คนดัง
ปัจจุบัน
"น้องกุ๊ก...น้องกุน โพสต์ท่าเดิมก่อนค่ะ ท่าเมื่อกี้แม่ยังถ่ายรูปไม่ทันเลย" กั้งบอกลูกทั้งสองคนที่ยืนโพสต์ท่าคู่กันอยู่
"ไม่อาวแย้ว นางแย้วนะ กุ๊กเล่งแย้วนะ" น้องกุ๊กบอกกับแม่ ก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบตุ๊กตาของเธอขึ้นมากอดเอาไว้ พร้อมกับทำหน้างอไม่พอใจใส่แม่
"กุงก็...ก็เหนื่อยแย้ว ไม่อาวแย้ว เฮ้อ...อ" น้องกุนถอนหายใจออกมาเสียงดัง หลังจากที่เขาบอกกับแม่ไปแล้ว
"แม่ขอร้องล่ะลูก ฮ่าๆ" กั้งนั่งกับพื้นแล้วหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ หลังจากที่เธอเห็นท่าทางที่เบื่อหน่ายของลูกวัยสองขวบกว่าของเธอแล้ว เธอไม่ได้เซ้าซี้ลูกๆอีก เพราะเธอก็ถ่ายรูปของลูกสาวกับลูกชายนานแล้ว พร้อมทั้งอัดคลิปลงยูทูปด้วย เธอทำแบรนด์เสื้อเด็กลงในยูทูปขาย เป็นเสื้อทำมือและมีชื่อแบรนด์ว่า กุนกับกุ๊ก โดยที่มีเจ้าของชื่อแบรนด์เป็นนายแบบนางแบบให้ แรกๆก็มีคนถาม ว่าเธอเอาลูกที่ยังเล็กมาช่วยทำมาหากินไม่อายเหรอ เธอตอบเลยไม่อายหรอก เพราะคนที่ว่าเธอ ไม่ได้หามาให้เธอกิน แรกๆก็ทำแค่สนุกๆไม่ได้คิดถึงรายได้อะไร แต่ดันมีรายได้เข้ามา ทุกคนมีโอกาสก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ ไม่อย่างงั้นก็อดตายกันทั้งสามคนแม่ลูก และตอนนี้ลูกทั้งสองคนของเธอ ก็เป็นเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลไปแล้ว มีงานติดต่อเข้ามามากมาย แต่เธอก็ไม่รับสักงาน เพราะแค่ให้ลูกทำงานช่วยเธอ ลูกๆก็เหนื่อยพอแล้ว
"กั้ง...จะขำอะไรขนาดนั้น"
"ลุงพง...ลุงพงมาแย้ว" น้องกุนกับน้องกุ๊กวิ่งเข้าไปหาลุงพลพร้อมกันด้วยความดีใจ ที่ลุงพลมาหา
"ก็หลานๆของพี่พลน่ะสิคะ ถอนหายใจเบื่อหน่ายใส่กั้งอ่ะ ฮ่าๆ" กั้งตอบคำถามของพล ก่อนที่เธอจะหัวเราะออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ พลคือพี่ชายที่เธอนับถือ พลคือคนที่เธอมาเช่าบ้านอยู่ ตอนที่เธอหนีจากกรุงเทพมาอยู่ที่พัทยา เมื่อสามปีเกือบสี่ปีที่แล้ว พลแสดงตัวว่าชอบเธอตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะชอบใครได้ เพราะว่าตอนนั้นทั้งร่างกายและจิตใจของเธอบอบซํ้ามาก จากผู้ชายที่เธอแอบมองและแอบชอบทำร้ายเธอมา และเธอไม่สามารถหลอกใครได้ ว่าเธอบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกแล้ว
ก่อนที่เธอจะหนีมาอยู่ที่นี่ อิทธิให้คนสนิทมาส่งเธอที่บ้านเช่า ที่เธอเช่าอยู่กับใบบัวเพื่อเก็บของ และให้รับเธอกลับไปที่คอนโดด้วยเลย เธอนิ่งไม่โวยวายอะไรออกมาสักคำ ทำเหมือนกับว่า ยอมรับทุกเงื่อนไขของอิทธิอย่างไม่มีข้อแม้ แม้แต่เงินสองแสนบาทเธอก็เอามาด้วย แต่พอคนสนิทของอิทธิมาส่งเธอถึงบ้านแล้ว เธอก็บอกให้คนของอิทธิกลับไปก่อน ตอนเย็นค่อยมารับ เธอไม่มีท่าทีให้คนสนิทของอิทธิรู้ว่าเธอไม่พอใจ หรือว่าจะหนี เธอบอกแค่ว่าขอนอนพัก และขอรอใบบัวกลับมาก่อน
คนสนิทของอิทธิก็โทรไปถามเจ้านาย เจ้านายก็อนุญาตโดยที่ดูเหมือนกับว่า เขาไม่ได้ใส่ใจในตัวของเธอเลย เพราะคิดว่าเธอเห็นแก่เงิน เธอเอาเงินของอิทธิที่โยนใส่หน้าของเธอสองแสนบาทมาด้วย เพราะเธอคิดว่า ถ้าเธอจะหนี เธอต้องมีเงินก้อน และเธอคิดว่าเธอไม่ใช่นางเอกในนิยาย ที่จะเย่อหยิ่งไม่เอาเงินมา เพราะเธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บอะไรมากมาย
พอลับหลังคนสนิทของอิทธิ เธอก็รีบเก็บของที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว แล้วขึ้นรถหนีไปตายเอาดาบหน้า โดยที่เธอไม่ได้บอกใบบัวสักคำ หรือแม้แต่โทรไปลาออกจากงานก่อน รวมทั้งตัดทุกช่องทางการสื่อสารไปด้วย ไม่ว่ากับใคร
เธอคิดแต่เรื่องที่จะหนีเอาตัวรอด จนลืมเรื่องยาคุมฉุกเฉินที่เธอต้องกินกันเอาไว้ก่อน เพราะว่ามีช่วงที่อิทธิเอาออกไม่ทัน ก็เลยมีเด็กสองคนติดท้องเธอมา ให้เธอได้เลี้ยงอย่างที่เห็น และตอนนี้ลูกทั้งสองคนของเธอ คือแก้วตาดวงใจของเธอ และเป็นกำลังใจเดียว ที่ทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้จนมีวันนี้ เธอมีบ้านที่ติดชายทะเล มีรถและมีคนงานเย็บผ้าห้าคน เพราะว่างานของเธอเยอะขึ้น เธอก็เลยต้องจ้างพนักงาน และมีพี่เลี้ยงลูกของเธอด้วย
ตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง เธอเข่าแทบทรุด แต่ในเมื่อเด็กมาเกิดแล้ว เธอก็คิดหาวิธีเอาตัวรอด โดยใช้ความสามารถที่มีอยู่ เย็บเสื้อผ้าของเด็กขายทางออนไลน์ แรกๆก็ขายไม่ได้ เพราะว่าไม่มีคนรู้จัก และแพงกว่าเสื้อผ้าตามท้องตลาด เพราะว่าเป็นงานทำมือ แต่เริ่มขายดี หลังจากที่เธอโพสต์ลูกสาวกับลูกชายเป็นนายแบบนางแบบให้ โดยที่มีชื่อของเจ้าของเสื้อปักติดกับเสื้อผ้าทุกชิ้น และส่วนมากจะเป็นของเด็กแฝด ลูกค้าของเธอส่วนมาก จะเป็นพวกที่มีฐานะ ที่ต้องการให้เสื้อผ้าของลูกไม่เหมือนใคร และเป็นเด็กแฝดสะส่วนมาก กิจการของเธอไปได้ดีมากๆในโลกของออนไลน์ ทำให้เธอพอลืมตาอ้าปากได้จนถึงทุกวันนี้
"ทำไมครับ น้องกุนกับน้องกุ๊กเหนื่อยเหรอลูก หึหึ" พลลงไปนั่งยองๆแล้วถามเด็กน้อยทั้งสองคนด้วยนํ้าเสียงที่เอ็นดู
"ลุงพงขา เล่งโน่งกังค่ะ" น้องกุ๊กไม่ตอบผู้เป็นลุง แต่เธอชี้ไปที่หน้าบ้านพร้อมกับเดินนำไป โดยที่ไม่สนใจว่าผู้เป็นลุงกับแม่ จะเดินตามเธอมาไหม เพราะว่าเธออยากเล่นก่อกองทรายแล้วตอนนี้
"ปายย้วย" น้องกุนวิ่งตามน้องสาวฝาแฝดของเขาไป
"เดี๋ยวพี่ตามเด็กๆไปก่อน กั้งเก็บของแล้วค่อยตามมานะ" พลบอกกับกั้ง ก่อนที่เขาจะเดินตามเด็กๆไปที่ชายทะเล ที่เด็กๆทั้งสองคนกำลังมุ่งหน้าไปเดินเล่นกันอยู่
"ค่ะ เดี๋ยวกั้งตามไป" กั้งพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย พร้อมกับรีบเก็บของไปด้วย ตอนนี้เธอมีคนมาช่วยงานเย็บผ้าแล้ว เธอก็เลยปล่อยให้คนงานทำเอง โดยกินเงินเปอร์เซ็นต์ร้อยละสามสิบห้าบาทต่อตัว เพราะว่าเสื้อผ้าชุดหนึ่งก็พันบาทขึ้น ที่เหลือ...เธอต้องแบ่งให้กับค่าตัวนายแบบนางแบบ ค่าจักร ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต เธอไม่ได้จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายวัน แต่ให้เป็นเปอร์เซ็นต์เอา แล้วแต่ว่าใครจะขยัน แต่ถ้าคนงานทำไม่ทัน เธอถึงช่วยทำ เพราะว่าเธอต้องเอาเวลาไปหาลูกค้า ดูแลลูกและทั้งส่งของแพคของเองทั้งหมด และรายได้ของเธออีกทางหนึ่ง คือลงคลิปของลูกชายกับลูกสาวลงยูทูป ลูกทั้งสองคนของเธอมีคนกดติดตามเกือบสามล้านคนแล้วตอนนี้
"กั้ง...พี่มีเรื่องงานจะคุยด้วย" พลคุยกับกั้งด้วยนํ้าเสียงที่เป็นการเป็นงาน ในขณะที่เด็กๆนั่งก่อกองทรายกันอยู่
"เรื่องงาน...? เรื่องงานอะไรเหรอคะ อย่าบอกนะคะ ว่ามีคนติดต่อให้น้องกุนกับน้องกุ๊กไปทำงานอีกแล้ว" กั้งถามด้วยท่าทางที่ปกติ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะว่ามันมีเรื่องแบบนี้เข้ามาบ่อยครั้งแล้ว
"แต่งานนี้พี่อยากให้กั้งรับ เพื่อต่อยอดธุรกิจของกั้งนะ เขาอยากให้น้องกุนกับน้องกุ๊ก ไปเดินแบบให้ที่ห้างสรรพสินค้าของเขา โดยที่น้องกุนกับน้องกุ๊ก ใส่เสื้อผ้าแบรนด์ของกุนกับกุ๊กเลย พูดง่ายๆ คือรวมเอาแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำมารวมกัน เพื่อไปเปิดตัวที่ห้างสรรพสินค้าของเขา แล้วเขาก็จะให้แบรนด์เสื้อของกุนกับกุ๊ก วางขายในห้างสรรพสินค้าของเขาด้วย ถ้าตกลงกันได้ลงตัวแล้ว" พลมองหน้าของกั้งนิ่ง หลังจากที่เขาพูดจบแล้ว
"อือ...ก็น่าสนใจนะคะ แล้วรายละเอียดล่ะคะ มีอะไรบ้างที่..."
"ทันทีที่กั้งสนใจ เขาจะมาคุยรายละเอียดกับกั้งด้วยตัวเองเลย" พลพูดแทรกด้วยความดีใจ ก่อนที่กั้งจะพูดจบ เพราะว่างานนี้ เขาคิดว่าอนาคตของกั้งกับลูกๆจะไปได้อีกไกลเลย
"งั้นกั้งขอคุยรายละเอียดก่อนนะคะ ก่อนที่กั้งจะตัดสินใจ ขอบคุณพี่พลมากๆนะคะ ที่ช่วยเหลือกั้งกับลูกมาตลอดเลย" กั้งยิ้มให้พลด้วยความรู้สึกที่ขอบคุณจริงๆ เพราะเธอมีวันนี้ได้ พลก็มีส่วนช่วยแทบจะกับทุกเรื่องเลย หรือจะเรียกว่า คอยสนับสนุนมาโดยตลอดก็ว่าได้
...
"ดูอะไรอยู่คะแม่" อลิสถามแม่ด้วยความสงสัย เพราะว่าเธอเดินเข้าบ้านมา เธอก็เห็นแม่นั่งดูคลิปอะไรสักอย่างอยู่ และไม่ได้ดูอย่างเดียว ดูไปยิ้มไปด้วย
"แม่ดูคลิปของน้องกุ๊กกับน้องกุนอยู่ลูก เด็กอะไรก็ไม่รู้ ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด" แม่ตอบลูกสาว โดยที่เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของลูกสาวเลย
"แม้...เป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่นจริงๆนะคะแม่" อลิสแซวแม่พร้อมกับนั่งลงข้างๆแม่ของเธอ
"อ้าว...แล้วทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วล่ะ" แม่หันไปมองลูกสาวด้วยสายตาที่แปลกใจ หลังจากที่เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ เพราะว่าปกติแล้ว ลูกสาวจะกลับบ้านมืดทุกวัน
"อลิสมีคุยงานกับลูกค้าไม่ไกลจากบ้านเราค่ะ อลิสก็เลยกลับบ้านเลย นานๆจะได้กลับบ้านเร็วแบบนี้ด้วย ไหนคะแม่…เด็กน้อยที่แม่หลงรัก โตไปถึงไหนแล้ว" อลิสขอดูคลิปที่แม่กำลังสนใจดูอยู่ แม่ของเธอเป็นแฟนคลับของน้องกุ๊กกับน้องกุนตั้งแต่แบเบาะ
"น่ารักไหม พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดเลย แม่เขาเลี้ยงลูกเก่งจริงๆ เสียดายที่แม่เขาไม่เคยเปิดเผยตัวเองเลย ให้เห็นแต่ลูก" แม่บอกกับลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่เสียดาย ตามที่เจ้าตัวพูดจริงๆ
"ขนาดว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนะคะเนี่ย เลี้ยงลูกคนเดียวเก่งจริงๆเลย" อลิสพูดพร้อมกับดูคลิปไปด้วย
"พ่อของเด็กไม่รักลูกเลยเหรอ ลูกน่ารักแล้วก็เก่งขนาดนี้ แม่ไม่เข้าใจคนสมัยนี้จริงๆเลย" แม่บ่นให้ลูกสาวฟังทุกครั้ง ที่มีโอกาสได้ดูคลิปด้วยกัน
"เอ่อ...แม่อยากเจอตัวจริงของน้องๆไหมคะ" อลิสถามแม่ด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น หลังจากที่เธอนึกอะไรขึ้นมาได้
"ทำไมเหรออลิส อลิสจะพาแม่ไปหาพวกเขาเหรอ" แม่มองหน้าของลูกสาวแล้วถามด้วยความสงสัย
"ก็ไม่เชิงค่ะ ต้นเดือนหน้า ห้องเสื้อของอลิสจะมีเดินแฟชั่นเสื้อผ้าของเด็ก อลิสจะเชิญแบรนด์ชั้นนำของเสื้อผ้าเด็กมารวมตัวกัน แล้วอลิสก็จะเชิญเด็กทั้งสองคนมาเดินแบบด้วยค่ะ แล้วก็จะลองพิจารณาแบรนด์เสื้อกุนกับกุ๊ก มาลงที่ห้างสรรพสินค้าของเราด้วยค่ะ แล้วอลิสก็จะ"
"เขาจะมาเหรอลูก เพราะแม่ได้ยินมาว่าเขาไม่รับงานนอกนะลูก" แม่พูดแทรกลูกสาว ก่อนที่ลูกสาวจะพูดจบ เพราะว่าเธอติดตามมานาน เธอก็เลยรู้ทุกเรื่องของน้องกุนน้องกุ๊ก
"มีทางติดต่อได้แล้วค่ะ มีความเป็นไปได้ด้วย เพราะว่าแฟนของเลขาของอลิส เป็นเพื่อนกับคนที่รู้จักหรือรู้ใจแม่ของเด็กทั้งสองคนนี้ค่ะ ตอนนี้อลิสก็ให้เขาไปคุยให้แล้ว แล้วถ้ายังไง อลิสจะไปคุยรายละเอียดกับเขาด้วยตัวเองค่ะแม่" อลิสบอกกับแม่ด้วยนํ้าเสียงที่สดใจ เธออยากให้แม่ของเธอเจอเด็กทั้งสองคนนี้ เพราะว่าแม่ของเธอติดตามเด็กทั้งสองคนนี้มานานถึงสองปีกว่าแล้ว
"จริงเหรอ วันที่อลิสไปคุย แม่ขอไปด้วยได้ไหม แม่อยากเห็นตัวจริงของน้องกุ๊กกับน้องกุน แม่..."
"ตัวจริงอะไรกันครับ คุยอะไรกันอยู่สองคน"
"อลิสจะพาแม่ไปหาน้องกุนกับน้องกุ๊ก เด็กที่แม่เป็นแฟนคลับอยู่อ่ะอิทธิ แล้ววันนี้ทำไมเข้าบ้านได้ล่ะ" อลิสตอบพี่ชายฝาแฝดของเธอ ก่อนที่เธอจะถามด้วยความแปลกใจ ที่วันนี้พี่ชายของเธอกลับมาบ้านได้ เพราะว่าปกติแล้ว พี่ชายของเธอจะหมกตัวอยู่ที่คอนโดเป็นส่วนมาก
"แค่แวะมาแล้วก็ไป ใช่ไหมลูก ไม่เคยคิดจะมาอยู่กับคนแก่ๆอย่างแม่หรอก อยู่แต่กับสาวๆสวยๆนั่นแหละ" แม่ว่าให้ลูกชายด้วยนํ้าเสียงที่หมั่นไส้
"อะไรครับแม่ ผมก็มาแล้วนี่ไง แม่จะมาบ่นน้อยใจผมทำไมครับเนี่ย ผมคิดถึงแม่นะครับ ผมถึงมาหา" อิทธิลงไปนั่งข้างแม่คนละฝั่งกับน้องสาวฝาแฝดของเขา แล้วเอาหน้าซบลงที่ไหล่ของแม่อย่างประจบเอาใจ
"อิทธิกับอลิสอายุสามสิบแล้วนะลูก แล้วเมื่อไหร่จะมีหลานให้แม่อุ้มสักที ตอนนี้จากใครก็ได้ทั้งสองคนเลย อลิสก็เหมือนกัน เอาแต่ทำงาน แฟนก็ไม่ยอมมี ส่วนอิทธิก็ควงดารานางแบบไปวันๆ แต่ไม่เห็นจะจริงจังกับใครสักคน..."
"โถ่...แม่คะ แล้วมาลงที่อลิสได้ยังไงคะ อลิสยังสนุกกับการทำงานอยู่เลยค่ะ แม่ก็นั่งดูคลิปของน้องกุนน้องกุ๊กไปก่อนสิคะ เอ่อ...ถ้าวันไหนที่อลิสนัดไปคุยงานกับแม่ของน้องๆเมื่อไหร่ อลิสจะให้แม่ไปด้วยนะคะ" อลิสรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนที่แม่ของเธอจะบ่นเรื่องอยากได้หลานยาวอีก
"อะไรครับแม่ แม่ยังไม่เลิกเป็นแฟนคลับของเด็กสองคนนี้อีกเหรอครับ ผมได้ยินแม่คุยกับอลิสมานานแล้วนะครับ" อิทธิถามแม่ของเขา ทั้งที่เขายังเอาหน้าซบที่ไหล่ของแม่อยู่
"อิทธิไม่รู้อะไร น้องกุนกับน้องกุ๊กช่วยแม่ทำงานหาเงินตั้งแต่แบเบาะ พอโตมาหน่อย พอพูดได้ก็พูดเจื้อยแจ้วช่วยแม่ขายของ เด็กอะไรก็ไม่รู้ รู้ความจริงๆ" แม่เล่าให้ลูกชายฟังด้วยนํ้าเสียงที่ชื่นชม คนที่เธอกำลังพูดถึงอยู่
"งั้นแม่ก็ชื่นชมลูกของคนอื่นไปก่อนนะครับ เอ่อ...อลิส แล้วงานต้นเดือนหน้าล่ะ เตรียมงานไปถึงไหนแล้ว" อิทธิถามน้องสาวเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่อยากให้แม่บ่นเรื่องอยากได้หลานอีก
"ก็นี่ไงอิทธิ อลิสกำลังคุยกับแม่อยู่ ว่าจะให้น้องกุนกับน้องกุ๊กมาเดินแบบที่งานให้ พร้อมกับเอาแบรนด์เสื้อกุนกับกุ๊ก มาเปิดตัวที่ห้างของเราด้วย แบรนด์นี้ดังในโลกออนไลน์นะ สรุปก็เอาแบรนด์ดังในโลกออนโลน์มารวมตัวกันนั่นแหละ" อลิสบอกกับพี่ชายฝาแฝดของเธอ แฝดที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย จะเรียกว่าแฝดคนละฝากันเลยก็ว่าได้
"มิน่าล่ะ...แม่ดูมีความสุขจัง จะได้เห็นคนดังนี่เอง" อิทธิแซวแม่ด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเลย ทั้งสองคนนั่นแหละ" แม่มองลูกฝาแฝดทั้งคนแล้วค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้