บทที่ 5 ลักยิ้มกระชากใจ
“ เอ่อ เดี๋ยวสักพักทีมช่างก็คงจะมา ว่าแต่นายพักอยู่ที่นี่รึจีน ” ปรานต์ถามคนตัวเล็กกว่าพลางกดเปิดไฟฉายที่โทรศัพท์ อย่างน้อยมีแสงสว่างก็ยังทำให้รู้สึกดีกว่าอยู่ในที่มืดและที่สำคัญแคบด้วยสิ สิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่แย่เท่าไหร่ก็คือเขาไม่ได้ติดอยู่เพียงลำพังแต่อยู่กับตุ๊ด(ในความเข้าใจของเขาเอง)ที่โคตรจะน่ารักนั่นแหละ
“ อ่าฮะ พี่สาวจีนเปิดร้านเสริมสวยที่ชั้นล่างแล้วก็รับตัดผมผู้ชายด้วยนะฮะ พี่อย่าลืมไปอุดหนุนล่ะ เอ่อ..แล้วพี่ล่ะมาเพิ่งมาพักอยู่ที่นี่ใช่ไหมจีนไม่คุ้นหน้าเลย ทำงานที่ไหนรึ ”
เมื่อเขาเริ่มชวนคุยก็ทำให้จีนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อีกอย่างท่าทางเขาดูมีเสน่ห์อบอุ่นอย่างประหลาด อันนี้ไม่รู้หล่อนรู้สึกไปเองรึเปล่าก็ไม่รู้สินะ
“ อ่อ พี่เพิ่งมาอยู่ใหม่น่ะมาช่วยแม่ทำงานที่นี่แหละ ไว้เดี๋ยวจะไปอุดหนุนนะผมเริ่มจะยาวอยู่พอดีเลย ”
ปรานต์ตอบกลับไปพลางมองสังเกตที่ลำคอระหงของจีนว่ามันมีลูกกระเดือกหรือไม่ ทำไมเสียงของหล่อนถึงดูไม่ห้าวเหมือนอย่างกระเทยทั่วไป หรือว่าผ่าตัดกล่องเสียงมาแล้ววะ ปรานต์คิดในใจอย่างสงสัย
“ พี่มองอะไรอ่ะ จีนมีอะไรแปลกประหลาดรึ ”
หล่อนอดที่จะถามออกไปไม่ได้เมื่อเขาเล่นจ้องเอาๆ จนหล่อนทำตัวแทบไม่ถูก คิดในใจว่าทำไมช่างถึงยังไม่มาสักทีวะ อีตานี่ก็จ้องอยู่ได้คนยิ่งใจสั่นหวั่นไหวอยู่ด้วย บ้าเอ้ย
“ อ่ะ ปะเปล่า คือพี่อยากจะถามว่าจีน เป็น..”
เขายังพูดไม่ทันจะจบก็มีเสียงดังโหวกเหวกจากภายนอก สักพักไฟในลิฟท์ก็เริ่มกระพริบและติดขึ้นมา ระบบไฟกลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกจากการกดปุ่มเปิดด้านนอก ก็มองเห็นชายฉกรรจ์ที่ใส่ชุดช่างสี่คน พร้อมกับคุณนายชื่นจิตกับพี่น้ำหวานยืนอยู่หน้าลิฟท์ด้วยแววตาเป็นห่วง
“ เป็นไงบ้างลูก ตาปรานต์ หนูจีน ระบบไฟฟ้าของลิฟท์ขัดข้องน่ะ แม่ให้ช่างเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นอะไรกันใช่มั้ย ” คุณนายรีบเข้ามาลูบหลังลูบไหล่ลูกชายด้วยความเป็นห่วง ทำให้จีนรับรู้ได้ในทันทีว่า พี่ปรานต์เป็นลูกชายเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้นี่เอง
“ ไม่เป็นไรครับแม่ ดีที่มีไอ้น้องคนนี้ติดอยู่เป็นเพื่อนน่ะ ”
เขาตอบแม่ให้สบายใจคุณนายหันมาทางจีนแล้วถามหล่อนขึ้นบ้างด้วยสายตามีแววอาทรและเอ็นดู ในระหว่างนั้นทีมช่างก็เริ่มเดินกลับออกไป
“ แล้วจีนล่ะ เป็นอะไรไหม”
“ ไม่เป็นไรฮะคุณนาย แค่นี้สบายมาก”
จีนตอบพร้อมรอยยิ้มกระชากใจเขาอีกแล้วให้ตายสิพับผ่า ก็แค่ลักยิ้มจะใจเต้นอะไรนักหนาวะไอ้ปรานต์ ไปๆแยกย้ายกลับห้องดีกว่า
“ แม่ครับไม่มีอะไรแล้วผมไปห้องก่อนนะเหนียวตัวเต็มทีแล้ว ไว้จะไปอุดหนุนนะจีนขอตัวก่อนล่ะ ” เมื่อปรานต์เดินไปตามทางเพื่อไปที่ห้องของตัวเองที่อยู่ริมสุดทางเดิน จีนก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่ามีลูกค้ารอยาสระผมอยู่ ป่านนี้คงจะหัวแห้งเหงือกแห้งไปแล้วกระมัง
“ โอ๊ยตาย พี่หวานกลับร้านเถอะ จีนจะเอายาสระผมไปให้พี่อ้อยก่อนป่านนี้รอจนบ่นไปแปดตลบแล้วมั้ง ” พูดจบก็รีบจ้ำอ้าวไปยังห้องของอ้อยใจลูกค้าประจำที่สั่งให้เอายาสระผมขึ้นมาให้นั่นเอง
ปรานต์ไขกุญแจเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง กวาดตามองไปรอบๆ ความทรงจำในวัยเด็กจนถึงวัยแรกรุ่นแตกหนุ่มย้อนเข้ามาในความคิด ตอนนั้นแม่เขาสร้างอพาร์ทเม้นท์ไว้สองแห่ง และแบ่งกันดูแลกับพ่อคนละแห่ง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อเริ่มไปติดพันสาวน้อยคนหนึ่งที่มาเช่าหอพักที่พ่อเขาเป็นคนดูแล จนกระทั่งมีความสัมพันธ์เกินเลยถึงขั้นส่งเสียเลี้ยงดู
แม่เขาก็เริ่มระแคะระคายและจับได้ในที่สุด ระหว่างที่ยังไม่หย่าขาดจากกันแม่กับพ่อมีปากเสียงกันบ่อยครั้งจนปรานต์เบื่อ รู้สึกไม่มีความสุขจึงขอห้องพักแม่ชั้นบนหนึ่งห้องและย้ายมาอยู่เพราะไม่อยากอยู่ในบ้านที่มีแต่เสียงทะเลาะของพ่อกับแม่
ปรานต์มองดูข้าวของทุกอย่างของเขาที่ยังคงวางอยู่ที่เดิมรวมทั้งกีต้าร์โปร่งตัวโปรดที่เขามักจะคว้ามันมาเล่นเสมอเวลาว่าง
เขาเอาเป้ไปวางไว้ที่เตียงและเดินไปหยิบกีตาร์ขึ้นมานั่งดีดบนเก้าอี้ข้างเตียงนอน ก็พบว่ามันยังคงใช้งานได้ดีเหมือนเดิม สักพักเขาก็ลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำ และก็ลืมไปว่าเขาไม่มีของใช้ส่วนตัวจำพวกสบู่ ยาสระผม ยาสีฟันกับแปรงสีฟันเลย นึกขึ้นมาได้ว่าชั้นล่างมีมินิมาร์ทอยู่จึงควานหากระเป๋าตังค์ในเป้แล้วเดินไปที่ลิฟท์เพื่อลงไปยังชั้นล่างทันที
