ตอนที่ : 01 มีงานให้ทำ
มหาวิทยาลัย
"ลูกพีช!"
"อ้าวเจ๊ สวัสดีดีค่ะ มาหาพีชถึงมหาวิทยาลัยเลยมีอะไรหรือเปล่าคะ?" ฉันหันกลับไปทักทายเจ๊อร แกเป็นผู้จัดการไนท์คลับแห่งนึงที่ฉันเคยไปรับจ๊อบทำงานอยู่บ่อยๆ หลังจากที่เลิกเรียน
แต่ไม่ได้ทำเป็นงานประจำเพราะฉันต้องเรียนและเวลาเรียนของฉันก็ไม่เหมือนกันด้วย
"เจ๊มีงานมาให้ลูกพีชทำสนใจมั้ย"
"งานอะไรเหรอคะ?"
"ง่ายๆ เป็นงานที่เราน่าจะชอบด้วยแหละ"
"???"
"คือเจ้านายของเจ๊ที่เป็นเจ้าของไนท์คลับ แกหาคนเลี้ยงเด็กอยู่พอดีเลย"
"ทำไมเจ๊ถึงคิดว่าพีชทำได้ล่ะคะ" ฉันชอบเด็กก็จริงนะแต่ฉันไม่เคยเลี้ยงเด็กอ่อนเลยถ้าจะให้ฉันต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็กๆ ทำไมเขาถึงไม่หาคนที่มีประสบการณ์มากกว่านี้ล่ะ
"เจ๊เห็นว่าเราชอบเลี้ยงเด็ก เขาจะให้ทำเป็นงานประจำเลยไปเช้าเย็นกลับ"
"พีชคงทำไม่ได้หรอกค่ะเจ๊ เจ๊ก็เห็นว่าพีชต้องเรียน"
"ก็ตอนที่มหาวิทยาลัยปิดเทอมไง เพราะตอนเปิดเรียนลูกชายของเจ้านายเจ๊ก็ต้องไปโรงเรียนเหมือนกัน"
"อ้าว เป็นเด็กโตหรอกหรอคะ พีชนึกว่าเป็นเด็กทารก"
"เป็นเด็กโตแล้วจ้ะ อายุประมาณ 5 ขวบมั้ง"
"อ๋อ"
"ตกลงเราจะรับงานนี้ไหม ถ้าเรารับงานนี้เดี๋ยวเจ๊จะไปบอกกับเจ้านายของเจ๊เลย เงินดีนะจะบอกให้จะได้ไม่ต้องไปเร่ร่อนหางานทำที่อื่น อีกอย่างยายจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงด้วย"
"ค่ะเจ๊ พีชรับงานนี้ค่ะ" ฉันตกลงรับปากว่าจะทำงานนี้ เพราะปิดเทอมนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหางานทำที่ไหน ก็คงจะไม่พ้นทำงานที่ไนท์คลับกับเจ๊อรอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะฉันทำมาตั้งแต่เรียนอยู่ปีหนึ่งแล้วจนตอนนี้ฉันเรียนมหาวิทยาลัยปี 3
"เออพีช เจ๊ขอเตือนอะไรไว้อย่างนึงนะ เจ้านายของเจ๊แกเนี๊ยบมาก ไม่ชอบความสกปรกชอบเลี้ยงลูกให้สะอาด และอีกอย่างลูกชายของเขาก็ไม่ค่อยเข้ากับคนง่ายๆ นะ พีชต้องพยายามปรับตัวเข้าหาแกนะ แต่ที่เจ๊อยากให้เราทำงานนี้ก็เพราะว่าเป็นงานที่ไม่ได้ลำบากอะไร ละก็เห็นว่าผิดก็ชอบเด็กด้วยน่าจะเข้ากันกับลูกชายของเจ้านายเจ๊ได้ดี"
"ค่ะเจ๊อร พีชจะพยายามปรับตัวเข้าหาเขา"
เพราะทุกครั้งที่ฉันไปทำงานอยู่ที่ไนท์คลับฉันจะโดนพวกลูกค้าหื่นคอยลวนลามอยู่ตลอดเวลา และฉันก็ไม่ใช่คนยอมใครขนาดนั้นบางครั้งก็มีตอบโต้ลูกค้ากลับไปบ้าง แต่ก็ได้เจ๊อรค่อยมาเคลียร์สถานการณ์ให้ทุกครั้ง
คงจะเป็นเพราะสาเหตุนี้เจ๊อรเลยไม่อยากให้ฉันไปทำงานที่คลับ
ฉันชอบวางมวยกับลูกค้าไงล่ะ
"ถ้าไม่มีอะไรเจ๊กลับก่อนนะ แวะมาบอกเราแค่นี้แหละ"
"ค่ะเจ๊ ขับรถกลับดีๆ นะคะ"
"จ้า"
_____________________
อยู่ที่มหาวิทยาลัยฉันก็ไม่ค่อยมีเพื่อนจะเท่าไร เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครทำงานเหมือนกับฉัน เพราะมีครอบครัวคอยซัพพอร์ตคอยเลี้ยงแล้วให้พวกเธอเรียนอย่างเดียว พวกเธอก็เลยไม่ต้องทำอะไร
ตอนเช้าก็มาเรียนตกเย็นก็กลับบ้าน ตกดึกก็ออกเที่ยว ฉันก็อยากใช้ชีวิตแบบนั้นเหมือนกันนะแต่ติดที่ว่าต้นทุนชีวิตของฉันมันไม่ได้ดีขนาดนั้น
ฉันเที่ยวได้แต่ฉันไม่อยากเที่ยวเพราะถ้าฉันออกไปเที่ยวยายก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวในตอนกลางคืน ละถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาในตอนที่ฉันออกไปเที่ยวฉันก็คงจะโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
ฉันรู้นะว่าแม่ของฉันเป็นใคร ทุกวันนี้ยังเจอหน้ากันอยู่เลยเพียงแต่ฉันไม่ทักไม่คุยด้วยสักคำ ทุกครั้งที่เดินผ่านเราก็ไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าที่เดินผ่านกันไป
ยายเคยบอกกับฉันว่าแม่อายคนที่บ้านยากจน ก็เลยหนีออกจากบ้านไปโดยที่ทิ้งฉันไว้อยู่กับยายตั้งแต่เกิด ส่วนพ่อของฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะยายบอกว่าแม่ท้องฉันโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มารู้ตัวอีกทีก็ท้องโตแล้ว อยากจะเอาฉันออกแต่ยายขอเอาไว้
ฉันจะไม่โกรธเลยนะถ้าจะไม่รับผิดชอบไม่มาดูแลฉันเพราะฉันไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่กับยายที่เป็นแม่แท้ๆ ของเขาทำไมถึงยังกล้าทิ้งได้ลงคอ
ฉันไม่เคยมีความผูกพันกับแม่เลยแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่เคยเรียกเขาว่าแม่สักคำ และทั้งชีวิตนี้ก็คิดว่าจะไม่เรียกด้วย ฉันมีแค่ยายคนเดียวเท่านั้นที่เป็นทั้งพ่อและแม่เป็นทุกอย่างให้กับฉัน
ทุกวันฉันต้องเดินไปกลับระหว่างมหาวิทยาลัยกับบ้านเพื่อประหยัดเงิน ถึงมันจะช้าหน่อยแต่บ้านก็ไม่ไกลเท่าไร ฉันว่าจะเก็บเงินอีกนิดแล้วซื้อจักรยานเอาไว้ปั่นมาเรียน
"ยายจ๋า พีชกลับมาแล้ว"
"เออ..."
ความจริงยายไม่ได้ตั้งชื่อฉันว่าลูกพีชหรอก แต่ฉันดัดจริตเปลี่ยนชื่อเองต่างหากล่ะ ตอนแรกยายของฉันตั้งชื่อฉันว่า ต้นหอม แต่ชื่อนี้มันดันไปคล้องจองกับชื่อแม่ของฉัน ซึ่งฉันไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็เลยเปลี่ยนชื่อตัวเอง และยายก็ไม่ได้ว่าอะไร
"ยาย....พีชมีอะไรจะบอกด้วย"
"อะไรล่ะ?"
"คือเจ๊ที่พีชเคยไปทำงานอยู่ด้วยบ่อยๆ เขามีงานมาให้พีชทำจ้ะ"
"งานอะไรเร๊อะ?"
"คือเจ้านายของเจ๊แกหาพี่เลี้ยงไปคอยเลี้ยงลูกชายตอนที่โรงเรียนปิดเทอมจ้ะ เจ๊แกก็เลยเอางานนี้มาให้หนู เห็นบอกว่าได้เงินเดือนดีด้วย จะได้ไม่ต้องไปทำงานตอนกลางคืนดึกๆ"
"เออดีแล้ว ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างไม่ต้องโหมงานหนักจนเกินไป"
"ถูกรางวัลที่ 1 สัก 2-3 ใบ พีชถึงจะพักจ้ะยาย" ฉันแกล้งพูดเย้าเล่นกับยาย แต่ถ้าถูกจริงๆ มันก็ดีนะ ฉันจะได้ซื้อบ้านหลังใหม่ให้ยายอยู่ พายายไปกินของอร่อย
แต่ติดที่ว่าฉันไม่เคยซื้อหวยเลยสักครั้ง (ฮ่าฮ่าฮ่า)
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วไป จะได้มากินข้าวกินปลา"
"จ้ะยาย"
ฉันวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของฉัน ความจริงบ้านที่เราสองคนอยู่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่ฉันก็อยากให้ยายอยู่บ้านที่ดีกว่านี้ไง บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตากับยายที่อยู่มาด้วยกันตั้งแต่สมัยหนุ่มสาวแล้ว
ดีนะที่ครอบครัวของเราไม่ได้เป็นหนี้ใคร ฉันก็เลยหาเลี้ยงแค่ยายและหาเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็เท่านั้น
แต่เงินที่หามาได้ก็แทบจะไม่พอใช้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉันต้องพายายไปหาหมอที่โรงพยาบาลทุกเดือน รับยามาด้วย และก็มีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ต้องออกเงินเอง ยายแก่แล้วโรคคนแก่ก็เยอะเป็นธรรมดาแหละ