ตอนที่ 5 สถานที่ปลอดภัย 1
พยับเมฆคิดว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ซวยสุดๆ เหตุการณ์หนึ่งในชีวิตเขา เพราะความใจร้อนของมังกรนั่นแหละสุดท้ายเลยต้องมาซวยกันไปหมดอย่างนี้ พยับเมฆกุมขมับสลับกับลูบหน้าตนเองอย่างเครียดๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสเย็นเฉียบที่แนบลงมาข้างแก้ม
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นฑีฆชาติที่เพิ่งเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ กำลังเอากระป๋องเบียร์แนบแก้มเขาอยู่ ใช่แล้ว ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งอย่างคนจนตรอกไร้ที่ไป การหลบหนีคนของอาเธอร์เป็นไปอย่างน่าหวาดเสียว พยับเมฆโดนอีกฝ่ายจับมือวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต พอเจอแท็กซี่ก็เรียกให้ขับออกมาไกลๆ และจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งนี้
ฑีฆชาติแน่ใจว่าลูกน้องของอาเธอร์จะไม่ตามมาตอนนี้เลยวางใจให้นั่งอยู่ที่นี่ก่อน จนกว่าจะรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป แต่ที่แน่ๆ พวกเขาไม่สามารถไปที่บ้านของฑีฆชาติได้เพราะพวกนั้นต้องตามไปหาแน่นอน และที่แน่ไปกว่านั้นคือพยับเมฆคงจะกลับไปที่บ้านของอาเธอร์ไม่ได้อีกแล้ว
ภารกิจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่นี้
“คิดว่าพวกนั้นจะตามมาไหม” พยับเมฆถาม บริเวณนี้ค่อนข้างอยู่ใกล้กับชานเมือง ตอนแท็กซี่ขับมาส่งยังบ่นอยู่เลยว่าไกล มังกรเลยต้องให้ค่าเสียเวลาไปอีกห้าร้อยบาท ตอนนี้ไม่มีใครมีเงินสดติดตัวมาเลย โทรศัพท์มือถือก็ไม่มี เงินที่ติดตัวอยู่ตอนนี้ก็มีเพียงแค่ไม่กี่ร้อย
จะบอกว่าโมโหก็น่าโมโหอยู่หรอก เพราะมังกรดันบ้าจี้เรื่องที่เขาส่งรูปไปอ้อนเลยบุกมาอาละวาดถึงที่ของอาเธอร์ นี่ยังรอดมาได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
“ไม่รู้” อีกฝ่ายตอบพลางกระดกเบียร์ในกระป๋องและพูดต่อ
“แต่ถ้ายังนั่งอยู่ตรงนี้ ไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะตามมาเจอ”
“ถ้าอาเธอร์เจอตัวคุณ เขาไม่ปล่อยคุณไว้แน่” พยับเมฆพูดและจิบเบียร์ของตนเองบ้าง เขาทำงานกับ
อาเธอร์มาสักพักจนรู้นิสัย รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นพวกกัดไม่ปล่อย ยิ่งกับคนที่ทรยศหักหลังด้วยแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่อาเธอร์จะปล่อยให้รอดมือไปได้
ฑีฆชาติจิบเบียร์ไปพลางใช้ความคิด ดวงตาคู่คมมองหน้าของคนข้างกาย เขาตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็จะไม่ปล่อยให้พยับเมฆกลับไปที่นั่นอีก
“นายเองก็ไม่ต้องกลับไปที่นั่นเหมือนกัน มันคงจะเก็บนายไว้หรอก”
“ต่อให้คุณไม่บอกผมก็ไม่คิดจะกลับไปอยู่แล้ว” ร่างโปร่งบางถอนหายใจ รู้สึกผิดหวังกับตนเองนิดหน่อยที่ทำหน้าที่ได้ไม่สำเร็จ
“ผมพลาดเอง สุดท้ายเลยโดนจับได้ ที่ทำไปทั้งหมดก็คงสูญเปล่า” พยับเมฆหงุดหงิดตนเองสุดๆ เลยตอนนี้ เขาอุตส่าห์ทำตัวเป็นลูกน้องที่ดีของอาเธอร์มาโดยตลอด ไม่เคยทำให้อีกฝ่ายเคลือบแคลงใจเลย อาเธอร์เชื่อสนิทใจด้วยซ้ำว่าเขากับมังกรเกลียดกันเข้ากระดูกดำ
แต่สุดท้ายต่อให้ระวังมากแค่ไหนก็พลาดจนได้ ภารกิจสุดท้ายยังไม่สำเร็จเลย เรื่องที่ว่ายาเสพติดที่อาเธอร์กำลังผลิตมีคำสั่งมาจากใคร
“ช่างแม่งเถอะ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยก็ได้ข้อมูลมาตั้งหลายอย่าง” ชายหนุ่มข้างกายของพยับเมฆพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ดูราวกับว่าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ถึงแม้ว่าจะทำหน้าเครียดจนคิ้วขมวดกันเป็นปมก็ตาม
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อ อย่างน้อยก็คืนนี้เราจะนอนที่ไหน” พยับเมฆถาม จะให้นั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อไปตลอดก็คงไม่ได้ หากลูกน้องของอาเธอร์ตามมาทันคงได้ตายกันหมดนี่
ฑีฆชาติหมุนวนปลายนิ้วกับขอบกระป๋องเบียร์ นิ่งคิดไปสักครู่อย่างชั่งใจ แต่สุดท้ายก็คิดว่ามันคงจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว จึงตอบออกไป
“บ้านของแม่ผม”
***
ตั้งแต่รู้จักกันมาพยับเมฆไม่เคยรู้มาก่อนว่าฑีฆชาติมีบ้านหลังเล็กๆ ที่เป็นสมบัติตกทอดจากแม่อยู่ที่จังหวัดแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก สุดท้ายก็ต้องใช้เงินที่มีติดตัวมาเพื่อจ้างรถรับจ้างให้พามาส่งที่นี่ แต่รถก็ส่งได้แค่ที่ถนนใหญ่ ส่วนบ้านหลังนี้ต้องเดินเท้าขึ้นมาบนภูเขาอีก
พยับเมฆไม่ชอบเดินเท่าไหร่นัก แต่จะทำยังไงได้ ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฑีฆชาติยืนยันว่ายังไงที่นี่ก็ปลอดภัยแน่ๆ
“หลังนี้เหรอ?” พยับเมฆมองบ้านไม้ชั้นเดียวตรงหน้า เป็นบ้านที่สร้างจากไม้ทั้งหลังตั้งอยู่กลางป่าราวกับว่าอยากจะหลบหลีกจากผู้คน บริเวณนี้ไม่มีไฟเลยมองเห็นบ้านได้รางๆ เพราะแสงของพระจันทร์ที่ส่องลงมา
“อืม เป็นบ้านที่พ่อสร้างให้แม่ เพื่อที่แม่จะได้อยู่อย่างปลอดภัย” ฑีฆชาติตอบและเดินไปที่หน้าประตูบ้าน ยกกระถางต้นไม้ดินเผาเก่าๆ ขึ้นและหยิบเอากุญแจที่วางอยู่ข้างใต้ออกมา พยับเมฆยืนอยู่ข้างหลังของอีกฝ่าย รอจนเจ้าของบ้านเปิดประตูบ้านได้จึงเดินตามเข้ามา
ภายในบ้านมืดสนิทและคลุ้งไปด้วยฝุ่น กลิ่นอับของไม้ทำให้พยับเมฆย่นจมูกเล็กน้อย เขาต้องคอยเดินใกล้ๆ กับอีกฝ่ายเอาไว้เพราะความมืดทำให้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พยับเมฆได้ยินเสียงกุกกักเหมือนหาอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นตะเกียงก็ถูกจุดขึ้น ถึงจะไม่สว่างเหมือนไฟฟ้าแต่ก็พอจะทำให้มองเห็นได้
“ฝุ่นเยอะหน่อยนะ ฉันไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว” ฑีฆชาติบอก เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อดูว่าน้ำยังใช้ได้หรือไม่ แต่ยังดีที่ใช้ได้ปกติเพราะที่นี่ไม่ได้ใช้น้ำประปา แต่ใช้เป็นน้ำบาดาลที่มีบ่อน้ำส่วนตัวอยู่ทางหลังบ้าน
“ทำไมถึงพาผมมาที่นี่” พยับเมฆถาม นั่งลงที่เก้าอี้ฝุ่นเขรอะตัวหนึ่ง พอถามออกไปอย่างนั้นอีกฝ่ายก็มองกลับมาผ่านแสงสลัวของตะเกียง
“แม่ฉันเคยบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ฉันอยากให้นายปลอดภัย มันก็แค่นั้น” ฑีฆชาติตอบง่ายๆ ก่อนจะเดินหายไปทางหลังบ้าน ทิ้งให้คนฟังนั่งหน้าร้อนผ่าวอยู่คนเดียว
ถึงจะเป็นเพียงประโยคห้วนๆ แต่มันกลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจนพยับเมฆสัมผัสได้