บทที่2 ชายในฝัน
สาวที่มาตินเอ่ยถึงก็คือ เหมยเมย หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวยวัย 22 ปีนั่นเองวันนี้เธอมีเรื่องไม่สบายใจจึงชวนอิงฮวาเพื่อนสาวคนสนิทมาดื่มและเหมือนเป็นโชคดีทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่มที่หล่อตรงสเปคทุกอย่าง เธอเหมือนต้องมนต์สะกดไม่อาจละสายตาออกจากใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรของเขาได้
"หล่อจัง" เสียงชื่นชมเปล่งออกจากริมฝีปากชมพูระเรื่อพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่ผุดขึ้นประดับมุมปาก เธอลืมเรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะเพราะสายตาและจิตใจจดจ่ออยู่แต่กับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา
"ไหนบอกว่าเครียดไงทำไมยังมีอารมณ์นั่งจ้องผู้ชายอยู่ ฉันว่าถ้าแกจะจ้องขนาดนั้นแกก็ไปสิงพี่เขาเถอะ" อิงฮวาพูดแขวะด้วยความมันไส้กับท่าทางของเพื่อนสาวที่ดูสนใจผู้ชายจนออกนอกหน้าทั้งที่กำลังเครียดอยู่แท้ ๆ
"ถ้าสิงได้ก็ดีสิ" เหมยเมยที่ตอนนี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอ่ยอย่างเหม่อลอยสายตายังคงจับจ้องมาเฟียหนุ่มไม่วางตา
"เป็นเอามาก" อิงฮวาส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับท่าทางของเพื่อนสาวก่อนจะใช้นิ้วดีดหน้าผากเพื่อเรียกสติเพื่อน
"โอ๊ย! แกดีดหน้าผากฉันทำไมเนี่ย" คนโดนดีดถึงกับสะดุดโหยงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ ดวงตาคมตวัดมองค้อนเพื่อนสาวเชิงตำหนิพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าผากปอย ๆ
"ก็เรียกสติแกไง"
"ขัดความสุขจริง ๆ เลยแกนี่" หญิงสาวจีบปากจีบคอใส่เพื่อนสาวอย่างอารมณ์เสีย
"มาสนใจปัญหาของแกดีกว่า"
"เฮ้อ! พอพูดเรื่องนี้แล้วเซ็งอะป๊านะป๊าบังคับให้ฉันหมั้นกับใครก็ไม่รู้" ใบหน้าสวยขมวดเป็นปมด้วยความเซ็งเมื่อนึกถึงเรื่องหมั้นที่ผู้เป็นพ่อบังคับเธอ
"แกก็บอกป๊าไปสิว่ามีแฟนแล้ว"
"ฉันบอกไปแล้ว..แล้วรู้ไหมป๊าตอบกลับมายังไง"
"ยังไง"
"มีได้ก็เลิกได้"
"สุดยอดเลยป๊าแก" อิงฮวาถึงกับยกนิ้วโป้งให้เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนสาวเธอไม่คิดเลยว่าคนเป็นพ่อจะเห็นเรื่องนี้สำคัญกว่าความสุขของลูกสาวตัวเอง
"อือ" หญิงสาวขานหืมในลำคอเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองยังโต๊ะของมาเฟียหนุ่มอีกครั้ง ทว่าเธอก็พบแค่ความว่างเปล่าเพราะเขาได้หายไปแล้วเธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่อุตส่าห์ได้เจอคนถูกใจแต่ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน
"ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" เธอถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนจัดแจงชุดเดรสที่ร่อนขึ้นมาจากการนั่งให้เข้าทรงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที
หลังจากเข้าไปทำธุระในห้องน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมาสูดอากาศด้านนอกผับต่อเพราะเผลอสูดควันบุหรี่เข้าไปเต็มปอดระหว่างทางที่เดินผ่านห้องน้ำผู้ชายเลยทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
"ยะ..อย่าทำอะไรผมเลย" ขณะที่กำลังยืนรับอากาศอย่างสบายใจเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคล้าย ๆ เสียงคนดังแว่วมา
เหมยเมยยืนฟังทิศทางของเสียงจนมั่นใจว่าเสียงมาจากทางด้านหลังของผับเธอจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินตามเสียงที่ได้ยิน
"ทำไมบรรยากาศมันอึ้มครึ้มแบบนี้นะ" เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ผ่านความมืดสลัวจนสายตาปะทะเข้ากับกลุ่มคนชุดดำประมาน 2-3 คนยืนล้อมผู้ชายอีกคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟอกช้ำและคราบเลือด
เธอไม่รอช้ารีบเดินไปแอบหลังกองเก้าอี้ผุพังอย่างระมัดระวังแล้วค่อย ๆ สอดส่องสายตามองผ่านช่องเก้าอี้เล็ก ๆ
"นั้นมันผู้ชายคนนั้นนิ" เธอรู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาสมทบกับกลุ่มชายชุดดำทีหลังเพราะเขาคือผู้ชายคนนั้นในมือเขายังถือปืนมาด้วย เธอแอบมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตากลมโตถึงกับเบิกตากว้างใจดวงน้อยเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอกเมื่อหนุ่มในฝันของเธอเอาปืนจ่อหน้าผากของชายที่นั่งอยู่กับพื้น
ปัง!
เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณร่างบางที่กำลังก้าวเท้าออกไปจากที่แห่งนี้เพราะทนดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไม่ไหวถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ มือเล็กยกขึ้นปิดปากเอาไว้ก่อนจะพยุงร่างกายสั่นเทาของตัวเองเดินออกมาหน้าผับ
"โหดร้าย โหดร้ายเกินไปแล้ว" เธอพาร่างอันสั่นเทาของตัวเองมานั่งหลบมุมด้านหน้าผับเสียงปืนและเสียงร้องโหยหวนของผู้ชายคนนั้นยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท เธอนั่งอยู่อย่างนั้นนานนับสิบนาทีเมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวในผับ
"หายไปไหนตั้งนานเหมย" อิงฮวาเอ่ยถามทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสาว
"เรากลับกันเถอะ" เหมยเมยหาได้สนใจคำถามของเพื่อนสาวไม่ตอนนี้เธออยากออกจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด อิงฮวามองเพื่อนสาวที่ใบหน้าซีดเผือดอย่างงงๆ "แกเป็นอะไร"
"ฉะ..ฉันเห็นคนโดนยิงตาย" เหมยเมยบอกเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ไม่เป็นไรนะ" อิงฮวารู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินที่เพื่อนสาวบอกเธอรีบลุกขึ้นไปลูบหลังเพื่อนสาวเบาๆ เชิงปลอบประโลมเพราะดูท่าเพื่อนคงตกใจและกลัวมาก
"ฮึก! ฉันเสียใจถ้าฉันเข้าไปช่วยผู้ชายคนนั้นคงไม่ตาย..ฉันมันคนเห็นแก่ตัวขี้ขลาด" ร่างบางสวมกอดเพื่อนสาวพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างกลั่นไม่อยู่ เธอรู้สึกสงสารและรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถช่วยผู้ชายคนนั้นได้
"อย่าโทษตัวเองเลยแกก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปสู้ผู้ชายได้ยังไงดีแล้วที่แกไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง"
คำปลอบประโลมของเพื่อนสาวทำให้เหมยเมยรู้สึกขึ้นมาบ้างเล็กน้อยมันก็จริงอย่างที่เพื่อนสาวพูดหากเธอผลุนผลันเข้าไปช่วยอาจจะโดนฆ่าปิดปากก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นเธอจึงยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจนแห้งก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเตรียมเดินออกไป ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเท้าเดินเสียงอิงฮวาก็ดังขึ้น "ยัยเหมยสุดหล่อของแกมา"
"นั้นไม่ใช่สุดหล่อของฉันนั้นมันปีศาจชัด ๆ" หญิงสาวรู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนสาวหมายถึงใคร เธอรีบปฏิเสธจนอิงฮวารู้สึกสงสัยไม่น้อยต้องถามไถ่ให้หายข้องใจ "แกหมายความว่าไง"
"ก็เขานั้นแหละยิงคนตาย"
"หน้าตาก็หล่อไม่น่าโหดร้ายเลย" อิงฮวายกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจเธอรู้สึกช็อคกว่าเพื่อนสาวเสียอีกไม่คิดว่าคนหน้าตาหล่อเหลาดูมีระดับจะจิตใจโหดเหี้ยม แต่ก็นั้นแหละจิตใจมนุษย์ยากเกินหยั่งถึง เหมยเมยเพียงไหวไหล่ให้เพื่อนสาวเล็กน้อยก่อนจะรีบส่าวเท้าเดินออกไปขึ้นรถ