๕ แม่เลี้ยงคนใหม่ (๑)
๕
แม่เลี้ยงคนใหม่
ตลอดเวลายี่สิบสองปีที่ผ่านร้อนหนาวมา บนเตียงกว้างมีเพียงเธอจับจองพื้นที่ทั้งหมดคนเดียว เมื่อต้องร่วมเตียงกับคนอื่นก็รู้สึกแปลก โดยเฉพาะชายที่ชื่อว่าเป็นสามี จะพลิกตัวก็ไม่กล้าจนต้องนอนนิ่ง สะดุ้งตื่นหลายครั้งกลายเป็นนอนไม่หลับ เช้ามาจึงมีอาการสะลึมสะลือ
หล่อนอาบน้ำแต่งตัวเสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนพ่อเลี้ยงก้องนเรนทร์ที่นอนหลับสบายอุรา เขาคงเหนื่อยจากงานแต่งถึงได้หลับลึกไม่รู้เลยว่าภรรยาที่นอนข้างกันกังวลจนนอนไม่หลับ
แม่เลี้ยงคนใหม่ของไร่ทวีสุขเดินลงมาชั้นล่างก็ได้กลิ่นหอมของอาหารเช้า มุมปากสวยได้รูปยกขึ้นบ่งบอกถึงอาการดีใจ
มองโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่า กำลังจะเดินเข้าครัวแต่ก็ต้องชะงักเมื่อป้านิ่มโผล่มาพร้อมกับจานขนมปังปิ้งที่จัดการทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ของโปรดลิลิต เพียงแค่เห็นแววตากลมก็เป็นประกายทันที เมื่อท่านวางจานลงบนโต๊ะก็หยิบกินอย่างรวดเร็ว
“เป็นยังไงบ้างคะ” คำถามแรกพร้อมรอยยิ้มแฝงแววเจ้าเล่ห์ แต่ร่างบางก็ซื่อเกินกว่าจะรู้ความนัยถึงได้ถามกลับ
“อะไรเหรอคะ” คนสูงวัยที่คิดว่าจะมีนายน้อยให้อุ้มในอีกไม่ช้ากลับต้องคิดใหม่ ท่าทีของแม่เลี้ยงปกติทุกอย่างทั้งยังแข็งแรงยิ่งกว่าวันงานซะอีก สงสัยเมื่อคืนคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พ่อเลี้ยงนะพ่อเลี้ยง...ปล่อยโอกาสให้หลุดมือซะได้
แต่ไม่เป็นไรหรอก แต่งงานกันแล้วอีกไม่นานก็คงมีโซ่ทองคล้องใจ ไร่ทวีสุขได้มีเสียงร้องไห้ของเด็กแรกเกิดสักที
“เมื่อคืนหลับสบายดีหรือเปล่า” รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เห็นหน้าตาของหล่อนสดชื่นคิดว่าคงนอนหลับสนิท ไม่รู้เลยว่าลิลิตใช้เวลานานแค่ไหนในการแต่งหน้าเพื่อกลบรอยคล้ำจากการอดนอนที่อยู่บริเวณใต้ตา
“สบายค่ะ” เธอปิดบังอาการได้อย่างดีเยี่ยม คิดไว้ว่าช่วงเที่ยงคงต้องมาของีบที่บ้านสักชั่วโมง
“หลับสบายแล้วทำไมตื่นเช้านักล่ะคะ น่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยนะ ผ่านค่ำคืนแสนหวานต้องตักตวงให้มากกว่านี้หน่อยสิคะ” หล่อนหยิบขนมปังแผ่นที่สองขึ้นมากัดแล้วเคี้ยวละเอียดระหว่างที่ป้านิ่มกำลังชวนคุย
เกือบสำลักกับคำว่าค่ำคืนแสนหวานที่อีกฝ่ายใช้ เพราะสำหรับเธอแล้วมันไม่ใกล้เคียงสักนิด ถ้าไม่นับรวมท่าทีของพ่อเลี้ยงที่อยากรวบหัวรวบหางหล่อน แต่ก็ล่าถอยเมื่อรู้ว่าติดไฟแดง...
“ไม่ดีกว่าค่ะ ลิชอบตื่นเช้า” ป้านิ่มถึงกับหลุดหัวเราะกับประโยคนั้น เพราะท่านรู้ดีว่าลิลิตตื่นสายเป็นประจำ สงสัยคงยังไม่ชินกับการมีชายอีกคนในห้องนอนหรือรู้สึกแปลกที่
ท่านทราบดีว่าการแต่งงานเกิดขึ้นเพราะพินัยกรรมไม่ใช่ความรัก ได้แต่หวังว่าสิ่งที่พ่อเลี้ยงอนวัทธ์ทำจะส่งผลดีแก่ชายหญิงทั้งสอง อีกไม่นานพวกเขาคงรักกันและสร้างครอบครัวที่มั่นคง
อาหารทยอยยกมาเสิร์ฟ ลิลิตจึงนั่งประจำที่แล้วเริ่มลงมือรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รอสามีที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบน อาจเพราะเมื่อวานเหนื่อยมากจึงนอนหลับสบายเป็นพิเศษ ตื่นมาอีกทีคนข้างกายที่นอนอยู่ด้วยกันก็อันตรธานหายไปแล้ว
“เช้านี้มีอะไรกินบ้างครับ” ลิลิตที่กำลังหั่นไข่ดาวต้องชะงักมือ เหลือบมองหัวโต๊ะซึ่งมีคนจับจอง
รีบหลุบตามองจานอาหารของตน รับประทานอาหารโดยพยายามทำเป็นไร้ตัวตน ยังไม่คุ้นชินกับการเจอหน้ากันตลอดเวลา ปกติหล่อนจะเลี่ยงเขามาโดยตลอด แต่ตอนนี้คงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะ
สถานะของเรากำลังบีบบังคับ...
“จัดเป็นเบรกฟาสต์ค่ะ พิเศษไข่ต้มห้าฟองตามที่พ่อเลี้ยงขอไว้ตั้งแต่เมื่อวาน อยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ” อาหารมาเสิร์ฟตรงหน้าพ่อเลี้ยง แต่ที่ทำให้เธออึ้งคือเขากินไข่ห้าฟองต่างหากล่ะ ทำเอาลิลิตแทบสำลักเพราะรู้ความหมายนั้นดี
เขาจะขุนให้เจ้าสมุนนับล้านตัวแข็งแรงเพื่อเผด็จศึกหล่อนในสักวันน่ะสิ!
“ไม่ครับ เท่านี้พอแล้ว” พยักหน้าแล้วหยิบไข่ต้มมาปอกเปลือก กินเข้าไปในคราวเดียวแล้วเคี้ยวจนหมด จากนั้นจึงช้อนตามามองคนที่นั่งเยื้องกัน หล่อนรีบหลบสาวตาคมทันทีแล้วกินอาหารในจานของตนเอง
พยายามไม่แสดงอาการหรือความรู้สึกออกไป หล่อนเงียบอย่างผิดสังเกตจนก้องนเรนทร์ต้องเป็นคนชวนคุยซะเอง
“ทำไมเธอตื่นเช้านักล่ะ ปกติเห็นตื่นเกือบเที่ยงไม่ใช่เหรอ” แต่เหมือนคำถามจะไปกวนอารมณ์ให้ขุ่น หล่อนจึงวางส้อมกับมีดลงบนจานพลางเอ่ยค้านเสียงแข็ง
“ลิตื่นเช้าเป็นประจำ!” แก้ตัวแต่เหมือนยิ่งเข้าตัว เขาเหลือบมองพลางอมยิ้มจนหล่อนไม่ชอบใจ ราวกับพ่อเลี้ยงกำลังกล่าวโทษว่าตนเป็นเด็กเลี้ยงแกะช่างโกหก จึงต้องรีบเปลี่ยนให้ใหล้ความจริงมากที่สุด
“เอ่อ อาจจะมีบางวันที่ตื่นสายแต่ก็ไม่บ่อย อีกอย่างวันนี้เป็นวันทำงานต้องตื่นให้ทันสิคะ เดี๋ยวนายจ้างจะว่าเอาได้” เริ่มลงมือรับประทานอาหารอีกครั้ง พร้อมว่าเหน็บแหนมร่างสูงจนเขาต้องรีบย้ำสถานะของหล่อนอีกครั้ง เล่นเอาคนฟังถึงกับร้อนผ่าวที่ใบหน้าด้วยความเขินอาย
“ใครนายจ้าง ลืมหรือไงว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงของไร่แล้ว จะมีใครกล้าว่าเธอล่ะ”
นั่นสินะ...ตอนนี้หล่อนไม่ใช่นางสาวลิลิตผู้โสดสนิทมาตลอดยี่สิบสองปี
แต่เป็นถึงแม่เลี้ยงของไร่ทวีสุข คงต้องใช้เวลาปรับตัวกันอีกสักหน่อยถึงจะคุ้นชิน
“พ่อเลี้ยงคะ...มีแขกมาขอพบค่ะ” มื้ออาหารที่แสนสุข ตลบอบอวลไปด้วยความรักกลับมีแขกคนสำคัญมาหาแต่เช้า ร่างสูงถึงกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย ตนจำได้ว่าไม่ได้นัดใครไว้ทั้งยังดูตารางงานอย่างถี่ถ้วน
คราวแรกคิดจะเข้าหอกับลิลิตทั้งคืนเพื่อผลิตทายาทโดยไว แต่ติดขัดที่หล่อนมีประจำเดือน คงต้องเลื่อนการร่วมรักออกไปอีกสักพัก หลังจากนั้นจะได้ทำตามความต้องการของบิดา และเรื่องพินัยกรรมคงจบลงสักที
“ใคร” สีหน้าเปลี่ยนจนแม่บ้านยังนึกเกรง พ่อเลี้ยงก้องนเรนทร์ต่างจากคนเป็นบิดาอย่างเห็นได้ชัด นอกจากใบหน้าที่คล้ายคลึง นิสัยก็ต่างกัน
คนพ่อดูอ่อนโยนใจดี ส่วนลูกชายขึงขังแน่วแน่ แต่ก็นำพาไร่ทวีสุขให้เดินหน้าในยามคับขันได้
“คุณมิรันดาค่ะ” เพียงได้ยินชื่อก็ไม่อยากอาหาร
ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหล่อนยังไปมาหาสู่ทั้งที่ไม่เจอหน้ากันหลายปี พูดจาตัดรอนเขาขนาดนั้นยังคิดว่าจะสามารถกลับไปเป็นอย่างเดิมได้อีกเหรอ ชายหนุ่มพรูลมหายใจเสียงหนักกลายเป็นไม่อยากอาหารแต่ก็ยังฝืนทาน
ลิลิตสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในแววตาคม เธอหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มแล้วลุ้นว่าเขาจะตอบอย่างไร
ยอมให้เข้าพบหรือเปล่า...