บทที่ 12
เมื่อได้ยินว่านางต้องการพบหมอ หลี่จินหมิงก็รีบรุดไปยังเรือนเล็กทันที ยามนั้นท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว แต่เขาไม่ใส่ใจเรื่องความเหมาะสม อย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา คงไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวหาว่าทำเรื่องอันไม่สมควร
หลังจากเดินกึ่งวิ่งอยู่ไม่นาน หลี่จินหมิงก็พบว่าตนเองอยู่หน้าเรือนเล็กที่มีแสงตะเกียงส่องสว่างมาจากด้านในแล้ว เขามองสาวใช้เจียอีที่เดินออกมาพร้อมกับถาดอาหาร ข้าวในถ้วยพร่องไปเพียงครึ่ง ส่วนกับข้าวสองอย่างยังเต็มจาน
เสวียนหนิงอันเลือกกินอย่างมาก เขาลืมเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“นางกินเพียงเท่านี้ทุกวันเลยหรือ”
“ไม่ทุกวันเจ้าค่ะ วันไหนอาหารรสจัดฮูหยินน้อยจะกินได้สักหกส่วน แต่วันนี้พ่อครัวทำอาหารจืดชืด…”
เจียอีไม่กล้าพูดต่อ พ่อครัวที่มาใหม่นั้นเป็นใบ้ ทำอาหารได้ไม่ถูกปากฮูหยินน้อยนัก นางไม่แน่ใจว่าเหตุใดพ่อครัวเดิมรวมทั้งสาวใช้เกินกว่าครึ่งถึงได้ถูกส่งตัวไปยังจวนของท่านเสนาบดีชรา บิดาของนายท่านสกุลหลี่ แต่ให้เดาคงไม่พ้นเรื่องที่นายท่านแต่งภรรยาอายุน้อยเข้าบ้าน
“นางชอบกินขนม หากวันใดกินข้าวได้น้อยก็จัดหาขนมมาให้เยอะหน่อย ยามค่ำหิวขึ้นมาจะได้ไม่อาละวาด”
“เจ้าค่ะนายท่าน แต่วันนี้ฮูหยินน้อยดื่มน้ำเต้าหู้แล้ว คงไม่หิว…”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ!” หลี่จินหมิงจำได้ว่านางแพ้ถั่วเหลือง พอได้ยินเจียอีกล่าวเช่นนั้นก็ผลุนผลันเข้าไปในเรือนเล็กทันที
“หนิงเอ๋อร์!” เขาได้ยินเสียงหวานอุทานอย่างตกใจดังมาจากด้านหลัง จึงรีบวิ่งไปอย่างว่องไว รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนกำลังจ้องมองสตรีที่ซ่อนเรือนร่างของนางไว้ในถังไม้อย่างสุดความสามารถ แต่ถังไม้เล็กเพียงเท่านั้นย่อมมิอาจปิดบังความงดงามได้ครบทั้งสิบส่วน
หัวไหล่เนียนขาวตรึงสายตาหลี่จินหมิงไว้อย่างง่ายดาย เขาถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ กะพริบตาแทบไม่ได้ แต่สิ่งที่อันตรายกว่าผิวขาวดุจไข่มุกราตรีคือดวงหน้าหวานที่มีหยดน้ำคลอเคลียอยู่ ยังมีพวงแก้มแดงปลั่งชวนหยิกที่ทำให้คันยุบยิบไปทั้งหัวใจ
หลี่จินหมิงเผลอไผลเนิ่นนาน จนกระทั่งสบประสานสายตาที่มองมาอย่างหวาดหวั่น เขาจึงหันหลังให้นางทันที
“อาบน้ำอยู่หรือ” หลี่จินหมิงอยากตบปากตนเอง เห็นชัดอยู่เต็มสองตาไยยังกล้าถามออกไปอีกเล่า
“ท่านอาควรออกไปข้างนอกมิใช่หรือเจ้าคะ”
คำถามกึ่งประชดของสาวงามในวัยสิบหกปีทำให้หลี่จินหมิงก้าวขาได้รวดเร็วดียิ่งนัก!
นับตั้งแต่มีชีวิตผ่านมาได้สิบหกหนาว สถานการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมานับว่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเสวียนหนิงอันแล้ว นางมิแน่ใจว่าควรกรีดร้องโวยวาย ไล่บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตนไปให้พ้น หรือขอร้องอย่างมีมารยาทว่าต้องการอาบน้ำตามลำพังดี แต่พอเห็นเขาหันหน้าหนีนางก็พลันรู้สึกขุ่นเคืองใจขึ้นมา
ไม่เคยมีบุรุษใดเบือนหน้าหนีเสวียนหนิงอัน!
ทีแรกนางอยากแกล้งให้รอสักครึ่งชั่วยาม อ้างว่าต้องบำรุงผิวพรรณให้งดงามน่าสัมผัส สุดท้ายกลับมิอาจทำได้ดั่งใจหวัง เพราะความผิดที่ก่อไว้มิอนุญาตให้ทำตามอำเภอใจได้อย่างที่เคย
แต่กระนั้นนางก็ยังอยากเอาคืนสักหน่อย
“ปล่อยให้ท่านอารอนาน หนิงเอ๋อร์เสียมารยาทแล้ว”
นางเดินเข้ามาในห้องรับรองแขกที่เขานั่งรออยู่ ร่างบอบบางยามนี้สวมเพียงเสื้อตัวใน ทว่ามีผ้าปักลายสวยงามคลุมไหล่บางเอาไว้เพื่อป้องกันคำดุด่าไม่น่าฟัง ผมดำขลับที่มักปล่อยสยายมีผ้าผืนเล็กมัดไว้อย่างหลวม ๆ มองดูแล้วให้ความรู้สึกเย้ายวนไม่ต่างจากนางจิ้งจอกในนิทาน
หากคนภายนอกได้เห็นอาจคิดว่าเสวียนหนิงอันตั้งใจยั่วยุอารมณ์ของสามี แต่สำหรับนางแล้วการแต่งตัวไม่เรียบร้อยเป็นเพียงการกลั่นแกล้งให้เขาโมโหมากขึ้นสักหน่อยก็เท่านั้น
นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่สนใจ ทั้งยังถามไถ่นางอย่างมีน้ำใจยิ่ง!
“หากไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ สวมใส่ ข้าให้ซุนหยามาวัดตัวเจ้า ดีหรือไม่”
“อย่าสิ้นเปลืองไปเลยเจ้าค่ะ ความจริงข้าพอมีเสื้อผ้าสวมใส่อยู่บ้าง แต่เพราะกลัวว่าท่านอาจะรอนานจึงผลุนผลันออกมาโดยมิทันคิด… ท่านอาอย่าโกรธที่ข้าแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยนะเจ้าคะ”
“ช่างเถิด เป็นข้าไม่ดีเอง มาหาเจ้าโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า… ได้ยินว่าเจ้าดื่มน้ำเต้าหู้ไป ไม่รู้สึกหายใจลำบากหรือมีผื่นแดงตามร่างกายใช่หรือไม่”
หลี่จินหมิงตกตะลึงกับความงามของภรรยาจนแทบละสายตาไม่ได้ แต่คำถามแฝงความไม่พอใจทำให้เขาได้สติและลนลานออกจากห้องอาบน้ำ หากผู้ใดเห็นคงกล่าวว่าอากัปกิริยามองแล้วไม่สมกับเป็นพ่อค้าสกุลหลี่ที่น่านับถือ ยามนี้เขาจึงพยายามนึกถึงเพียงเรื่องที่ทำให้ต้องมาพบภรรยาลับตั้งแต่แรกเป็นสำคัญ
เสวียนหนิงอันร่างกายไม่แข็งแรง ถูกลมเย็นนิดเดียวก็ล้มป่วยแล้ว
เขาจำได้ดีว่ามารดาของนางมีภาวะเสี่ยงในยามตั้งครรภ์ ต้องนอนนิ่งอยู่บนเตียงนานหลายสัปดาห์ และหลังจากประคบประหงมดูแลจนกระทั่งอายุครรภ์ได้เจ็ดเดือน ทารกน้อยเสวียนหนิงอันจึงลืมตาออกมาดูโลก เติบโตเป็นสาวงามที่มีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล เผลอไผลยามใดก็รู้สึกราวกับถูกสะกดให้ลุ่มหลงอยู่ในภวังค์อันงดงาม
“ท่านอาเจ้าคะ ได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่”
“เจ้า… เจ้าว่าอย่างไรนะ” หลี่จินหมิงตกอยู่ในภวังค์ที่ว่านั่นแทบทุกครั้งที่เจอนาง
