ข้อเสนอรักเมียตีทะเบียน บทที่1.ซวยแล้ว...
เข้าหน้าหนาวแล้วใช่ไหม อากาศรอบตัวของมิลาเลยไม่อบอ้าวเหมือนทุกวัน อุณหภูมิลดลงทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น แสงแดดอ่อนๆ ทำให้ทิวทัศน์รอบตัวเธอดูอ่อนโยนน่ามอง มันช่วยทำให้ความเครียดที่สะสมไว้ลดลงด้วย มิลาคือสาวมั่นแห่งปี วันนี้คือวันสำคัญของเธอ วันที่เธอมาถึงจุดที่ฝันไว้ วันที่รับตำแหน่งใหม่เป็น ‘ผู้จัดการฝ่ายการเงิน’ ผู้หญิงคนเดียวท่ามกลางฝูงกระทิงเพศชายนับร้อยชีวิต เธอก้าวข้ามคนเหล่านั้น จนขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ด้วยความสามารถล้วนๆ
เมื่อหลายปีก่อนมิลาเคยเป็นข่าวดังเกรียวกราวหลายเดือนเลยล่ะ กว่าข่าวแย่ๆ นั่นจะซาลง หญิงมั่นคนนี้ก็สะบักสะบอมไม่น้อย โชคดีที่บุพการีทั้งสองของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่อย่างนั้นบิดา มารดาของเธอคงปวดหัวกับวีรกรรมของบุตรสาวไม่น้อย
เธอท้องไม่มีพ่อ เพราะความเมาล้วนๆ
เป็นเพราะงานฉลองหลังกลับมาจากต่างประเทศ กับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท หากไม่มีตำหนิข้อนั้น มิลาคงเป็นดาวจรัสแสง แต่นั่นก็ไม่ทำให้สาวมั่นคนนี้หวั่นไหว ตราบใดที่เธอยังมีเวลาพิสูจน์ฝีมือ เธอได้ตำแหน่ง ‘ผู้จัดการฝ่ายการเงิน’ ในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างคอนนอร์เทรดเพราะความสามารถ ไม่มีการใช้เส้นหรือเต้าไต่เหมือนที่ถูกเพศตรงข้ามแดกดัน ผู้ชายพวกนั้นคงรู้สึกอับอายที่พ่ายแพ้ให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเธอ
ลูกสาวมิลา ชื่อด.ญ.มิลิน กำลังน่ารักน่าชัง ปีนี้มิลินเข้าโรงเรียนปีแรก มิลาเลยไม่ค่อยได้เจอหน้าบุตรสาวเท่าไหร่ โชคดีที่เพื่อนสนิทอย่างภูมิยินดีและเต็มใจที่จะดูแลบุตรสาวให้ ภูมิคือพ่ออุปถัมภ์ของมิลิน ที่สำคัญภูมิมีรสนิยมที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แม้คนส่วนใหญ่เริ่มยอมรับกับความผิดแผกนี้บ้างแล้ว แต่เพราะภูมิคือทายาทคนเดียวของ บดินทร เขาเลยยังปิดบังความลับเอาไว้ เมื่อยังต้องรักษาหน้าตาของบรรพบุรุษที่เป็นถึงข้าราชการระดับสูงมาทุกรุ่น
“ภูมิ ยัยหนูเป็นยังไงบ้าง?” เสียงห่วงใยแบบปิดไม่มิด ทันทีที่ปลายสายกดรับ
“มิลา...ยัยหนูเหมือนแกวันที่เดินทางไปอังกฤษนั่นแหละ ทำท่าจะร้องไห้แต่เชิดหน้ากลั้นไว้ ลูกเธอกับเธอนี่เหมือนกันยังกับแกะ” เสียงแหบห้าวเล่าให้ฟังผสมกับความรักที่ล้นปริ่มในน้ำเสียง
“ไม่ร้องก็ดีแล้ว ความจริงวันนี้ฉันควรเป็นคนไปส่งลูกด้วยตัวเองแท้ๆ” มิลาบ่นพึมพำ วันสำคัญของบุตรสาวแท้ๆ แต่คนเป็นแม่แบบเธอกลับไปไม่ได้
“เอาน่า เราตกลงกันแล้ว ยัยหนูเข้าใจดี วันนี้ตอนเย็นเราค่อยไปฉลองด้วยกันก็ได้” ภูมิปลอบใจ เขาอาสามาทำหน้าที่ผู้ปกครองของมิลินแทน เนื่องจากเพื่อนรักไม่สามารถปลีกตัวได้
ภูมิมองเด็กหญิงที่สวมกระโปรงลายสก็อตสีเขียวที่ยืนเชิดหน้าท่ามกลางเด็กๆ รอบตัวที่กำลังร่ำไห้ทุกคนด้วยความภูมิใจ คำครหานับตั้งแต่มิลินเกิดไม่ทำให้เด็กหญิงรู้สึกว่าตนเองมีปมด้อย ความรักจากแม่และพ่ออุปถัมภ์หล่อหลอมให้มิลินแกร่งมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน ไม่มีพ่อ ไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กคนอื่น ไม่มีพ่อไม่ได้หมายความว่าความรักของแม่จะลดลง มิลินได้รับความรักจากแม่มากเกินพอ ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกกังขา และอยากถาม แต่เด็กหญิงเลือกที่จะเก็บคำถามไว้ เพื่อให้มารดาสบายใจ
ภูมิยกหัวแม่มือให้เมื่อมิลินมองมาที่ตนเอง เขาชี้โทรศัพท์ที่กำลังคุยติดพัน เด็กหญิงยิ้มจนตาหยี เมื่อเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ
“อย่าลืมถ่ายวิดีโอไว้ให้ฉันดูด้วยนะแก ฉันต้องไปล่ะ เกือบสายแล้ว”
มิลาตัดใจวางสาย เธอห่วงหน้าพะวงหลังไม่ได้ มันทำให้เธอเสียบุคลิก จะต้องไม่มีคำครหาใดใดเกิดขึ้นอีก เรื่องเดียวที่คนพวกนั้นจะนินทาเธอได้ควรจบลงวันนี้
ทางเดินปูพรมสีเข้มขึ้น มิลาขมวดคิ้ว ชั่วข้ามคืนกับการมาของ CEO คนใหม่ คนที่นี่เตรียมต้อนรับแบบอลังการเหลือเชื่อ ห้องประชุมใหญ่ที่เคยเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วน วันนี้ก็ถูกเปลี่ยนใหม่หมด กลิ่นความใหม่ลอยอบอวลแทบทุกพื้นที่