บทที่ 4 คลุมถุงชน 1.1
สามวันต่อมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
บัณฑิตายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าผู้โดยสารขาออก หล่อนเตรียมตัวเดินทางไปอังกฤษตามแผนของชเนตตี การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้จึงมีเจ้าของแผนกับสามีเดินทางมาส่ง
“เงินถ้าไม่พอก็บอกพี่นะ พี่จะโอนไปให้” ไอศูรย์สามีสุดหล่อของชเนตตีที่ช่วยเหลือบัณฑิตาเต็มที่เอ่ยบอก
“พอค่ะ พี่เจย์แลกเป็นเงินปอนด์ให้ตาลตั้งสามพันปอนด์ ค่าที่พักก็ไม่ต้องเสีย แล้วยังมีบัตรให้ตาลไว้ใช้อีก ไม่พอก็ไม่รู้จะว่ายังไง”
งานนี้ต้องขอบคุณไอศูรย์ที่ดำเนินการทุกอย่างให้ตนหมด เดิมที่ชเนตตีจะให้เลขาของมารดาจัดการเรื่องนี้ ทว่าเมื่อไอศูรย์รู้เรื่องเขากลับค้าน เพราะมีช่องโหว่ที่อาจถูกจับได้ เขาจึงออกหน้าแทนทั้งหมด ไม่ว่าจะใช้ชื่อของลูกน้องเป็นคนจองและจ่ายเงินค่าที่พัก เรื่องการเงินที่ชเนตตีตั้งใจให้ใช้บัตรเครดิตของตนเอง ไอศูรย์ค้านเช่นกัน หากบัณฑิตาหายตัวไปดื้อๆ คนที่ถูกเพ่งเล็งคนแรกก็ต้องเป็นภรรยาสุดที่รักของตน เนื่องจากในบรรดาเพื่อนทั้งหลายของบัณฑิตา ชเนตตีคือเพื่อนที่สนิทที่สุด เขาคิดว่า ให้บัณฑิตาพกเงินสดไปส่วนหนึ่ง แล้วให้บัตรเอทีเอ็มของเขาไปกดเงินสดใช้ที่โน่นน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า
“สามพันปอนด์ต่อให้ประหยัดแค่ไหนไปอยู่เดือนนึงไม่พอหรอก ค่าครองชีพที่นั่นสูง ตาลใช้เงินตามสบายเลยไม่ต้องกังวล หมดก็ไปกดมาใช้เพิ่ม อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากไปเที่ยวไหนให้ตัวเองสบายใจก็ไป ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น”
“ขอบคุณมากค่ะพี่เจย์” บัณฑิตาพนมมือไหว้สามีเพื่อนรัก “ขอบใจแกด้วยนะที่ช่วยฉัน”
“สำหรับแกแค่นี้สบายมาก มากกว่านี้ฉันก็ทำให้ได้”
ชเนตตีบอกจากใจ บัณฑิตายิ้มให้เพื่อนรักและสวมกอดอย่างแนบแน่น ซึ้งในน้ำใจและการช่วยเหลือของสามีภรรยาคู่นี้
“ฉันไปก่อนนะ ไปถึงโน่นแล้วจะเมล์มาบอก” การสื่อสารของทั้งคู่ตกลงกันไว้ว่าจะใช้อีเมล์แทนการติดต่อช่องทางอื่น เนื่องจากตรวจสอบยากสุด และเป็นอีเมล์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ รู้กันเพียงสองคน “ตาลไปก่อนนะคะพี่เจย์”
“ครับ โชคดีครับ”
“โชคดีเพื่อน”
ชเนตตีโบกมือให้บัณฑิตาที่โบกมือลากลับ ก่อนเดินเข้าไปในประตูผู้โดยสารขาออก เพื่อรอขึ้นเครื่องบินลอยลำพาตนไปยังประเทศอังกฤษ
..............
เวลาเดียวกัน ณ ประเทศอังกฤษ
ประตูโรงแรมเชอราตัน เพลส โรงแรมสุดหรูกลางกรุงลอนดอนเปิดกว้างต้อนรับมาเฟียเลือดร้อน เจ้าของฉายาราชสีห์พันธ์ทมิฬ ชายหนุ่มที่มีนัยน์ตาสีฟ้ามหาเสน่ห์ รอยยิ้มเขาก็ไม่เบา โปรยยิ้มให้หญิงสาวคนใด สาวคนนั้นจะเหมือนขี้ผึ้งรนไฟ ทว่าเขากลับหวงรอยยิ้มเท่ากับหวงความโสด และดูท่าว่าจะไม่มีสตรีคนไหนที่จะทำให้ลีโอนาร์ด ฟาเรลล์ยอมสละโสด ใช้ชีวิตคู่รวมกันสักคน
“สวัสดีครับคุณลีโอนาร์ด” ผู้จัดการโรงแรมรีบเข้ามาต้อนรับขับสู้ลูกค้าวีไอพี “ผมจะพาไปที่ห้องสูทนะครับ”
“อืม ขอบใจ” ลีโอนาร์ดกล่าวด้วยเสียงนิ่งเรียบเหมือนหน้าตา ก่อนเดินตามผู้จัดการไปยังห้องสูท สถานที่นัดเจรจาธุรกิจระหว่างตนกับคู่ค้ารายใหญ่
ขณะเดียวกันชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ของเฮนรี่ ลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาเลี่ยนได้เดินเข้ามาในโรงแรมพร้อมลูกน้องอีกสามคน ทว่าการมาของเขาทั้งสี่ไม่ได้มีใครมาต้อนรับ ซึ่งพวกเขาก็ไม่เดือดร้อน เป็นการดีเสียอีกที่ไม่มีใครมาวุ่นวาย เฮนรี่เดินไปนั่งบนโซฟาตรงล็อบบี้ รอให้ลูกน้องจัดการเช็คอินเข้าพัก เมื่อเรียบร้อยพวกเขาจึงขึ้นไปบนชั้นที่พัก
..............
ทันทีที่บัณฑิตาย่างเท้าลงมาจากเครื่องบินลำใหญ่ หล่อนรู้สึกราวกับเป็นนก โบกบินอย่างอิสระ ไม่มีใครจับใส่กรงทอง บังคับให้หล่อนแต่งงาน แล้วยังรู้สึกราวกับว่าประเทศแห่งนี้เสมือนภูเขาโอบล้อมปกป้องหล่อนจากอันตรายทั้งปวง พอก้าวเท้าออกมาจากอาคารสนามบิน หล่อนสูดอากาศของเมืองลอนดอนเข้าไปเต็มปอด ก่อนเรียกรถแท็กซี่ไปยังโรงแรมที่ไอศูรย์จองไว้ให้
โรงแรมเชอราตัน เพลสเป็นโรงแรมที่ใหญ่ระดับต้นๆ ของเมืองนี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการแน่นอนว่าต้องเป็นคนมีชื่อเสียง หรือมีรายได้พอสมควร เป็นเพราะค่าที่พักและค่าบริการที่นี่ค่อนข้างสูงตามความเลิศหรูของสถานที่ ความที่ทางโรงแรมมีระบบรักษาความปลอดภัยดี ลูกค้าก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มดี บัณฑิตาจึงวางใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยระหว่างพักอยู่ที่นี่
บัณฑิตาก้าวลงมาจากรถแท็กซี่โดยไม่มีกระเป๋าสัมภาระ เพราะทุกอย่างที่หล่อนต้องใช้จะซื้อจากที่นี่ทั้งหมด หญิงสาวในชุดลำลองแบรนด์หรู ก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรม ตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์ใหญ่เพื่อล็อกอินเข้าพัก
ในขณะที่บัณฑิตาเดินผ่านล็อบบี้ หล่อนไม่รู้ตัวเลยว่า ตกเป็นเป้าสายตาของหมาป่าที่พร้อมฉีกร่างสมันสาวให้แหลกเป็นชิ้น เฮนรี่มองบัณฑิตาไม่วางตา ความสวยงามของหล่อนทำให้เขาไม่อยากละสายตา ผู้หญิงอะไรยิ่งมองยิ่งเพลิน ราวกับถูกดึงไปอยู่ในห้วงมนตรา ร่างสะโอดสะองที่เห็นแล้วอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนเตียง เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จะมีเพียงสตรีที่เดินผ่านโซฟาเขานี่แหละ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกรุ่มร้อนในกาย
“ผมจัดการให้ไหมครับ” แฟรงค์ถามเจ้านายอย่างรู้ความคิด
“ไม่ต้อง” เฮนรี่ตอบกลับทันที “เธอคงพักที่นี่ นายไปสืบมาสิว่า เธอพักห้องไหน”
ผู้หญิงที่สวยและดูแพงอย่างบัณฑิตา เฮนรี่มีความคิดว่า คงไม่ง่ายเหมือนผู้หญิงทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตน แต่คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่เขาจะจัดการได้ เฮนรี่กระตุกยิ้ม มองตามร่างหญิงสาวถูกใจที่เดินไปยังลิฟต์โดยสารของโรงแรมตาเป็นมันประกายปรารถนา
“เราได้เจอกันแน่คนสวย” เฮนรี่กล่าวอย่างมั่นใจ ก่อนลุกเดินออกจากโรงแรมเมื่อลูกน้องนำรถยนต์มาจอดหน้าโรงแรม ถ้าวันนี้เขาไม่มีงานด่วนและสำคัญต้องจัดการ ทิศทางที่เขากำลังก้าวเดินคงเปลี่ยนไปอีกทางแน่นอน
............
สามชั่วโมงต่อมา
ช่วงเวลาที่บัณฑิตามาเยือนกรุงลอนดอน อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่อาการมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยที่สุด คืออาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไปมา หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันก็ได้
หลังจากงีบหลับไปสองชั่วโมงกว่า บัณฑิตาลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ก่อนสะพายกล้องถ่ายรูปเดินออกจากโรงแรม เพื่อไปเก็บภาพประทับใจไปฝากเพื่อนรัก สถานที่ที่หล่อนเลือกไปเป็นที่แรกคือ หอนาฬิกาบิ๊กเบนและพระราชวังเวสต์มินสเตอร์
พอไปถึงจุดหมายบัณฑิตาถ่ายรูปทั้งในกล้องถ่ายรูปและในมือถือไว้หลายสิบภาพ ตั้งใจว่าจะส่งไปให้ชเนตตีดู หล่อนใช้เวลาอยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อกว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนเดินไปตามถนนสายหลัก เก็บภาพความประทับใจ และทัศนียภาพสวยงามต่อไป
บัณฑิตาเดินข้ามสะพานไปเที่ยวอีกสถานที่แห่งหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กัน นั่นคือลอนดอนอาย (London Eye) ที่รู้จักในชื่อ มิลเล-เนียมวีล (Millennium Wheel) เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แน่นอนว่าเมื่อมาถึงที่ บัณฑิตาไม่พลาดนั่งชิงช้าสวรรค์อันลือชื่อ หล่อนเก็บภาพมุมสูงไว้หลายภาพ ไว้ส่งให้เพื่อนรักอิจฉาเล่น
เวลาในการท่องเที่ยวของบัณฑิตาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท้องหล่อนเริ่มประท้วงหิว บัณฑิตาจึงเดินหาร้านอาหารละแวกนั้น แต่แม้ว่าจะหิว ทว่าบัณฑิตาก็เดินเลือกร้านอาหารที่มีอยู่หลายร้าน ราวกับว่าตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าไปกินร้านไหน เพราะแต่ละร้านก็น่ากินทั้งนั้น
ขณะที่บัณฑิตากำลังเดินผ่านหน้าร้านขายพิซซ่าชื่อดัง ที่ถูกโหวตจากนักท่องเที่ยวว่า ถูกและดีมากของลอนดอน ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้าน ละสายตาจากจานพิซซ่าของตน มองไปยังถนนหน้าร้าน เขามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังมองซ้ายมองขวา ไปทางร้านนั้นทีร้านนี้ที ลีโอนาร์ดจะไม่สนใจเลย หากใบหน้าของสตรีคนนั้นไม่เหมือนกับผู้หญิงที่เขาอยากเจอมากที่สุดในชีวิต เพื่อความแน่ใจว่าหล่อนใช่ผู้หญิงคนนั้นหรือไม่ เขารีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปนอกร้านทันที
แต่เหมือนสวรรค์ไม่เป็นใจ เมื่อร่างสูงใหญ่เดินออกมานอกร้าน สาวคนนั้นเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง และมีรถประจำทางขับมาขวางทางไว้ ลีโอนาร์ดรีบก้าวเท้าวิ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ทว่าเขากลับมองไม่เห็นหญิงสาวที่ตนต้องการพบหน้า
“ไปไหนนะ” ลีโอนาร์ดพูดเชิงคำถาม และเป็นคำถามที่ตนอยากรู้คำตอบเช่นกัน คนที่มาเฟียหนุ่มกำลังตามหา ตอนนี้เข้าไปนั่งร้านอาหารที่อยู่ห่างจากจุดที่ลีโอนาร์ดยืนอยู่ยี่สิบเมตร เป็นการคลาดกันเพียงฉิวเฉียด
“คุณลีโอมองหาใครครับ” เมสันที่วิ่งตามเจ้านายออกมารีบถาม
“ไม่มีอะไร ฉันแค่เห็นคนที่อยากเจอ” ลีโอนาร์ดตอบ
“เธอคนนั้นหรือครับ” เมสันถามอย่างรู้ใจคนเป็นนาย
“อืม” คนถูกถามตอบสั้นๆ “ฉันคงตาฝาดไปเอง”
คนพูดมองไปยังป้ายร้านอาหารที่อยู่ไม่ห่างจากตนมากนักนิ่ง ราวกับว่าป้ายนั้นมีแรงดึงดูดสายตา ทว่าขาเขากลับไม่ก้าวเดินไปยังจุดที่สายตามอง ลีโอนาร์ดกลับก้าวเท้าเดินกลับไปร้านพิซซ่าชื่อดังด้วยความหวังว่า จะได้พบเจอหญิงสาวในค่ำคืนนั้น...สักวันหนึ่ง