4
Chapter 4
ภามขับรถพามารดามารับคุณยายช่อลดากับช่อเพชรแต่ย่ำรุ่ง เพราะต้องเดินทางไปทำบุญตั้งแต่เช้า ไปสายก็จะไม่ทันพระ
ฉันภัตตาหารในตอนเช้า วันนี้เป็นวันหยุดอีกวันของภาม บ้านสวน
ของเขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณยายช่อลดามากนัก
อาจารย์หนุ่มมองสาวน้อยหน้ามนที่เดินสงบเสงี่ยมเรียบร้อยตาม
คุณยายมาขึ้นรถไม่วางตา ยามช่อเพชรแต่งกายเช่นนี้ เธอเหมือนหญิงสาว
แสนสวย เรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่เหลือเค้าสาวน้อยจอมแสบที่ชอบป่ายปีนต้นไม้เลยแม้แต่น้อย
ช่อเพชรเป็นเด็กสาวร่างบอบบาง ใบหน้ากลมหวาน ปากนิด จมูกหน่อย แต่พอมองรวมๆ กันแล้วกลับงดงามจับตา
เขามองจมูกเล็กๆ โด่งงาม ปากสวยเป็นรูปกระจับ เธอเป็นคนตาโต
ขนตาดกหนา งอนงาม คิ้วเรียวสวย หน้าผากกว้างบ่งบอกถึงความฉลาดเฉลียว วันนี้ผมของเธอถูกเกล้าอยู่กลางกระหม่อม เปิดเผยลำคอระหงงดงาม
เขาไล้สายตามองไรผมของเธออย่างอ้อยอิ่ง เสื้อถักสีขาวอ่อนหวาน
ที่เธอสวมใส่อยู่ทำให้เด็กสาวดูน่ามองจนถอนสายตาไปไหนไม่ได้
เขากำลังนึกชมเธออยู่ในใจว่าวันนี้สาวน้อยของเขาใส่ผ้าถุงทอมือลวดลายงดงาม เข้ากับเสื้อถักลายดอกไม้เหลือเกิน แต่ยังไม่ทันไรร่างน้อย
ก็สะดุดถลามาหาเขาเสียก่อน
“อุ๊ย!” เธอตาโตเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของภามจากความซุ่มซ่าม
ของตัวเอง คนที่อ้าแขนรับเธอเอาไว้ถึงกับอมยิ้ม กำลังคิดว่าจะชม ยายเด็กน่ารักจอมซุ่มซ่ามก็ถลามากอดเขาเสียนี่...
“ตายแล้วแม่ช่อ ซุ่มซ่ามจริงเชียว” คุณยายที่ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถเรียบร้อยแล้วเอ่ยขึ้น
ช่อเพชรหน้าแดงก่ำ เธอรับรู้ได้ถึงกลิ่นกายชายที่กำลังสูดดมอยู่ กลิ่นน้ำหอมหรืออะไรสักอย่างจากกายเขามันหอมมาก เรือนกายแข็งแรงที่โอบกระชับทำให้เธอรับรู้ถึงกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่บดเบียดกับเรือนกายสาว
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบผละหนี หันรีหันขวาง ภามมองขำๆ ก่อนจะเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งด้านหน้ากับเขา
“แม่ช่อไปนั่งด้านหน้ากับพ่อภามนะ ยายจะนั่งด้านหลังกับคุณป้า” เสียงของคุณยายทำให้ช่อเพชรรีบเดินไปขึ้นรถ ภามปิดประตูรถแล้วอมยิ้ม ก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ
เธอแอบเหลือบสายตามองเขา ก่อนจะเสไปมองนอกรถเมื่อเขา
สตาร์ตรถ ขับออกไปอย่างไม่เร่งรีบนัก
ช่อเพชรแอบมองคนขับรถเป็นระยะๆ เธอได้ยินแว่วๆ มารดาของเขา
คุยกับคุณยายของเธอว่าภามกลับบ้านไปเมื่อวานแล้วท้องเสีย คุณยาย
ก็ซักถามเสียยกใหญ่ด้วยความเป็นห่วง เธอเองก็นึกห่วงเขาอยู่เหมือนกัน
แต่อีกใจก็นึกกลัวว่าเขาจะพูดถึงน้ำปลาหวานที่เธอทำให้รับประทาน
ภามตอบอย่างสุภาพว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่แน่ใจว่าไปกินอะไร
ผิดสำแดงมา เธอนึกขอบคุณที่เขาไม่ได้บอกคุณยายว่าเพราะกินมะม่วงน้ำปลาหวานของเธอ ไม่งั้นคงโดนดุหรือหยิกจนเนื้อเขียวแน่ๆ
ไม่นานทั้งสี่คนก็ถึงวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนมากนัก ภามลงไป
เปิดประตูให้ผู้ใหญ่ ก่อนจะล็อกรถแล้วช่วยถือตะกร้าใส่ข้าวของทำบุญ ถวายสังฆทานจากมารดา
“มาลัยนี้หนูช่อร้อยจริงๆ เหรอคะ สวยเหลือเกิน ฝีมือประณีตงดงาม
ไม่มีที่ติ” คุณกนกกานต์เอ่ยชม หยิบขึ้นมาพิศมองแล้วยิ้มอย่างพึงใจ
“แม่ช่อเขาร้อยมาลัยสวย ทำอาหารก็เก่ง” ภามที่เข้ามานั่งใกล้ๆ มารดาอีกด้านถึงกับสำลักกับคำว่า ‘ทำอาหารเก่ง’
“เป็นอะไรลูก” คุณกนกกานต์หันมาถามเมื่อเห็นลูกชายสำลัก
“เปล่าครับคุณแม่” เขาตอบแต่เหลือบสายตาไปมองเด็กสาว เธอ
ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเสไปมองคนที่ทยอยกันเข้ามานั่งในศาลาโรงธรรม
เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีต่างๆ ในตอนเช้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ เทศนาเสร็จ ชาวบ้าน
ก็กราบลา ก่อนจะไปจัดภัตตาหารถวาย
คุณยายเป็นที่รู้จักของคนละแวกนี้ พอถวายภัตตาหารเสร็จ พวกผู้ใหญ่ก็มาจับกลุ่มนั่งคุยกัน ช่อเพชรนั่งฟังอย่างเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เลยถือโอกาสเดินเล่นอยู่ในบริเวณวัด แถววัดนั้นร่มรื่น มีต้นโพธิ์
ต้นใหญ่อยู่ในสวนของวัดที่มีพระพุทธรูปประจำวันเกิด
เธอเข้าไปไหว้พระประจำวันเกิดของตัวเอง พอลืมตาหลังจากสวดมนต์จบ ก็เห็นภามนั่งอยู่ใกล้ๆ เขาเกิดวันพฤหัสบดี ส่วนเธอเกิดวันศุกร์
ช่อเพชรรีบลุกขึ้น ทำเรื่องน่าขายหน้ากับเขาไว้เยอะ เลยไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาตามลำพัง
“อุ๊ย!” เหน็บกิน เธอร้องในใจ ทำท่าจะเซเมื่อลุก เขาก็เข้ามาช่วยประคองเอาไว้
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะถอยหนี
“วันนี้แต่งตัวน่ารักจัง” เขาเอ่ยชม
“คะ?” เธอเงยหน้าขึ้นมอง แล้วแก้มร้อน บ้าน่า คนแก้มร้อนด่าตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองไปมา
“คุณอามีอะไรคะ”
“ไม่มี อามาเดินเล่น สูดอากาศน่ะ”
“เมื่อวานท้องเสียเหรอคะ” ช่อเพชรอยากตบปากตัวเอง ไปชวนเขาคุยเรื่องเมื่อวานทำไม เดี๋ยวก็เข้าตัวอีกหรอก
“ครับ ท้องเสียนิดหน่อย แล้วช่อล่ะ สะดุดขาตัวเองหัวทิ่มลงในตุ่ม
เป็นยังไงบ้าง” เธอได้ยินเขาถามแบบนั้นก็เผลอค้อนเสียวงใหญ่ แต่พอสบตาคมเข้มและสีหน้ารู้ทันของเขาทำให้เธอต้องเดินหนี
“จะไปแล้วเหรอ”
“พระน่าจะฉันอาหารเสร็จแล้วค่ะ ช่อหิว” เธอตอบเขาแล้วรีบเดิน
พอเดินมาถึงเก้าอี้ที่คุณยายนั่งอยู่ก็เป็นจริงตามนั้น คุณยายกวักมือเรียกเธอ
ไปยกอาหารมากมายมานั่งล้อมวงรับประทานกัน ภามตรงเข้าไปช่วย และเขา
ก็ได้นั่งลงใกล้ๆ กับเธอ
ช่อเพชรมองผัดขิงที่ภามตักให้อย่างขอบคุณ เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยากกิน แต่มันอยู่อีกด้าน เธอเลยเอื้อมไม่ถึง พอเงยหน้าขึ้นมองเขาก็กดยิ้มมุมปาก เธอกล่าวขอบคุณเบาๆ
หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ทั้งหมดก็ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาด จริงๆ มีคนทำความสะอาดห้องครัวอยู่แล้ว แต่ชาวบ้านมักจะช่วยกันอย่างมีน้ำใจ
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ภามก็ควบรถออกจากวัดด้วยความเร็วไม่มากนัก ช่อเพชรได้ยินคุณยายชวนสองแม่ลูกไปที่บ้าน วันนี้ได้ข่าวว่าจะทำเมี่ยงคำรับประทานกัน
พอมาถึงบ้าน ป้าแมวก็เก็บใบชะพลูอ่อนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คุณยาย
ลงครัว เคี่ยวน้ำราดเมี่ยงคำด้วยตัวเอง ส่วนประกอบอื่นๆ ได้แก่ขิง หอมแดงซอย มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ถั่วลิสง และมีพริกสดๆ อีกจำนวนหนึ่งถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย
“หนูช่อนี่น่ารักจริง ดูสิคะ จัดการหั่นเครื่องเคียงเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าๆ กัน
แลดูน่ากินเชียว” เรื่องความละเอียดเรียบร้อยนั้นเธอไม่เป็นสองรองใคร เพราะถ้าทำอะไรลวกๆ ได้โดนคุณยายดุเอา ดีไม่ดีโดนหยิกเนื้อเขียวเสียอีก
คุณยายชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็เรียนรู้ที่จะทำมัน
ให้สวยงามอย่างที่ท่านต้องการ แต่อีกมุมก็ยังแอบซนบ้างอะไรบ้าง ตามประสาเด็กที่อยู่นิ่งๆ ไม่เคยได้
หลังรับประทานเมี่ยงคำเรียบร้อยแล้ว คุณยายกับคุณกนกกานต์
ก็นั่งสนทนากันเรื่องไปปฏิบัติธรรม ช่อเพชรได้โอกาสก็รีบเอ่ยขอตัว
ทันที ภามเองก็เช่นกัน เขาเดินตามเด็กสาวลงมาหลังจากนั้นไม่นาน แต่กลับไม่เห็นเธอเสียแล้ว ก่อนจะมานั่งเล่นอยู่ที่ศาลาด้านหลังบ้าน
ที่ติดกับบึงบัว
สายลมเย็นๆ ทำให้เขาเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยิน
เสียงน้ำตูมใหญ่ พอชะโงกหน้าไปมองก็เห็นเด็กสาวทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำ
เธอกำลังว่ายน้ำอย่างมีความสุข เขาถึงกับอมยิ้ม พอมองอีกรอบ เด็กสาวดำน้ำหายไปอีกแล้ว
“คุณยายให้เอาชาร้อนๆ มาให้คุณภามค่ะ” ป้าแมวยกชาและของว่างมาเสิร์ฟ ก่อนจะเอ่ยขอตัว
ภามยกชาขึ้นมาจิบก่อนจะสำลัก ชาแทบพุ่งออกจากปากเมื่อเด็กสาวทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำ แต่รอบนี้ปีนขึ้นมาบนฝั่ง เธอยืนบิดกายไปมา เนื้อตัวเปียกปอนทำเขามองตาไม่กะพริบ