บทนำ เจอกันครั้งแรก
โครม “กรี๊ด” ตุ๊บ ร่างเล็กลอยละลิ่ว ตกลงที่พื้นคอนกรีตด้านหน้าเรือนรับรองภายในฟ้ามณีรีสอร์ท ขณะที่มีมอเตอร์ไซด์ออโตเมติกสีแดง ล้มอยู่ข้าง ๆ ร่างเล็กและถัดไปมีรถเก๋งคันหรูสีดำคู่กรณีจอดอยู่ข้าง ๆ กัน
เหตุเกิดขึ้นเร็วมากฉันกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาฝึกงานที่ฟ้ามณีรีสอร์ทเหมือนทุกเช้า แต่เนื่องจากเมื่อคือมีฝนตกหนัก ถนนจึงมีความลื่นเป็นพิเศษบวกกับเป็นช่วงเวลาเช้า ๆ แบบนี้จะไม่มีรถมาจอดหน้าเรือนรับรองที่เป็นส่วนของประชาสัมพันธ์และใช้รับรองแขกที่จะมาเข้าพัก ทำให้ฉันเผลอเรอขับรถมาด้วยความเร็วที่ไม่เร็วมากแต่เมื่อกำลังถึงหน้าเรือนรับรองฉันที่เห็นรถจอดอยู่ข้างหน้าในเวลากระชั้นชิดทำให้ฉันเบรครถไม่ทัน ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์ของฉันชนเข้ากับรถยนต์คันหรูที่จอดหน้าเรือนรับรองจนเกิดเสียงดังสนั่น ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของฉันแฉลบล้มลงไปไม่เป็นท่า
เวลานั้นเองมีผู้ชายรูปร่างสูงหุ่นกำยำ วิ่งออกมาจากเรือนรับรองด้วยใบหน้าตื่นตกใจ ก่อนชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นเสียงดัง
“ทำอะไรของเธอเนี่ย ขับรถเป็นหรือเปล่า”
แน่นอนเมื่อชายใบหน้าหล่อเหลาพูดออกมาเช่นนั้น เขาจะเป็นใครไปไม่ได้เขาต้องเป็นเจ้าของรถคันนั้นนั่นเอง
และนี่คือสิ่งที่ฉันอยากบอกผู้ชายด้านหน้า หน้าตาก็ดีแต่แม่งปาก….เหลือเกิน
^...^
ฉันได้แต่กรอกตามองบนเจ็บก็เจ็บน้ำใจจะถามสักคำก็ไม่มี ขณะที่ฉันกำลังจะเอ่ยพูดกับคนหน้ายักษ์ที่สำรวจร่องรอยแผลของรถก็มีเสียงดังมาจากด้านหน้าเรือนรับรองและหญิงร่างท้วมของเจ้าของรีสอร์ทก็วิ่งตรงมาหาฉัน
“หนูม่านน้ำเป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก”เสียงของคุณป้ามณีเจ้าของรีสอร์ทวิ่งตรงมาหาฉัน
“ไม่เป็นอะไรมากคะ ถลอกนิดหน่อย”ฉันยกแขนขึ้นมาดูที่ตอนนี้เริ่มมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
“ไม่เป็นได้ไงเราดูแผลสิ ไปเข้าไปทำแผลข้างในก่อน”
คุณป้าพูดจบก็พยุงฉันเข้าไปด้านในเรือนรับรองของรีสอร์ท ส่วนผู้ชายคนนั้นเดินดูรอบตัวรถของตัวเองก่อนจะตามฉันกับคุณป้าเข้ามาในเรือนรับรอง
ฉันขอแนะนำตัวก่อนเลยคะ ฉันชื่อ ม่านน้ำ อายุ 22 ปีตอนนี้ฉันเป็นนักศึกษาปีสุดท้าย สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและการที่ฉันมาที่นี่เพื่อมาฝึกงานก่อนจบการศึกษาซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
และที่ฉันเลือกฝึกงานที่นี่ก็เพราะฉันรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ทเป็นอย่างดีเพราะท่านเป็นเพื่อนรักกับแม่ของฉัน
“เสร็จแล้วจ๊ะหนูม่านน้ำ”
ฉันยกมือไหว้ท่านทันทีเมื่อท่านทำแผลให้ฉันเสร็จแต่ยังมิวายสายตาฉันดันชำเลืองมองคนใจดำที่ยืนอยู่ในห้องพยาบาลด้วยแต่แวบเดียวเท่านั้นก่อนจะฉันจะหันมาเอ่ยบอกคุณป้า
“ขอบคุณคะ น้ำไปทำงานก่อนนะคะ”
"เดี๋ยวสิหนูม่านน้ำป้าลืมแนะนำลูกชายป้าให้หนูรู้จักเลย นี่ตาสายฟ้าเพิ่งเดินทางมาจากอังกฤษเพื่อมาเที่ยวหาป้า"
จากที่ฉันกำลังจะเดินออกไปจากห้องพยาบาลเพื่อไปทำงานฉันต้องชะงักไว้ตามเสียงเรียกก่อนจะหันไปสวัสดีตามมารยาทกับคนใจดำ
"สวัสดีคะ"
"สายฟ้าลูกหนูม่านน้ำลูกสาวเพื่อนแม่ ตอนนี้น้องมาฝึกงานที่รีสอร์ทเรา"
เขาหันมาจ้องหน้าฉันนิ่งด้วยแววตาไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นดังนั้นฉันจะอยู่ทำไมอีก ขอปลีกตัวเองไปทำงานดีกว่า
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอออกไปทำงานนะคะ"
ท่านพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ขณะที่ฉันลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเดินออกจากห้องพยาบาล เพื่อมาทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตำแหน่งที่ฉันทำที่รีสอร์ทแห่งนี้ฉันทำหน้าที่ส่วนประชาสัมพันธ์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ค่อยต้อนรับแขก แต่เสียงทุ้มของคนใจดำดังขึ้นมาขัดฉันเสียก่อน
"เดี๋ยว แล้วค่าซ่อมรถฉันละ"
ฉันมองเขาเลิกลักเอาไงวะช่วงนี้ธุรกิจที่บ้านกำลังแย่ด้วย จะเอาเงินที่ไหนไปซ่อมรถเขาวะ
"คือ..."ฉันกำลังจะเอ่ยบอกเขาแต่คุณป้าก็พูดขัดมาเสียก่อน
"สายฟ้าเรื่องนี้เดี๋ยวแม่จัดการเอง / เราไปทำงานเถอะหนูม่านน้ำ"ประโยคแรกคุณป้าพูดกับคนใจดำส่วนประโยคหลังคุณป้าเอ่ยบอกฉัน แล้วไงใครจะอยู่ละพาตัวเองออกจากสถานการณ์นี้ดีกว่า ฉันยกมือไหว้คุณป้าอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเองออกจากห้องพยาบาล
…………..
สวัสดีครับ ผมชื่อ สายฟ้า อายุ 30 ปี ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทำไมผมต้องไปทำที่นั้นนะเหรอ ก็ผมเรียนจบโทการตลาดจากที่อังกฤษ เมื่อเรียนจบผมก็หางานทำ จากตำแหน่งเล็ก ๆ แค่พนักงานธรรมดาก็เลื่อนตำแหน่งขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ผมอยู่ระดับผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้ว เมื่อหน้าที่การงานของผมเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดที่จะกลับมาที่ประเทศไทยจึงเป็นศูนย์ แต่หากถามว่าผมจะมีโอกาสกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยไหมก็อาจจะมีแต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่หน้าที่การงานผมกำลังไปได้สวย
แต่ที่ผมเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยวันนี้ก็เพราะว่าพ่อโทรมาบอกว่าแม่ไม่สบาย ผมรีบทำเรื่องลาพักร้อนก่อนจะรีบเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย แต่สิ่งที่ผมเห็นกับเหมือนตรงกับข้ามคนป่วยตอนนี้กับเหมือนมีสุขภาพร่างกายยังแข็งแรงดีหรือแม่ผมจะป่วยทิพย์
แต่เอาละเรื่องแม่เอาไว้ก่อนเพราะสิ่งที่ผมปวดหัวไปอีกคือมียัยบ้าที่ไหนไม่รู้มาขับรถชนรถของเพื่อนผม ผมเลยโครตเซ็งเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่ามันจะว่าอะไรบ้างที่ทำรถมันมีแผลนิดหน่อย
คิดแล้วความโกรธก็พุ่งขึ้นมาในหัวผมอีกครั้ง อุตสาห์ทำใจสงบแล้วเชียวยิ่งเห็นคนตรงหน้าทำหน้าตาใสซื่อยิ่งแล้วใหญ่ ถึงผู้หญิงตรงหน้าจะหน้าตาดี ปากนิด จมูกหน่อย ก็น่ารักดีนะแต่ แล้วไงผมไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หรอกนะ
"เดี๋ยวแล้วค่าซ่อมรถฉันล่ะ"ผมรีบบอกเพราะเห็นว่าเธอคนนั้นกำลังจะเดินหนีออกจากห้อง เธอหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะมีเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา
"คือ...."แต่เธอพูดได้แค่นั้นก่อนแม่ผมจะพูดขัดขึ้นมา
"สายฟ้าเรื่องนี้เดี๋ยวแม่จัดการเอง / เราไปทำงานเถอะหนูม่านน้ำ"ผมรีบหันไปมองคนเป็นแม่อะไรสงสัยจะเอ็นดูกันมาก็ถึงขั้นค่าซ่อมรถยังออกให้ได้ คิดแล้วก็หงุดหงิด ขณะผู้หญิงคนนั้นเดินออกจากห้องไปเหลือแค่ผมกับแม่อยู่ในห้อง
"เดี๋ยวผมโทรหาเพื่อนก่อนค่อยว่ากัน แล้วที่พ่อโทรมาบอกว่าไม่สบายหายแล้วเหรอ"เรื่องรถเอาไว้ก่อนเพราะรถของเพื่อนผมมันน่าจะทำประกันชั้นหนึ่งอาจจะไม่ต้องเสียค่าซ่อมแต่กับแม่ที่ว่าป่วยดูสิท่านจะตอบผมว่าอย่างไร
“แม่เป็นไข้เพิ่งหาย เรากลับมาก็ดีแล้วมาให้แม่กอดหน่อยคิดถึงจัง”พูดจบท่านก็เข้ามาสวมกอดผม
"แม่ป่วยจริงไหมเนี่ย"ผมถามขึ้นเพื่อความแน่ใจอีกทีที่จริงก็รักและเป็นห่วงท่านนั้นแหละ ตามจริงผมทำเรื่องลาพักร้อนไว้แล้ว แต่ทันทีที่พ่อโทรมาผมจึงเลื่อนวันลาให้เร็วขึ้น
"ก็ป่วยแหละ แค่ก! ๆ แต่ก็คิดถึงเราด้วย"แม่บอกผมพร้อมไอออกมาเล็กน้อยไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือแกล้ง
"ครับ"
"มาเหนื่อย ๆ อยากกินอะไรเดี๋ยวแม่ให้พ่อครัวทำให้กิน เอาของชอบเราไหมปลาราดพริก ต้มยำทะเล"แม่ผมเริ่มพูดเปลี่ยนประเด็นทันที
"ได้ครับ"ผมขานรับก่อนที่แม่ผมจะพาผมมานั่งรอที่ห้องอาหารของรีสอร์ทและสั่งให้พ่อครัวทำอาหารที่ผมชอบ
