ตอนที่ 1
ภารกิจพิศวาส
ตอนเช้าตรู่ของวันอาทิตย์
ที่บ้านครึ่งอิฐครึ่งไม้สองชั้น ปลูกสร้างอยู่ท่ามกลางสวนกล้วยน้ำว้า รอบๆ เป็นทุ่งนาข้าวและไร่อ้อยสีเขียวขจี
ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน นายเชิดชัยผู้เป็นเจ้าของบ้าน กำลังนั่งกุมขมับ สีหน้ามีอาการเครียดจัดอย่างเห็นได้ชัด แววตากลัดกลุ้ม หลังจากได้รับจดหมายทวงหนี้ก้อนใหญ่จากธนาคาร
“เกิดอะไรขึ้นคะแม่… ดูสีหน้าคุณพ่อเครียดจัง”
‘แก้วตา’ ลูกสาวคนเดียวของนายเชิดชัยกับนางวิไลที่กำลังนังดูทีวีอยู่ในบ้าน มองออกมายังเทอเรสด้วยสายตาเป็นห่วง ‘เชิดชัย’ ผู้เป็นบิดา
“คือ… เอ่อ… อันที่จริงแม่ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับหนู แต่ถึงขั้นนี้แล้ว แม่คิดว่าลูกควรจะต้องรู้”
นางวิไลถอนใจแรง ตัดสินใจบอกเรื่องที่กำลังทำให้นายเชิดชัยผู้เป็นสามีของหล่อนกำลังเครียดจัดอย่างที่เห็น
“เรื่องอะไรคะแม่… ”
แก้วตามองหน้ามารดา พอจะคาดเดาได้ว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ
“ตอนนี้บ้านและที่ดินของเรากำลังจะถูกธนาคารยึด”
นางวิไลบอกเรื่องร้ายที่ทำให้หล่อนเป็นกังวลจนนอนไม่หลับมาหลายวัน
“จริงหรือคะแม่”
แก้วตาตกใจจนหน้าซีด จากนั้นนางวิไลก็เล่าให้ฟังว่านายเชิดชัยสามีของหล่อนโดนเพื่อนคนหนึ่งหลอกให้เอาเงินไปลงทุนซื้อหุ้น ตอนแรกๆ ก็ได้ผลตอบแทนดีจนน่าตกใจ
แต่สุดท้าย… กลับตกเป็นเหยื่อของขบวนการแชร์ลูกโซ่ที่หลอกให้เอาเงินไปลงทุน
“โธ่… ทำไมคุณพ่อเชื่อคนง่ายจังคะคุณแม่ ไม่น่าเลย… ทุกวันนี้ข่าวคนโดนพวกแชร์ลูกโซ่หลอกก็มีให้เห็นทุกวัน”
แก้วตาไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง และเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว
“เพราะความโลภและความอยากรวยทางลัดไงล่ะลูก”
นางวิไลกล่าวเสียงเศร้า ‘ความโลภ’ เป็นจุดอ่อนให้มิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปได้ ความเจริญทางเทคโนโลยีและการสื่อสารในทุกวันนี้เหมือนดาบสองคม ทำให้พวกแชร์ลูกโซ่สามารถสร้างเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว เป็นการหลอกลวงที่แฝงมากับธุรกิจที่ซับซ้อนขึ้น หลอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนและให้ผลตอบแทน แต่สุดท้ายก็โกง
แก้วตาเคยได้ยินเรื่องแชร์ลูกโซ่ ที่เน้นการระดมเงินทุนจากสมาชิก จูงใจด้วยผลตอบแทนสูง และมักอ้างว่านำไปลงทุนในธุรกิจที่มีกำไรดี แต่จริง ๆ แล้วต้องการที่จะหาสมาชิกใหม่ให้ได้มาก ๆ เพื่อนำเงินจากรายใหม่มาจ่ายให้รายเก่า ทำแบบนี้เป็นทอดๆ เป็นลูกโซ่ ท้ายที่สุด… เมื่อถึงจุดที่หมุนเงินไม่ทัน ก็จะเริ่มเลื่อนการจ่ายผลตอบแทน สุดท้ายก็โกงในที่สุด
“แม่คะ… พอจะมีหนทางไหนบ้างคะ… ที่จะไม่ทำให้บ้านเราถูกยึด”
แก้วตาเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้
“มันก็พอมีวิธี… แต่… หนูห้ามบอกเรื่องนี้ให้คุณพ่อรู้นะ”
นางวิไลกำชับเสียงหนัก ทั้งที่ยังไม่ได้บอกเลยว่าวิธีที่ว่านั้นคืออะไร?
“แผน… เอ่อ… แผนอะไรคะคุณแม่”
หัวคิ้วของแก้วตาชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย จากนั้นนางวิไลก็บอกแผนการกับลูกสาว
‘แผนการ’ ซึ่งหล่อนแอบครุ่นคิดมาหลายวัน เพราะมองว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะได้เงินมาเคลียร์หนี้สินกับทางธนาคารได้ทันเวลา
“แม่อยากให้หนูไปฝึกงานกับลุงเพลิง”
นางวิไลบอกลูกสาว ‘ลุงเพลิง’ ที่ถูกกล่าวถึงก็คือเพื่อนคนหนึ่งของบุญเชิดสามีหล่อน
ทุกวันนี้ลุงเพลิงได้ดิบได้ดีจากการทำฟาร์มอยู่ทางภาคเหนือ มีทั้งฟาร์มโคนม ไอ่องุ่น ไร่กาแฟ และยังมีรีสอร์ต
อยู่ในเชียงราย
“ลุงเพลิง… ”
แก้วตารำพึงชื่อของคนที่ถูกกล่าวถึง จากนั้นภาพของผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่คล้ายชาวต่างชาติ ก็ผุดวาบเข้ามาในความทรงจำของหล่อน
“ลุงเพลิง… ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ที่เป็นลูกครึ่งฝรั่งใช่ไหมคะ”
แก้วตายังจำได้ ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยมาบ้านหล่อนเมื่อหลายปีก่อน
“ความจำดีนะลูก… ใช่จ้ะ ลุงเพลิงคนนี้เคยแวะมาบ้านเราครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว”
นางวิไลกล่าว
“แล้วแผนการนี้… เกี่ยวข้องกับลุงเพลิงยังไงคะแม่”
แก้วตาสงสัย
“ลุงเพลิงคนนี้ร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีคนหนึ่งของเชียงราย เป็นพ่อม่ายที่มีทรัพย์สินเยอะมาก”
นางวิไลผู้เป็นมารดารีบตรงเข้าประเด็น
“แล้ว… ยังไงต่อคะแม่”
แก้วตาแอบภาวนาในใจ ว่าขออย่าให้เป็นอย่างที่หล่อนคิด และสีหน้าสงสัยของลูกสาวก็ทำให้นางวิไลต้องรีบสรุป
“หนูมีเวลา 60 วัน… ภายใน 60 วันหนูจะต้องจับลุงเพลิงทำผัวให้ได้”
นางวิไลเฉลยแผนการที่ทำให้ลูกสาวถึงกับอุทาน