บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 รอยปริศนา (1)

ชายร่างสูงผมยาวจนถึงกลางหลังในชุดสีดำทมิฬสยายปีกบินออกไปทางหน้าต่าง ก่อนเขาจะกลืนหายไปกับความมืดทิ้งไว้แค่สายลมที่ไหววูบจนสกุณาที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นสะท้านไปทั้งตัว

ใช่ บินออกไป

สกุณาสะดุ้งแล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และสิ่งแรกที่เธอหันไปมองทันทีที่ลืมตาคือหน้าต่าง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อมันยังปิดสนิท และเชื่อได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันคือความฝันที่เหมือนจริงมาก ๆ

“ไม่ใช่คนแน่ ๆ” สกุณาพึมพำถึงบุรุษที่ปรากฏตัวในฝันเมื่อครู่ เพราะคงไม่มีมนุษย์ที่ไหนหรอกมีปีกและบินได้ “แล้วเจอกัน ถึงเวลาผมจะมารับคุณไปด้วย” หญิงสาวทวนคำของชายปริศนา มือก็ลูบแขนที่ขนลุกซู่

คำพูดแบบนี้

ลักษณะท่าทางที่เต็มไปด้วยความมืดดำ

“ยมทูต!” พูดแล้วก็ส่ายศีรษะ พร่ำบอกตัวเองว่านี่คงไม่ใช่ลางบอกเหตุหรอกนะ ว่าแล้วก็นั่งพับเพียบสวดมนต์ภาวนาต่อชีวิตให้ตัวเอง ขอให้เวลาที่ว่าของยมทูต เป็นอีกห้าสิบหกสิบปีข้างหน้า อย่าเพิ่งเป็นในเร็ววันนี้เลย เธอยังสนุกกับการใช้ชีวิตและการทำงาน ยังไม่อยากจากโลก ที่แม้บางครั้งบางครามันจะบิดเบี้ยว นำความทุกข์ความเศร้ามาให้เธอบ้าง แต่มันก็คือวิถีของการดำเนินชีวิตที่มีสีสัน “สาธุ...แล้วพรุ่งนี้เช้าฉันจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นะคะ” สองมือพนมขึ้น ปลายนิ้วจรดหน้าผาก ก่อนมันจะถูกนำมาตบที่ตรงกระหม่อมเบา ๆ เพื่อเรียกขวัญกำลังใจที่หนีหายกระเจิง แล้วล้มตัวลงข่มตานอนต่อ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

สกุณาดึงผ้าห่มคลุมโปง กลิ้งไปมาอยู่เป็นนานสองนาน สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นนั่ง หยิบนาฬิกาที่หัวเตียงมาดู แล้วก็ต้องถอนหายใจ ก็มันเพิ่งจะตีสาม เธอสามารถนอนต่อได้อีกสองชั่วโมง กว่าจะถึงเวลาตื่นปกติ แต่วันนี้มันไม่ปกติ บางทีการลองตื่นมาเตรียมของใส่บาตรตอนตีสาม มันก็ไม่น่าใช่เรื่องเสียหาย

ว่าแล้วก็ลงจากเตียง เปิดไฟ หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะเหลือบตามองหน้าต่างบานเจ้าปัญหา มันไม่ได้มีอะไรแปลก ๆ โผล่มา ทว่ามันกลับสร้างความเย็นสะท้านให้เธออย่างช่วยไม่ได้ สกุณาห่อไหล่แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำพลางเลื่อนมือลูบที่คอเมื่อรู้สึกว่ามันเจ็บจี๊ด ๆ นิด ๆ “มีอะไรกัดเปล่าวะเนี่ย” ว่าแล้วเพื่อความมั่นใจจึงก้มลงดูพร้อมกับจับเสื้อสะบัดไปมา เงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็ต้องชะงัก “เอะ...เอะ...” สกุณายื่นหน้าเข้าไปจนชิดกระจกที่อยู่ในห้องน้ำอย่างกลัวว่าสายตาอาจจะฝ้าฟางจากการที่เพิ่งตื่นนอนใหม่

แต่ยิ่งเพ่งกลับยิ่งชัด

“ทำไมคอฉันมีรอยจ้ำเต็มไปหมดล่ะเนี่ย” และเมื่อก้มลงมองที่เนินอกเธอก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมกับอุทาน “ใครมาทำอะไรฉัน!”

สกุณากรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรสัมภเวสีรวมไปถึงชายลึกลับที่มาเยือนในฝันเมื่อคืน ไม่รู้ยมทูตสามารถรับส่วนบุญที่ทำไปให้ได้หรือเปล่า

แต่เมื่อได้ทำ จิตใจที่เป็นกังวลของเธอก็สงบลงในระดับหนึ่ง ไม่ได้หมดสิ้นไปในทันที เพราะยังหาสาเหตุของการเกิดรอยจ้ำที่ต้นคอรวมถึงบริเวณเนินอกยังไม่ได้ แต่จะให้มาหวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำอะไร มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อชีวิตมันยังไม่สิ้น การทำมาหากินยังคงเป็นเรื่องสำคัญ

หญิงสาวยืนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเดินกลับเข้าบ้านอย่างรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย และกลับออกมาอีกครั้งเมื่อได้เวลาต้องออกไปทำงานประจำ ที่คลินิกรักษาสัตว์ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก นั่งรถประจำทางไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง

“สวัสดีจ้า” สกุณาเอ่ยทักพิกุล เพื่อนร่วมงานที่จะมักจะมาถึงก่อนคนอื่นเสมอ เพราะบ้านอยู่ใกล้ ขณะเดินเอาของไปเก็บแล้วกลับออกมาช่วยกันทำความสะอาด ก่อนจะเปิดคลินิกในตอนแปดโมงครึ่ง

“สวัสดีจ้าทุกคน” แก้วตาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเดินตรงดิ่งไปหาสกุณา “วันนี้ทำไมเธอดูไม่ค่อยสดชื่นเลย” ถามพลางใช้มือจับคางเชยขึ้นมองอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเพราะเพิ่งสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายใส่เสื้อคอเต่า ทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว ถึงข้างในนี้จะเปิดแอร์ก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้เย็นขนาดนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel