บทที่ 3 ปรานต์
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายในชุด เสื้อยืดกางเกงยีนมีกระเป๋าเป้สะพายคล้องอยู่ที่ไหล่หนา เขาก้าวลงจากรถแท็กซี่หลังจากจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย
ปรานต์เงยหน้าขึ้นมองตึกอพาร์ทเม้นท์ ' จิตเจริญ 'ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าพลางคิดในใจว่า นี่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่นานแค่ไหนแล้วนะแต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปสักเท่าไหร่เลย
เขาก้าวเดินเข้าไปในห้องกระจกออฟฟิศที่คุณนายชื่นจิตเจ้าของอพาร์ตเมนต์นั่งพักผ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งนั่นก็คือแม่ของเขานั่นเอง
“ สวัสดีครับแม่ ”
ปรานต์เข้าไปกราบสวัสดีบนตักของคุณนายชื่นจิต นางมองหน้าเขานิ่งอย่างตกตะลึงด้วยความคาดไม่ถึงว่าลูกชายคนเดียวจะกลับมาโดยไม่ได้บอกกล่าว
“ แกจำทางกลับบ้านได้ด้วยรึตาปรานต์ ”
คุณนายเชิดหน้าจนคอแข็งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงงอน ๆ นางขัดใจกับลูกชายที่ดื้อรั้นจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ และนั่นหมายความว่าต้องพักอยู่กับพ่อของเขาที่หย่าขาดเลิกรากันไป เพราะพ่อเขาดันไปมีเมียน้อยรุ่นลูกจนแม่จับได้และไม่ยอมให้อภัยอย่างเด็ดขาด
เป็นเหตุให้นางไม่พอใจที่ลูกชายคนเดียวต้องไปอยู่กับพ่อและเมียใหม่ของพ่อนั่นเอง
“ โธ่แม่ครับ จำได้สิทำไมจะจำไม่ได้ แถมแม่ยังไม่แก่ลงเลยสักนิดเดียวยังสวยปิ๊งเหมือนเดิมเลย ผมรู้แล้วล่ะว่าหล่อได้แม่มาเต็มๆ ”
ปรานต์พูดยกยอเอาใจแม่ด้วยรู้จุดอ่อนอยู่แล้วว่าแม่ของเขานั้นชอบคนพูดชื่นชมเอาอกเอาใจเป็นอย่างยิ่ง ก็ใครล่ะจะไม่ชอบคำชมจริงไหม
“ แกไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน ใคร ๆ เขาก็ว่ากันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ หึ แล้วนี่ยังไงถึงได้กลับมาหาแม่ได้ล่ะ พ่อแกมันเฉดหัวส่งมารึยังไงฮะ ” คุณนายตอบลูกชายพร้อมกับอมยิ้มชอบใจกับคำชมอยู่ในหน้า แต่ก็ยังคงพยายามรักษาฟอร์มเอาไว้ ยังไม่หายงอนเสียทีเดียว
“ เปล่าครับ ผมอยากกลับมาอยู่ดูแลแม่ก็เท่านั้น ผมต้องกราบขอโทษแม่ด้วยนะครับที่รั้นไปเรียนในกรุงเทพฯ ตอนนี้เรียนจบแล้วจะกลับมาช่วยงานแม่นะครับ ” เขาเข้าไปกอดเอวแม่เอาไว้ซบหน้าลงบนตักเพื่อหลบสายตาที่มีความกังวลในใจเกี่ยวกับเรื่องของพ่อ ที่เขาอยากกลับมาดูแลแม่นั่นก็ใช่ แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือเขาเบื่อกรุงเทพฯ เบื่อผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับเขามากหน้าหลายตา เบื่อพฤติกรรมแม่เลี้ยงที่มีอายุมากกว่าเขาเพียงแปดปีเท่านั้น พักหลังมานี่หล่อนมักให้ท่าเขาแปลกๆ เหมือนกับพ่อเขาอาจปรนเปรอเรื่องบนเตียงให้หล่อนได้ไม่ถึงใจด้วยวัยของพ่อก็เป็นได้
ทำให้เขาตัดสินใจบอกพ่อว่าจะขอกลับมาอยู่กับแม่เพื่อดูแลท่านอย่างถาวรและไม่กลับไปอีก ซึ่งท่านก็เข้าใจและไม่ได้ว่ากล่าวอะไร
“ ฉันนึกว่าแกจะลืมว่ายังมีแม่อยู่ซะอีก ”
คุณนายยังคงพูดจาประชดประชันอยู่เช่นเดิม ปรานต์จึงลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ แม่ของเขาแล้วกอดร่างของนางไว้แน่นพร้อมทั้งหอมแก้มแม่ซ้ายขวาสลับกันเหมือนเคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก เวลาแม่โกรธเขาจะทำแบบนี้จนกว่าแม่จะยิ้มออกมา และมันได้ผลเสมอซะด้วยสิน่า
“ พอๆๆ แกนี่นะโตจะตายยังทำเป็นเด็กอยู่ได้ เอากระเป๋าไปเก็บบนห้องแล้วอาบน้ำอาบท่าให้สบายก่อนสิ เดี๋ยวค่อยลงมากินข้าว ห้องแกที่ชั้นบนแม่ยังเก็บไว้ให้เหมือนเดิมนั่นแหละ เอ้านี่กุญแจ ”
คุณนายชื่นจิตกล่าวบอกลูกชายพร้อมยื่นกุญแจส่งให้ ลึก ๆ ในใจนั้นนางรู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่เขากลับมา นางให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องให้เขาทุกอาทิตย์ข้าวของทุกชิ้นของปรานต์ยังคงอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง เวลานางคิดถึงลูกก็จะไปนอนบนเตียงของเขาและร้องไห้จนหลับไป และในที่สุดเขาก็กลับมาเสียที
“ ครับผม เดี๋ยวผมมานะแม่ ” เขาบอกก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไปขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุดเพื่อไปยังห้องพักของเขาเอง คุณนายมองตามแผ่นหลังของลูกชายน้ำตาคลอเบ้าด้วยความดีใจที่เขากลับมา
ขณะเดียวกันนั้นระหว่างที่ปรานต์กำลังจะกดปิดประตูลิฟท์ก็ได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคน
