินมา พร้อมกับปรับเตียงและขยับหมอนให้เขา จนกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำลอยมาจนจมูกเรียวอดที่จะสูดดมไม่ได้
“กลิ่นหอมจัง เฮียคงหลับฝันดีแน่”
“หลับไม่ตื่นเลยก็ได้นะ” นิลินพูดเสียงดังพร้อมกับยิ้มใส่ แต่ยังไม่ทันได้หันกลับ ก็ถูกมือเรียวรั้งไว้ซะก่อน
“ขอจับไว้แบบนี้ได้ไหม” นิลินมองคนที่หลับมิหลับแหล่ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ไม่นานเปลือกตาของมาเฟียหนุ่มก็ปิดลง
ไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอในเวลาต่อมา นิลินเห็นแบบนั้นจึงขยับมือออก ก่อนจะเดินกลับไปนั่งทำงานต่อ ไม่นานกันตะก็เข้ามาพร้อมเพื่อนเธอ และพ่อแม่ของคิมหันต์ที่ตามมาเช่นกัน ทั้งหมดจึงทักทายกัน ก่อนที่นิลินจะแยกตัวออกมานั่งคุยกับเพื่อน จนกระทั่งมีแขกมาอีก
“เราออกไปคุยข้างนอกเถอะ” นิลินชวนเพื่อนสองคนเมื่อเห็นว่ามีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยู่ในห้อง เพราะพ่อเธอและแม่ใหญ่มาถึงเมื่อครู่
“บอกตรงๆ นะ เห็นหน้าแม่ใหญ่แล้วฉันรับไม่ได้ ความดีที่เขาทำกับแกและแม่มันของจริงเหรอวะ ทำไมคนที่ได้ประโยชน์ถึงมีแต่พวกเขา”
ซันนี่พูดหลังจากที่เดินขึ้นมาบนดาดฟ้าโรงพยาบาล
“ช่างเถอะ เรื่องมันก็อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ ดูสิฉันแต่งกับคุณคิมหันต์เขายังไม่ยุ่งกับฉันเลย แต่งอีกรอบก็อาจจะเหมือนคราวนี้ก็ได้”
“นิล ทำไมแกไม่เอ่ยปากคัดค้านบ้าง ทำแบบนี้จะหาความสุขให้ชีวิตเจอได้ยังไง”
ฐิสาแนะนำเพื่อนที่ยอมทุกอย่างแม้มันจะเป็นความสุขทั้งชีวิตของเธอ การแต่งงานที่จะเกิดขึ้นอีกสองเดือนข้างหน้า ทันทีที่นิลินหย่า เพื่อชดใช้หนี้พนันที่พ่อเธอสร้างขึ้น ในระยะเวลาสองปีหลังมานี่ จนเธอไม่มีเงินรักษาแม่ สุดท้ายบุพการีก็จากไปจนได้
“มันจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ”
“ให้มันแน่เถอะ” ซันนี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดประชด ทั้งสามพูดคุยกันอยู่นานนับชั่วโมง ก่อนจะกลับลงไปยังห้องคนเจ็บ ซึ่งตอนนี้คิมหันต์ก็ตื่นแล้ว และกำลังมีใครบางคนที่นิลินคุ้นตานั่งอยู่ข้างกายเขา
“พี่สาวมึงกลับมาแล้ว นี่ไงก็ให้แต่งกับไอ้เสี่ยนั้นไปสิ”
“จริงด้วย แกอุตส่าห์ยอมแต่งกับคุณคิมหันต์แทนแล้ว ตานี้ก็เปลี่ยนคนบ้างก็แล้วกัน”
ซันนี่และฐิสากระซิบข้างหูนิลิน จนตัวแทบติดกัน ทำเอากันตะที่เดินตามหลังอดขำกับท่าทางของทั้งสามไม่ได้ แต่ทุกคนก็ต้องชะงักเมื่อเสียงจากคนเจ็บดังขึ้น
“นิลครับมาหาเฮียหน่อย”
“ไปสิ ผัวเรียกแล้ว” ซันนี่เอามือดันหลังเพื่อนสาว ซึ่งตอนนี้นิลินเองก็ทำหน้าไม่ถูก
เพราะทุกคนต่างก็จ้องเธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะพี่สาวต่างแม่
“หลบหน่อยครับ เมียผมมาแล้ว” คิมหันต์พูดเสียงเรียบ ทำเอานาราถึงกับหน้าเสีย ก่อนจะลุกขึ้นเอาไหล่กระทบน้องสาวที่เดินเข้ามา แล้วออกไปยืนข้างแม่ของตัวเองด้วยใบหน้างอง้ำ
“เฮียหิวน้ำ เอาน้ำให้ดื่มหน่อยครับ”
“คนก็อยู่เต็มห้องทำไมไม่บอกพวกเขาล่ะ”
“อยากกินน้ำเมีย เอ๊ย!ไม่ใช่น้ำที่เมียป้อน”
“หึ! เดี๋ยวจะป้อนให้ออกหูออกจมูกเลยเอาไหม” นิลินพูดด้วยเสียงรอดไรฟันให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่ภายนอกกลับเข้าใจว่าทั้งคู่กำลังหยอกเย้ากันตามประสา ซึ่งเป็นที่ถูกใจของรตีเป็นอย่างมากที่เห็นแบบนี้
“สองคนนี้คุยกันน่ารักกระหนุงกระหนิงเชียวนะคะ อีกไม่นานเราคงจะได้อุ้มหลานกันแล้วล่ะ”
รตีชวนสองผัวเมียมานั่งคุยกัน เธอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ต่างจากคนฟังที่ชะงักไปเมื่อได้ยินแบบนี้
“ละ หลานอะไรกันคะคุณพี่ อีกสองเดือนเด็กสองคนนี้ก็ต้องหย่ากันแล้ว เราสัญญากันแล้วนะ”
ช่อผกาพูดขึ้น เสียงติดสั่นเล็กน้อย เพราะถ้าเป็นอย่างที่อีกฝ่ายบอก แผนที่วางไว้ทั้งหมดคงพังแน่
“ในเมื่อเด็กรักกัน เราก็ควรสนับสนุนไม่ใช่เหรอครับ ผมว่าดีออกที่เราจะดองกันจริงๆ”
เกริกไกรพูดขึ้นบ้าง ทำเอาสองผัวเมียหน้าเสียไปทันที ก่อนจะแสร้งยิ้มออกมาในที่สุด และไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนี้อีก เพราะช่อผกาคงต้องรีดเอาคำตอบจากนิลินแทน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ช่วงเวลาก็ไม่เอื้ออำนวยให้เธอเลย
“คุณแม่ ทำไมก่อนนี้ถึงไม่บอกนาคะว่าคุณคิมหันต์หล่อขนาดนี้ แถมยังเป็นมาเฟียมีธุรกิจทั้งนอกและในประเทศอีก แบบนี้นาสบายไปทั้งชาติเลยนะ”
“แล้วแกอยู่ให้ฉันบอกเหรอ ติดต่อก็ไม่ได้อีกต่างหาก” ช่อผกาหันมาตำหนิลูกสาวทันที
“ก็นาไม่ชอบถูกจับคลุมถุงชนนี่คะ อีกอย่างตอนนั้นโรเจอร์ก็ยังรวยด้วย แต่ตอนนี้สิ”
เสียงบ่นดังขึ้นจากสาวสวยหุ่นดีพอๆ กับน้องสาว แต่นิลินจะตาคมกว่า เลยทำให้เธอดูน่ามองไม่แข็งกระด้างต่างจากนิสัย ที่มักแสดงออกเวลาอยู่กับคิมหันต์
“หึ! แต่อีกสองเดือนก็หย่าแล้วไม่ใช่เหรอคะ ถึงตอนนั้นนาจะเข้าไปเสียบเองก็ได้ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะทนไหว”
ช่อผกาส่ายหัวให้กับความคิดของลูกสาว ซึ่งมันต่างจากนิลินอย่างสิ้นเชิง เธอเองไม่ได้อยากบังคับให้ลูกเลี้ยงแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่อีกฝ่ายก็เจาะจงมาต้องเป็นเธอ ไม่งั้นจะไม่ยกหนี้ให้ ซึ่งมันไม่ใช่น้อยๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสามีถึงได้กลายเป็นผีพนันแบบนี้ เขาสัญญาว่าจะเลิก และพยายามทำมันอยู่
แต่มันก็สายเกินไปจนแม้กระทั่งคฤหาสน์หลังนี้ยังติดจำนองในธนาคาร ไม่รู้วันไหนจะถูกฟ้องล้มละลาย ถึงตอนนั้นคงได้อับอายจนต้องหนีออกนอกประเทศแน่ทุกวันนี้รายจ่ายทั้งหมดก็มาจากนิลินที่ช่วยเหลือจากเงินเก็บของเธอที่พอมีอยู่บ้าง