บท
ตั้งค่า

คืนแต่งงานที่แสนเหงา(1)

ตอนที่ 1

คืนแต่งงานที่แสนเหงา

“ชุดนี้สวยไหมคะคุณภีม”

กอหญ้าพยายามที่จะชวนเจ้าบ่าวของเธอพูดคุยแต่ อีกฝ่ายกลับเลือกที่จะแค่เพียงพยักหน้าด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกที่ไร้อารมณ์ยังคงจดจ่ออยู่กับงานที่กำลัง ทำถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะต้องมาเป็นเพื่อนกอหญ้าเลือกชุดแต่งงานในฐานะเจ้าบ่าวก็ตาม

“ฉันเลือกชุดเสร็จแล้วคุณภีมเลือกชุดได้เลยค่ะ”

ว่าที่เจ้าสาวรู้สึกน้อยใจแต่ก็ยังต้องฝืนทำหน้าให้มีความสุขเพราะเธอรู้ดีว่างานแต่งงานครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากความรักและคงไม่แปลกอะไรถ้าว่าที่เจ้าบ่าวจะไม่สนใจใยดีกับการเลือกชุดในวันนี้

“รบกวนทางร้านเลือกแบบที่เหมาะสมกับชุดเจ้าสาวให้ได้เลยครับ”

ภีมเดชไม่หันไปตอบสาวน้อยที่พูดกับเขาแต่เลือกที่จะเดินไปหาพนักงานของร้านก่อนที่จะกลับมานั่งทำงานของตัวเองต่อ

งานแต่งงานในครั้งนี้เกิดจากความต้องการของผู้ใหญ่ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้ต่อต้านหรือคัดค้านแต่มันก็ไม่ได้มีความรักมันมีแค่เพียงหน้าที่เท่านั้น

“งานยุ่งมากเลยหรือคะ”

กอหญ้าถึงแม้จะพยายามเก็บอารมณ์แต่เธอก็อยากพูดให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้เขาไม่ควรจะเอางานมาทำแต่ควรจะให้ความสนใจกับการเลือกชุดเจ้าบ่าวเพราะงานแต่งงานมันคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในชีวิตของใคร

ภีมเดชไม่ตอบเขาแค่เพียงพยักหน้าด้วยนิสัยที่เป็นคนเงียบขรึมยิ่งทำให้เขาพูดน้อยลงทุกทีและด้วยอายุที่ต่างกันเกือบ 20 ปีจึงทำให้เจ้าบ่าวมองเจ้าสาวเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่เขาไม่อยากอธิบายหรือตอบโต้อะไรด้วย

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นตามฤกษ์งามยามดีที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดหาบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุขแต่ไม่ใช่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมันเป็นของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรวมทั้งแขกที่มาร่วมงาน ด้วยความเหมาะสมของคนทั้งคู่ทำให้บรรดาสังคมไฮโซต่างจับจ้องมองดูคู่รักที่แต่งงานกันอย่างรวดเร็วหลายคนก็พากันพูดซุบซิบนินทาว่าการแต่งงานในครั้งนี้ก็เหมือนเรือล่มในหนองทองจะไปไหนเพราะทั้งสองครอบครัวต่างมีธุรกิจใหญ่โตและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมานาน

“พ่อกับแม่รู้ว่าลูกทั้งสองคนยังมีโอกาสเรียนรู้กันได้น้อยแต่นับจากนี้ไปชีวิตครอบครัวกำลังจะเกิดขึ้น ทั้งสองจงเรียนรู้กันบทความเข้าใจ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะ”

พ่อแม่ของภีมเดชทำหน้าที่ส่งตัวเจ้าบ่าวเห้องหอเวลานี้หัวใจของหญิงสาวมันเต้นแทบไม่เป็นจังหวะจนฟังดูคล้ายกับเสียงกลองที่ตีรัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้นซึ่งแตกต่างจากเจ้าบ่าวสีหน้าของเขาตอนนี้ยังคงนิ่งเฉยคำพูดแต่ละคำกว่าจะหลุดออกมาได้มัน ช่างยากเหลือเกิน

“หันหลังมาเดี๋ยวผมจะถอดชุดให้ เอื้อมมือเกร็งแบบนี้มันจะเป็นตะคริวได้”

เสียงทุ้มของท่านประธานฟังดูราบเรียบไร้ความรู้สึก ดังขึ้นจากทางด้านหลังของกอหญ้าที่กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกเพื่อพยายามถอดชุดแต่งงานที่มีซิปอยู่ด้านหลังด้วยความตัวเล็กของเธอกว่าจะเอื้อมมือไปได้ก็แสนจะลำบาก

“ขอบคุณนะคะ คุณภีมอาบน้ำก่อนได้เลย ฉันต้องเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้าอีกนาน”

คนบอกหวังจะได้ยินคำตอบจากเจ้าบ่าวแต่สุดท้ายก็มีเพียงแค่การพยักหน้ากับดวงตานิ่งเฉยที่ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาเธอเลยด้วยซ้ำ

เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบสนิทประตูห้องน้ำเปิดออก กอหญ้ารีบพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำ เจ้าสาวคิดว่าคืนนี้เธอกับเขาก็คงไม่ต่างจากคู่แต่งงานคู่อื่นคงจะมีความสุขบางอย่างเกิดขึ้นแต่ความฝันของเธอก็ดับวูบลงทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาที่ห้องนอนและพบเพียงความว่างเปล่า

“ผมมีงานต้องทำ...ช่วงเตรียมงานแต่งมีงานค้างไว้มาก”

ภีมเดชเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานเมื่อหันมาเห็น กอหญ้ากำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงาน เขาเข้าใจดีว่หญิงสาวคงกำลังตามหาว่าเขาหายไปไหน

“เอากาแฟไหมคะเดี๋ยวฉันไปชงให้”

อีกครั้งพี่คำถามไม่ได้คำตอบได้แค่เพียงการพยักหน้าแทนเท่านั้น กอหญ้าถึงแม้จะบอกตัวเองเสมอว่าการแต่งงานครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากความต้องการของภีมเดชแต่เธอไม่คิดเลยว่าแม้กระทั่งค่ำคืนแห่งการเข้าหอวันแรกเขาจะเฉยชากับเธอได้ขนาดนี้ด้วยอายุของเขาที่มากถึง 40 แต่ตัวเธอเองอายุแค่เพียง 24 เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับที่จะได้นอนกับภรรยาสาวอย่างเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel