1 ภรรยามือใหม่
เก้านาฬิกาเศษ ผู้ชายร่างสูงกำลังยืนอยู่กลางห้องนอน เขามองไปรอบๆ ห้อง หวังจะเห็นเธอคนนั้น แต่กลับไร้วี่แวว
“ไปไหนของเขานะ”
ดวงตาคมหรี่ลงอย่างครุ่นคิด ก่อนจะสาวเท้าไปยังห้องน้ำ บานประตูห้องน้ำปิดสนิท เมื่อลองผลักบานประตู เขาถึงรู้ว่ามันถูกล็อกจากข้างใน
ชายหนุ่มผละออกมา แล้วเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้าตรงโซนด้านซ้ายมือซึ่งเขากันให้เป็นพื้นที่เก็บเสื้อผ้าและข้าวของของเธอ
เสื้อผ้าไม่กี่ชุดแขวนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มเลือกหาชุดที่เหมาะๆ แล้วนำมาวางพาดไว้บนเตียง...หากก็กวาดสายตามองเตียงนอนไปโดยอัตโนมัติ
ผ้าปูที่นอนเรียบตึง มีผ้าห่มคลุมทับไว้ครึ่งหนึ่ง มือแข็งแรงดึงมันออกมา แล้วถึงได้เห็นรอยเปรอะเปื้อนบนผ้าปูที่นอน...เธอคงตั้งใจปิดมันไว้
พลันเสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มตวัดผ้าห่มปิดร่องรอยไว้ดังเดิม เขาหันไปมองตามทิศทางของเสียง จึงได้เห็นคนที่อยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวเดินตรงมา อดที่จะกวาดสายตามองทั่วเรือนร่างของเธอไม่ได้
“พี่...เอ่อ คุณติณณ์เข้ามาทำไมคะ”
เธอออกอาการอ้ำอึ้ง ผิวแก้มขาวซีดเริ่มมีเลือดฝาด...มันน่ามอง
วินาทีแรกนั้นติณณ์กำลังจะถอนสายตา แต่พอคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขาแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาอยากจะมอง ทำไมถึงจะมองเธอไม่ได้
“เปลี่ยนเสื้อผ้า อีกครึ่งชั่วโมงลงไปข้างล่าง”
“ตอนนี้หรือคะ” ขวัญรดาหลุดปากถาม แต่พอรู้ว่าคำถามของตัวเองมันช่างประหลาด เธอจึงพยายามบอกเหตุผล “ฉันอยากขอเวลา...เอ่อ...”
“คุณอาบน้ำเสร็จแล้วใช่ไหม แต่งตัวครึ่งชั่วโมงทันหรือเปล่า”
“ทันค่ะ ฉันแต่งตัวเร็ว แต่ฉันจะต้องซักผักปูที่นอนก่อน” หน้าสาวแดงเห่อไปหมดแล้ว ติณณ์มองตามที่ใจอยากมอง เขาช่างไม่รู้เลยว่ามันยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูกไปกันใหญ่
“เดี๋ยวแม่บ้านมาจัดการเอง ที่นี่มีคนทำงานบ้าน”
“ฉันทราบค่ะ แต่มัน...”
ผ้าปูที่นอนมีคราบร่องรอยจากการโรมรันของเขาและเธอ มันน่าอายถ้าหากจะให้คนอื่นมารับรู้เรื่องนี้ด้วย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนทำงานบ้านก็ตาม แต่ดูเหมือนติณณ์จะไม่เห็นด้วย
“ครึ่งชั่วโมงลงไปข้างล่าง ผมจะรอ”
ติณณ์ชี้บอกไปยังเสื้อผ้าที่วางบนเตียง ขวัญรดาเห็นตั้งแต่แรกแล้ว ยังนึกสงสัยว่าเขาเอาเสื้อผ้าของเธอมาวางตรงนี้ทำไม...เพิ่งกระจ่างก็ตอนนี้เอง
เราต้องทำตามเขาทุกอย่างสินะ รวมถึงใส่เสื้อผ้าชุดที่เขาเลือกด้วย
ติณณ์ออกจากห้องนอนไปแล้ว ขวัญรดาหยิบเดรสสีน้ำเงินมาถือไว้ เดรสตัวนี้ถือเป็นเสื้อผ้าชุดเก่งของเธอ เธอมักเก็บไว้ใช้ในโอกาสพิเศษ มันไม่ใช่ชุดที่เธอจะนำมาสวมอยู่บ้าน แต่การเข้ามาอยู่ในบ้านเศรษฐีอย่างติณณ์ ชุดลำลองที่เธอเตรียมมามันคงยังไม่เหมาะสมกระมัง
“เดี๋ยวป้าบอกให้เด็กขึ้นไปเก็บห้องนอนให้ผมด้วย”
คำสั่งจากเจ้านายที่ประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแลบทำให้แม่บ้านที่อยู่ประจำบ้านหลังนี้รับคำเสียงเบา สีหน้าสีตาของนางเรียบเฉย คล้ายไม่ยินดียินร้าย ก่อนนางจะถามเรื่องใหม่อย่างใส่ใจ
“คุณติณณ์รับอาหารเช้าไหมคะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว เหลือแต่รอตั้งโต๊ะ”
“ไม่ครับ เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอก”
“ไปบ้านคุณพ่อหรือคะ”
ปกติติณณ์จะพักอยู่ที่บ้านของพ่อซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่เป็นธุรกิจของครอบครัว แม่บ้านจึงคุ้นกับการพักอาศัยระหว่างบ้านสองหลังของเขาอยู่แล้ว
“เปล่า ผมจะไปหาคุณแม่”
ไม่เพียงแต่แม่บ้านรู้สึกผิดคาด...คนที่เดินตามมาจากชั้นบนก็ต้องชะงักเท้าด้วย
ขวัญรดาก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองโดยพลัน มิน่าล่ะ ติณณ์ถึงเลือกเสื้อผ้าชุดนี้ให้เธอใส่ มันเป็นชุดที่สมเกียรติที่สุดสำหรับการเข้าไปพบแม่ของเขา...กระนั้นขวัญรดาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองซอมซ่อเกินไป
“มาพอดี คุณหิวหรือเปล่า หรือเราจะกินมื้อเช้าที่บ้านกันก่อน”
ติณณ์ถามหญิงสาว ทั้งที่เมื่อกี้เขาปฏิเสธแม่บ้านไปแล้วว่าจะงดอาหารมื้อเช้าที่บ้าน แต่เป็นเพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนขวัญรดาต้องรับศึกหนักอยู่เกือบทั้งคืน กว่าเขาจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว
“ฉันยังไม่หิวค่ะ”
“งั้นก็ไปกันเลย”
“ฉันขอขึ้นไปเอากระเป๋าสะพายข้างบนก่อนนะคะ”
ติณณ์ทำหน้าประหลาดใจ ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งได้สังเกตเธอจริงๆ
“เหมือนคนเพิ่งฟื้นไข้ แต่งหน้าสักหน่อยก็ดีนะ”
คล้ายคำพูดหวังดีและห่วงใย แต่มันทำให้ใบหน้าของขวัญรดาร้อนผ่าว ความรู้สึกต่ำต้อยกำลังพุ่งสูง อยากบอกเขาว่าต่อให้เธอแต่งหน้าทั้งวัน เธอก็ไม่ได้สวยไปกว่าคนรักเก่าของเขาที่มีดีกรีเป็นถึงนางงามครองมงกุฎบนเวทีใหญ่หรอก…
ขวัญรดาใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงสำหรับการพยายามทำให้ตัวเองงดงามขึ้น เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับความลังเลและไม่มั่นใจ เธอมองตัวเองจากภาพสะท้อนทางกระจก ก่อนจะยกแปรงขึ้นมาปัดบนแก้มนวลซ้ำอีกครั้ง
“พอแล้วแหละ คงไม่ดีขึ้นไปกว่านี้แล้ว”
หญิงสาวเก็บเครื่องสำอางลงในกระเป๋าแต่งหน้า มันมีเพียงน้อยชิ้น ก่อนจะหย่อนมันลงในกระเป๋าสะพาย
ขวัญรดาไม่ได้ด้อยค่าตัวเอง แต่เธอมองตัวเองด้วยสายตาเป็นธรรม เธอเกิดมาท่ามกลางผู้หญิงที่มีดีกรีความสวยการันตี ไม่ว่าพี่สาวที่เป็นถึงนักแสดงชื่อดัง แม้ระยะหลังพี่สาวของเธอจะพลาดบทนางเอกไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและความโดดเด่นก็ยังไม่แผ่ว อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นเจ้าแม่อีเวนต์ที่ถูกเรียกหาอยู่เสมอ
ส่วนอีกคนก็คือคัทลียา ญาติสาวที่มีวัยห่างจากเธอเพียงสองปี แต่เส้นทางชีวิตกลับก้าวหน้าไปไกลมากแล้ว คัทลียาเป็นถึงนางงามตัวแทนประเทศไทยที่ได้เดินทางไปประกวดนางงามบนเวทีระดับโลกซึ่งคนไทยเคยได้ลุ้นกัน ก่อนจะกลับมาพร้อมกับรางวัลที่สามารถชนะใจกรรมการจนเข้าถึงรอบห้าคนสุดท้าย
ผู้หญิงสวยมักโง่...ใครกันช่างพูดไว้
ขวัญรดาอยากค้านสุดใจว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น อย่างน้อยก็สำหรับผู้หญิงสองคนนี้ โดยเฉพาะคัทลียา นอกจากจะมีมงกุฎนางงามการันตีความสวย คัทลียายังเก่งอย่างหาตัวจับยาก เจ้าหล่อนเรียนจบได้เกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของประเทศ แถมยังคว้าปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกมาได้อีกด้วย
คัทลียาเนื้อหอม เธอมีเสน่ห์และส่องประกายอยู่เสมอ ผู้ชายหลายคนต่างหมายปองเธอ แต่สุดท้ายคัทลียาก็เลือกที่จะคบหาผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นนักธุรกิจและเป็นทายาทเศรษฐีตระกูลใหญ่ แถมยังพ่วงตำแหน่งพิธีกรรายการข่าว...ผู้ชายคนนั้นก็คือติณณ์ สามีป้ายแดงของเธอนั่นเอง