20 | ไร้สาระNc25 (ดราม่า)
กมลเนตรเดินเข้าออกร้านนั้นร้านนี้อย่างสบายใจทั้งที่มีเงินติดตัวไม่กี่พันบาทแต่ซื้อของได้ตั้งหลายอย่างแบบไม่น่าเชื่อ แล้วมีแต่ของดีๆ บางอันชาวดอยทำเอาลงมาขาย เธอเดินไปเรื่อยๆ พลันสายตาหวานก็ไปสะดุดกับบางอย่างหน้าร้าน
วงกลมสีสันสวยงามตรงกลางลักษณะคลายใยแมงมุมประดับด้วยขนนกที่ปลิวไหวตามแรงลมดูสวยงาม หญิงสาวเดินเข้ามามองใกล้ๆ นี่ใช่ไหม Deamkatcher หรือตาข่ายดักฝันนั้นเอง
“ป้าแสงหล้าคะ ซื้อของเสร็จแล้วกลับก่อนก็ได้นะคะ มนต์จำทางกลับไร่ได้ค่ะ”หญิงสาวหันมองคนที่กำลังถือของเต็มไม้เต็มมือไม่ต่างจากเธอด้วยความเกรงใจ จึงบอกให้ป้าแสงหล้ากลับไปก่อนดูท่าว่าเธออยากเที่ยวอีกนานก็เธอมันนักช๊อปมือโปรนี่น่า
“แน่ใจนะคะว่าจะกลับเอง”จริงๆ แล้วถ้าจะให้รอก็รอได้เพราะเธอก็ไม่กล้าทิ้งกมลเนตรไว้ที่นี่อยู่แล้ว ถ้าพ่อเลี้ยงสิงห์รู้มีหวังเอาเธอตายแน่ๆ ที่ทิ้งผู้หญิงของเขาเอาไว้
“ค่ะ! อีกอย่างถ้าพี่สิงห์รู้ว่ามนต์มากับป้าแสงหล้าจะโดนดุเอาได้นะคะ”กมลเนตรอธิบายเธอไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนยิ่งชายหนุ่มผีเข้าผีออกอยู่ด้วย
“ถ้ามีอะไรโทรเบอร์ในไร่ไปเลยนะคะ พ่อเลี้ยงสิงห์เป็นคนดูแล”แม่บ้านวัยกลางยื่นนามบัตรในไร่ให้ไป นั่นเป็นเบอร์ของทางไร่และสิงห์ราชนั้นเองเธอก็รับเอาไว้กลัวว่าแสงหล้าจะไม่สบายใจ
“ค่ะ!”
ใช้เวลาเลือกซื้อของและเดินทางกลับเข้ามาในไร่โดยนั่งรถโดยสารประจำทางและต่อมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาอีก กมลเนตรไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าตนจะใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ได้สบายโดยไม่อิดออดโอดครวญสักคำ
“สบายใจจังเลย!”เมื่อเข้ามาในตัวบ้านหญิงสาววางถุงสินค้าต่างๆ ลงบนโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน ขาเรียวเสลาก้าวเดินไปยังห้องนอนของตนมือน้อยเอื้อมไปบิดประตูเปิดออกว้างควานหาสวิซเปิดไฟให้ภายในห้องให้สว่าง
“กรี๊ด! ตกใจหมด”ความสว่างในห้องทำให้เห็นชายร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงนอนชมพูจนทำให้ตกใจไม่คิดว่าสิงห์ราชจะมาที่นี่ในเวลานี้ รถก็ไม่ได้จอดอยู่แล้วมาได้ยังไง
“นึกว่าผีเสียอีก”
“ไม่ใช่ผีแต่ผัว!”เสียงเข้มของสิงห์ราชพูดขึ้นสายตาคมประดุจมัจจุราชจ้องมองร่างแน่งน้อยที่เข้ามาในห้องโดยที่ยังไม่ปิดประตู ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงสง่าย่างสุ่มเข้าหาเธออย่างช้าๆ
“ไปไหนมา!”
“อย่าเข้ามานะคะ”กมลเนตรถอยหลังกรูดร่างเล็กเตรียมหันจะหมุนตัวออกไปจากห้อง เพราะสถานการณ์ไม่ค่อยชอบมาพากลนดูจากดวงตาคู่นั้นเธอสังเกตได้เลยว่าอารมณ์ร้ายกำลังจะเข้ามาเยือน
คนตัวโตเข้าประชิดตัวโดยที่เจ้าหล่อนไม่ได้ย่างกายออกจากห้อง เธอทั้งดีดดิ้นกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ สิงห์ราชพาร่างของเขาและสาวน้อยในพันธนาการของแกร่งมาล้มตัวลงบนที่นอนขนาดใหญ่จับข้อมือเล็กกดไว้ที่ฟูก
“ฉันถามว่าไปไหนมา จะหนีไปไหน”กัดฟันถามชิดแก้มเนียนปลั่งสุดดมความหอมเข้าเต็มปอด
“ก็ออกไปคุยข้างนอกสิคะ”ใบหน้าหวานเบือนหนีเมื่อชายหนุ่มก้มหน้าลงต่ำปลายจมูกโด่งเกลี่ยแก้มเนียนใสที่ขึ้นสีแดงเรื่อ ร่างหนาที่ทาบทับอยู่บนตัวเธอในท่าที่ล่อแหลมจนน่าหวาดเสียว
“หืม! หอมจัง”สิงห์ราชหอมแก้มฟอดใหญ่จากแก้มนวลไล่ต่ำลงมายังซอกคอขาวผ่องความโหยหากลิ่นกายสาวเย้ายวน ร่างงามอวบอิ่มนั้นทำให้ความอยากรู้ในคราแรกว่าเจ้าหล่อนไปไหนมากลับเลือนหายไป
“อึ๋ย! ออกไปนะ มนต์จะไม่ทำเรื่องอย่างว่าอีกแล้ว”แรงอันน้อยนิดที่พยายามสะลัดพันธนาการแกร่งออก และผลักใบหน้าให้ออกห่างจากร่างกายเธอ
“อะไรหนักหนาวะ!”
แควก!!!
จากความเสน่หาแปรเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดเมื่อโดนขัดใจอย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อนนั้น ทำให้สิงห์ราฉีกทึ้งเสื้อยืดสีน้ำเงินที่เจ้าหล่อนใส่จนขาดวิ่น มือหนากดกมลเนตรให้อยู่ใต้อาณัติของเขาอีกครั้ง เนินอกสล้างที่โผล่พ้นบราลูกไม้สีดำยังคงมีรอยแดงจ้ำที่กำลังจะจางหาย
ทว่าปากหยักหนาก้มลงดูดขบเม้มรอยเดิมจนมันเป็นรอยขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่คนใต้ร่างดิ้นไปมาจนทำให้ความอวบใหญ่ไหวกระเพื่อมล่อหน้าล่อตา ฟันเรียงตัวสวยกัดเข้าขอบบราใช้แรงดึงขึ้นอย่างยากลำบากเมื่อขนาดของมันใหญ่เกินไป
แต่มัจจุราชร้ายก็ไม่ยอมแพ้ดึงจนมันล้นขึ้นมาจนสิ่งที่รอคอยปรากฏแก่สายตา ซาลาเปาลูกโตประดับด้วยเม็ดทับทิมสีสวยหดเกร็งอย่างรู้งาน ลิ้นร้ายปาดป่ายปลายถันอย่างตะกละตะกลามหิวโหยราวสัตว์ร้ายตะครุบเหยื่อ
“อร๊าย...อะ...อย่านะ อ๊ะ!”เสียงหวานเผลอครางออกมาเมื่อถูกเรียวลิ้นร้อนตวัดพริ้วไหวจนเธอสับสนไปหมด ทั้งที่พยายามจะห้ามตัวเองไม่ให้หลงระเริงไปกับเขาแต่กับแอ่นอกเสนอสนองสิงห์ราชอย่างถนัดปากได้ดี
“อืม..จ๊วบ!...แพร่บ!”ฝ่ามือหนาคลายการรัดกุมออกจากข้อมือเล็ก ไม่รอช้าชายหนุ่มรวบทรวงอกทั้งสองข้างให้แนบชิด ดูดกลืนอย่างเท่าเทียมไม่ให้น้อยหน้ากันแม้แต่น้อย เสียงครางหวานก็ชั่งดีต่อใจกระตุ้นต่อมหื่นได้อย่างดีเสียด้วยสิ
ความร้อนชื้นไล้ต่ำลงมาเรื่อยๆ มือข้างขวาแตะสัมผัสลากผ่านหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันเข้าหาเนินสามเหลี่ยมอวบอูมปลดกระดุมและซิบกางเกงขาสั้นออกอย่างง่ายดาย ส่วนมือข้างซ้ายที่ยังคงสร้างความซ่านสยิวให้กับทรวงอกอวบล้นไม้ล้นมือ
“อ๊ะ...เอามือออกไปนะ...อืม”กมลเนตรตีแขนล่ำเป็นพัลวันเมื่อสิงห์ราชล่วงลึกเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋ว นิ้วร้ายปาดป่ายไปตามรอยแยกถูไถขึ้นลงอย่างเน้นย้ำจนสะโพกน้อยต้องส่ายวนตามจังหวะราวใบไม้ต้องลม
“อ่า...ไม่เอา...โอ้ว! พี่สิงห์”
“หึ! ไม่เอาแล้วทำไม ซี๊ด!! แฉะจ๊ะทูนหัว”ชายหนุ่มสูดปากอย่างพอใจก่อนจะผละออกห่าง ปลดสิ่งกรีดขวางร่างอรชรงดงามออกจนเปล่าเปลือย สายตาคมกวาดมองสำรวจสรีระหญิงสาวที่สวยราวภาพประติมากรรมชิ้นเอกระดับโลก ร่างกายนี้เป็นของเขาของเขาคนเดียว
“เอามือออก!”สั่งเสียงนุ่มสุขุมเมื่อกายเปลือยตรงหน้าใช้เขียวเรียวเสลาทั้งสองข้างปกปิดซาเปาก้อนโตเอาไว้ เข่าทั้งสองข้างชันขึ้นปกปิดกลีบผกาลีช่องามให้พ้นสายตาที่โลมเลีย
ไม่รอช้าความกำหนัดที่ถูกปลุกขึ้นเมื่อไม่ได้ดั่งใจบวกกับความอึดอัดของแก่นกายที่รวดร้าวเกินกว่าจะทน สิงห์ราชสะลัดเสื้อผ้าของตนลงข้างเตียง
ร่างเล็กถูกผลิกคว่ำหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ มือหยาบจับสะโพกงามงอนให้โกงขึ้น แหวกกลีบกุหลาบงามเด่นแบอออกจากกันน้ำหวานใสไหลย้อยออกมาตามแรงปรารถนาของเจ้าหล่อน สิงห์ราชซุกหน้าลงดูดกินทุกหยาดหยด
“อ่า...อืม”เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้ายห่อเข้าหากันระรัวเร็วขบเม้มเน้นย้ำ จนร่างเล็กกระตุกเกร็งสั่นสะท้าน มือน้อยพยายามเบี่ยงเอี้ยวตัวพลิกตัวหนีใบหน้าหล่อเหลาที่คลุกเคล้าอยู่กลางกายสาวของเธอให้ออกห่างแต่คนเกเรยังคงดื้อดึงเดินหน้าต่อไม่มีหยุด
“อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากโดนกระแทกจนแหก”ขู่เสียงลอดไรฟันแลบลิ้นเลียปาดป่ายดอกไม้งามอีกครั้ง ก่อนจะจัดท่าให้คนตัวเล็กโดยการแนบใบหน้างามลงกับหมอน แผ่นหลังขาวเนียนโก่งโค้งสวยงามสะโพกลอยเด่นขาทั้งสองข้างถูกอ้าออกจากกันกว้างโดยขาแข็งแรงทั้งสองข้างของเขา
“ปล่อยมนต์นะพี่สิงห์!”ถึงแม้จะชอบในการกระทำเมื่อสักครู่สักเพียงใด แต่เธอต้องพยายามห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่มีทางให้คนกักขฬะทำตามใจอีก
“ฉันจะเอา!”มือซ้ายจับแผ่นหลังบางกดเอาไว้มือขวาสาวลำกายแกร่งให้แข็งชันเต็มที่พร้อมรบ ทั้งที่สาวน้อยใต้ร่างพยายามจะลุกขึ้นแต่ถูกจับกดเอาไว้ขาทั้งสองข้างถูกขาแข็งแรงล็อคแน่น ลำรักถูกจ่อเข้ามาในแอ่งถ้ำน้ำหวานคับแน่นก่อนจะพุ่งพรวดเข้าไปจนสุดลำกายยาว
“อ๊ะ!...เจ็บนะ”ความใหญ่โตที่เข้ามาภายในกายทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ความจุกที่ได้รับชั่งแน่นจนหายใจไม่ออกถึงแม้จะมีอะไรกันหลายครั้งแต่ร่างกายของเธอก็ไม่เคยชินสักที แถมทุกครั้งที่ได้รับไม่เคยมีคำว่าอ่อนโยนหรือรักษาทะนุถนอมเลยด้วยซ้ำ
“โอ้ว!...รัดฉิบ”ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวด้วยความทรมานช่องทางรักคับแน่นตอดรัดแก่นกายชายจนแทบขยับไม่ได้ จนเขาต้องถอดถอนออกมาและกระแทกเข้าไปใหม่ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนกายสาวคุ้นชิน จึงขยับควบจังหวะจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกับดัง
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!
“อ๊ะ...อ่า อืม”กมลเนตรพยายามกัดปากบางจิ้มลิ้มไว้แน่นไม่ให้เสียงครางหวานเล็ดลอดออกไป แต่กระนั้นก็ไม่อาจทนได้แรงเสียดสีภายในทำให้ความรู้สึกทะยานสูง ความร้อนในกายปลุกสัญชาตญาณเธอให้ลุกพรือขึ้นมา
“อ่า! เร็ว อ๊ะ...อีก”
“โอ้ว! ยั่วกันหรือไง”พ่อเลี้ยงหนุ่มกัดฟันแน่นข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้เขายังอยากสนุกไม่อยากเสร็จตอนนี้ แต่ภายในที่โอบรัดไว้แน่นจนชายหนุ่มแทบทนไม่ไหว สะโพกสอบเร่งการคับเคลื่อนทวีคูณขึ้นเป็นสองเท่า มือใหญ่จับข้อมือบางสองข้างขึ้นตรึงเอาไว้เหนือหัวจนร่างเล็กแอ่นขึ้นกระแทกเข้าใส่จนหัวสั่นหัวครอน
“อ๊ะ...อ่า โอ้ว!!”เสียงครางประสานกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นใครทั้งคู่กำลังจับจูงกันทะยานสู่จุดสูงสุดแห่งกามาอารมณ์ กายสาวกระตุกเกร็งเป็นจังหวะก่อนที่ชายหนุ่มจะปล่อยน้ำเชื้อขาวขุ่นเข้าสู่ร่างกายสาวทุกหยาดหยด
สิงห์ราชปล่อยคนตัวเล็กลงกับหมอนใบเดิมโดยที่ไม่ถอดถอนลำรักออกจากจากความนุ่มแน่น ใบหน้าหล่อซวนซบแผ่นหลังขาวเนียนด้วยความเหนื่อยล้ามือหนาโอบอุ้มอกอวบบีบฟ้อนเฟ้นเล่นจนความต้องการถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ออกไปได้แล้วเหนื่อย!!”กมลเนตรเอ่ยปากไล่ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแหบพร่า ความแข็งขึงในช่องทางรักทำให้เธอรู้ว่ามันกำลังกลับมาพร้อมรบอีกครั้ง
“กล้าไล่ผัวหรอห๊ะ!”เสียงก้องกังวานดังลั่นห้องจนคนตัวเล็กตกใจเล็กน้อย มือหนาจับร่างแน่งน้อยกลับมาเผชิญหน้าสองสายตาสบกันอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกหลากหลายแทรกซึมเข้ามาในอณูเล็กในเซลล์หัวใจที่ตายด้านทำร้ายกำแพงหนากลางกั้นจนพังทลายลง
มันคืออะไรความรู้สึกแบบนี้!
คนใต้ร่างยกแขนคล้องคอชายหนุ่มเอาไว้จ้องมองอยู่แบบนั้นอย่างพยายามล่อลวงให้เขาหลงใหล ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจเธอเชื่อไว้อย่างนั้น ศีรษะทุยสวยถูกลูบไล้แผ่วเบาอย่างเย้ายวนชวนเคลิบเคลิ้ม
ปากหยักหนาจูบเข้าที่กลีบปากระเรื่อโดยที่เจ้าหล่อนเปิดรับอย่างไม่ขัดขืน จุมพิตที่แสนอ่อนโยนโดยที่ไม่คิดว่าเขาจะได้ทำมันกับใครอีกแล้ว แต่กับกมลเนตรเพียงแวบแรกในแววตาคู่นั้นกำลังบอกว่าเธอรักเขามันจริงใช่ไหม!
“อืม! เปิดใจรับมนต์ได้ไหมคะ”น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถามชายหนุ่ม หลังจากผละออกจากจูบแสนหวาน จ้องมองดวงตาหวานฉ่ำเมื่อครู่ของเขาที่แปรเปลี่ยนเป็นดั่งเพชฌฆาต
“โอ๊ย!!!”
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ เธอจะไม่มีวันได้มัน”ครางเรียวถูกบีบแน่นจนเจ็บ สิงห์ราชบีบกรามเล็กจนปวดร้าวไปหมดชายหนุ่มพ่นวาจาร้ายกาจสาดใส่จนน้ำตาเอ่อที่หน่วยตา ก่อนจะปล่อยมันออกอย่างแรง
“อึก!...มนต์อยากให้พี่สิงห์เริ่มต้นใหม่ พี่สิงห์ไม่รู้หรอกว่ามนต์มาด้วยเหตุผลอะไร”น้ำเสียงสะอึกสะอื้นบอกชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังลงจากเตียง ฝ่ามือบางคว้าผ้าห่มหนาห่อกายเอาไว้
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเหตุผลของเธอคืออะไร กลับไปซะฉันไม่ต้องการเธอแล้ว”สิงห์ราชหน้ามืดตามัวพูดออกไปโดยไม่คิด หยิบเสื้อผ้าที่ตกพื้นขึ้นมาใส่ก่อนจะออกจากห้องไป
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!”คนตัวเล็กหอบร่างกายบอบช้ำฝืนทนลุกขึ้นวิ่งตามสิงห์ราชออกไปหน้าห้อง ตะโกนไล่หลังจนชายหนุ่มหยุดชะงัก “ก่อนที่มนต์จะไป มนต์มีอะไรบางอย่างให้พี่สิงห์”
กมลเนตรหยิบถุงใบหนึ่งที่ดูแตกต่างจากถุงเยอะแยะที่วางมากมายอยู่บนโต๊ะอาหารขึ้นมา ยื่นให้คนตัวโตแต่เขาไม่แม้แต่หันมามองเธอจึงทำให้ต้นแขนเล็กสองข้างหนีบผ้าห่มเอาไว้ ยัดของสำคัญใส่มือหนาและเขาก็จากไปไม่มีคำพูดใดๆ
ใบหน้างามเปื้อนไปด้วยน้ำตาทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มือเล็กทั้งสองข้างปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะทน เธอเปลี่ยนใจสิงห์ไม่ได้จริงๆ
ทั้งที่เขาก็เคยบอกไปแล้วว่าจะไม่เปิดใจรับใครใหม่ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ดูไร้ค่าในสายตาคนไร้หัวใจ ตอนที่รู้ว่าชอบเขาตอนนั้นหญิงสาวอายุสิบแปดไม่แคร์โลกวิ่งเข้าไปหาสิงห์ราชโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มมีคนรักแล้ว
“Shit!!!”พ่อเลี้ยงหนุ่มสบถออกมาเมื่อเดินออกมาจากบ้านได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจก็ดังเล็ดลอดดังมาให้ได้ยินทำให้หัวใจแกร่งเจ็บจี๊ดขึ้นมาเสียดื้อๆ
เขาตัดสินใจออกมาโดยไม่ใยดีและตัดสินใจจะปล่อยเธอไปจริงๆ ดวงตามัจจุราชมองของที่เธอยัดใส่มือมาให้ เขายังไม่กล้าจะเปิดมันดูด้วยซ้ำสิงห์ราชตัดสินใจเดินจากไปพร้อมกับความคิดมากมาย
กว่าจะถึงบ้านหลังใหญ่ทำเอาขาล้าเลยทีเดียว แล้วเมื่อวานก็คงจะเป็นกมลเนตรสินะที่มาส่งเขาดูแลเช็ดตัวจนไข้ลดแล้วก็เดินกลับ ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนอย่างต้องการความผ่อนคลาย เธอดูเหมือนคนเข้มแข็งก็จริงแต่เมื่อเขาได้ใกล้เจ้าหล่อนแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด กมลเนตรอ่อนไหวต่อความรู้สึกอย่างมากเลยทีเดียว
มือหนาเปิดถุงที่เธอให้ออกกว้างพบอะไรบางอย่างที่ใส่กล่องไว้อย่างสวยงาม สิงห์ราชจึงเปิดมันดูสีสันสดใสสิ่งของที่หญิงสาวให้ ทำให้เขารู้สึกอะไรบางอย่างในใจแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรความทรงจำภาพเก่าๆ ในวันที่ฟ้าใสทิ้งเขาไปกลับมาอีกครั้ง
“ตาข่ายดักฝันงั้นหรอ”ความเชื่อของคนโบราณว่าตาข่ายดักฝันเส้นผ่าศูนย์กลางดั่งใยแมงมุมที่ดักเอาฝันร้ายออกไป กระดาษโน้ตเล็กหนึ่งใบอยู่ในกล่องนั้นทำให้เขาหยิบขึ้นมาดูโดยไม่อิดออด แต่หัวใจกับเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
‘เก็บเอาไว้นะคะมนต์ให้’
