บทที่ 3-1
“ตาชายเย็นนี้อย่าลืมนัดกับน้องหญิงนะลูก”
คำเตือนของมารดาที่ผ่านมาทางโทรศัพท์ ในตอนสายของวันทำงาน ทำให้ม.ร.ว.จิรสินถึงกับหน้าบึ้งไปทั้งวัน เลขานุการของเขาถึงกับหน้าเสีย เมื่อถูกเอ็ดเอาเป็นรอบที่สามของวันแล้ววันนี้
“คุณชายเป็นอะไรก็ไม่รู้นะเธอ”
เลขานุการของม.ร.ว.หนุ่มหน้าเซียว เมื่อเพื่อนอีกแผนกหนึ่งเอาเอกสารมาให้ เพื่อนพนักงานนางนั้นก็ทำหน้าแหยๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจ้านายของพวกเธอเคยอารมณ์เสียทีไหนกัน ออกจะนิ่ง ยิ้มใจดีอย่างเดียว งานนี้หัวเสีย น่ากลัวจะมีเรื่องร้อนหนัก
“อยู่ห่างๆ ไว้ก่อนก็แล้วกันนะกนก น่ากลัวเอามากๆ ลองคุณชายหน้าบูดแบบนี้”
“คุณกนกรัตน์ เอกสารที่ผมสั่ง หาให้ได้หรือยัง เวลาทำงานนะตอนนี้ ไม่ใช่เวลาพัก”
เสียงกัมปนาทดังขึ้น ทำเอาสองสาวสะดุ้งโหยง ม.ร.ว.จิรสินยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อเปิดประตูออกมา เจอสองสาวกำลังพูดกันอยู่ เล่นเอาถึงกับเผ่นไปคนละทาง ถ้าเป็นวันอื่นเขาคงไม่ดุขนาดนี้ แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ วันที่ชายหนุ่มอารมณ์เสียที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
จะไม่ให้อารมณ์เสียได้อย่างไรกัน สองเดือนที่ผ่านมานี่เขาถูกเคี่ยวเข็ญจากมารดาอย่างหนัก เรื่องเกี่ยวกับม.ร.ว.วริศรา ดูท่าทางว่างานนี้หม่อมเจ้าสร้อยสุคนธ์จะเอาจริงเอาจังเสียด้วย ถ้าเขาขัดใจท่านก็รังแต่จะทะเลาะกัน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ชอบความบาดหมางนี้ เพราะท่านค่อนข้างจะช่างเสียดสีประชดประชันนักเวลางอนเขา มันทำให้เขาอยู่ไม่ค่อยจะสงบสุข จึงต้องยอมตามใจท่านในเรื่องการไปรับหญิงสาวทานข้าว ออกไปข้างนอก ไปงานสังคมด้วยกัน
จนตอนนี้ในคอลลัมซุบซิบไฮโซ กำลังล้อเลียนเรื่องเขาและม.ร.ว.หญิงแสนสวย แสนดีในสายตาสังคม ว่าเป็นคู่รักที่สมกันนัก ราวกับกิ่งทองใบหยกกันเลยทีเดียว
ถ้าเธอเป็นแบบนั้นจริงๆ บางทีเขาอาจจะไม่ต้องมารู้สึกกระอักกระอ่วน เวลาที่มองเธอทำกิริยาเรียบร้อยนุ่มนิ่ม เพราะสิ่งที่เขาเห็นคลับคืนนั้นยังติดตาไม่หาย ม.ร.ว.สาวเป็นคนสองบุคลิก ต่างกันลิบลับราวกับขาวและดำ ซึ่งแน่นอนว่าเขาเชื่อว่าผู้หญิงสาวแสนจะร้อนแรงคืนนั้น คือตัวตนที่แท้จริงของม.ร.ว.สาวอย่างไม่ต้องสงสัย
“เฮ้อ...กลุ้มจริงๆ จะทำยังไงดีวะเรา ขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ล่ะก็ มีหวังเราต้องได้ยอมตามใจท่านแม่ไปตลอดแน่ๆ ถ้ายังขืนพูดไม่ออกเวลาท่านขอร้องแกมขู่แบบนี้ เฮ้อ...”
ม.ร.ว.หนุ่มเอนพิงกับพนักอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเม้มริมฝีปาก เขาไม่อยากเล่นไปตามเกมของผู้ใหญ่ เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว และยิ่งกับผู้หญิงน่ากลัวอย่างม.ร.ว.วริศราด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่
แต่เขาจะทำอย่างไรดีนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งพานให้หงุดหงิด จนคนอารมณ์เย็นแบบเขากลายเป็นคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดจนลงกับทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ไปเสียแล้ว ความกดดันมันบีบเค้น จนชายหนุ่มหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ได้แต่นั่งเครียด อย่างไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี เพราะเจ้าเพื่อนทั้งสามคนเคยปรึกษาแล้ว แต่ละคนบอกว่าเขาวิตกจริตเกินไป ส่วนหนึ่งหนุ่มที่ยังโสดอย่างอนันต์พล ยุให้เขาสานไมตรีต่อ เพราะม.ร.ว.สาวช่างฮอทเสียเลยเกิน
ถ้าเขาอยากได้ผู้หญิงมาเพื่อการแบบอื่น ไม่ใช่เอามาเป็นแม่ของลูกแล้วล่ะก็ เขาคงจะสานสัมพันธ์นั้นแน่ๆ เพราะจะอย่างไรแล้วม.ร.ว.จิรสินก็เป็นผู้ชายเต็มตัว เลือดเนื้อยังร้อนแรงตามประสาคนหนุ่ม เพียงแค่เขาไม่มักง่าย คนที่เป็นอันตรายต่อความโสดแล้ว เขาคงจะไม่เข้าไปข้องแวะเป็นอันขาด
แล้วจะไปปรึกษาปัญหาละเอียดอ่อน ที่มันคับข้องใจนักนี่กับใครดีนะ ชายหนุ่มกุมขมับ นึกไล่เรียงถึงชื่อของคนสนิทที่ไว้ใจได้ไปเรื่อยๆ สายตาของเขาเหลือบไปดูบนชั้นบิวท์อินด้านหลัง ที่มีของโชว์กระจุกกระจิกอยู่ เมื่อเห็นกรอบรูปที่มีภาพเขาและหญิงสาวหน้าหวานยืนเคียงกัน ม.ร.ว.จิรสินก็ยิ้มกว้างทันที จึงดีดนิ้วเปาะ ในที่สุดก็คิดออกว่า จะไปปรึกษาใคร
“จริงสินะ เราลืมน้องเทียนไปได้ยังไงกันนี่ เรื่องแบบนี้ต้องน้องเทียน คงจะช่วยเราได้แน่ๆ”
ทันทีที่นึกได้ เขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะกดโทรออก สายก็เรียกเข้ามาเสียก่อน แถมเป็นคนที่เขากำลังคิดถึงด้วยความกลุ้มอยู่ด้วยซ้ำ สงสัยจะอายุยืนแน่ๆ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะรับสายเสียงทุ้ม
“ครับ น้องหญิง”
“พี่ชายไม่ลืมนัดของเราเย็นนี้ใช่ไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยมาตามสาย ชายหนุ่มถึงกับเม้มริมฝีปาก แทบจะเผลอถอนใจด้วยความกลุ้มออกไปเสียแล้ว ดีแต่ว่ายั้งไว้ทัน
“ครับ เดี๋ยวพี่จะไปรับที่กองก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ หญิงเอารถไปเองดีกว่า เจอกันที่โรงแรมนะคะ หญิงกลัวพี่ชายจะลืมนัดของเราก็เลยโทรมาเตือนน่ะค่ะ เห็นรอบก่อนพี่ชายก็มัวแต่ประชุมจนให้หญิงรอเก้อ”
เสียงนั้นเหมือนตัดพ้ออย่างมีจริต ม.ร.ว.หนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วตัดบท ก่อนที่เธอจะพูดจาออดอ้อนอะไรไปมากกว่านี้ เขายิ่งรู้จักม.ร.ว.วริศราก็ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายมีลับลมคมในอย่างแปลกประหลาด จนไม่น่าจะพาตัวไปถลำลึกด้วย
“แค่นี้นะครับ เอ่อ...พี่มีงาน”
“อย่าลืมนะคะ ถ้าเราไม่เจอกันเย็นนี้ก็คงจะอีกเดือนหนึ่งเลย เพราะหญิงต้องไปถ่ายละครที่เมืองนอก คิดถึงพี่ชายแย่”
เสียงหวานยังหยอดคำพูดชวนให้หลงปลื้มตามอีกเล็กน้อย แล้ววางสายไป ทิ้งให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ พลางส่ายหน้าน้อยๆ
“น้องหญิงต้องการอะไรจากพี่กันแน่นะ แต่ที่แน่ๆ คงจะไม่ได้ปลื้มพี่หรือว่าหลงพี่อย่างที่แสดงออกหรอก สายตาบางทีมันฟ้องสิ่งที่อยู่ในใจคนได้นะ ไม่ว่าจะเก่งเรื่องการแสดงแค่ไหนก็ตามที แต่ตบตาพี่ไม่ได้หรอกน่า”
..........................................................................................................................................................
“อาหารที่นี่อร่อยมากเลยนะคะ แถมบรรยากาศก็เป็นส่วนตัวมาก หญิงไม่ค่อยชอบหรอกนะคะ เวลาที่ไปไหนแล้วมีใครต่อใครจ้องมอง มันรู้สึกว่าอึดอัด”
เสียงหวานเอ่ยชวนสนทนาขึ้น หลังจากที่เขาและเธอรับประทานอาหารในร้านหรู บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมระดับห้าดาวกันไปได้สักพัก
อาหาร และบรรยากาศ สมกับราคาของมันนัก ที่แพงมหาโหด ซึ่งแม้ว่าม.ร.ว.หนุ่มจะไม่สะดุ้งสะเทือนที่จะต้องจ่าย แต่เขาก็ไม่ค่อยชอบจะเอาเงินมาละลายเล่นแบบนี้ อาหารที่วังฉัตรแก้ว ฝีมือของแม่ครัวอย่างป้าพิกุลอร่อยกว่าเยอะ เขาไม่ชอบอาหารฝรั่งนัก หากแต่ม.ร.ว.สาวชื่นชอบนักหนา เธอทำท่าเหมือนจะไม่ค่อยชอบรับประทานอาหารไทยเสียด้วยซ้ำ
ทั้งที่เวลาไปที่วังชยาของเธอ อาหารที่ขึ้นโต๊ะก็เป็นอาหารไทย แถมเป็นอาหารที่หม่อมเจ้าวรรธ์มารดาเธอ อวดอ้างว่าเป็นฝีมือของบุตรสาวอีกด้วย จนหม่อมเจ้าสร้อยสุคนธ์ต้องขอสูตรแสนอร่อยนั่นกันบ่อยๆ เลยทีเดียว
“ครับ พี่ก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เวลาที่เป็นข่าวกับน้องหญิง” เขารีบพูดต่อเมื่ออีกฝ่ายทำสีหน้าพิกล
“พี่กลัวน้องหญิงจะเสียหายน่ะครับ น้องหญิงเป็นถึงนางฟ้าของวงการบันเทิง คงจะไม่ดีนักถ้าเป็นข่าวด่างพร้อย”
“แหม...”
หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างมีจริต นัยน์ตาหวานนั้นวาวระยับ มือนิ่มเอื้อมคว้ามือเขามาจับไว้ บีบเบาๆ ไล้หลังมือเขาอย่างอ้อยอิ่ง จนม.ร.ว.จิรสินแทบจะชักมือกลับเพราะตกใจกับอาการของเธอ ไม่ใช่ว่าเขาจะทำสะดิ้งเป็นพ่อเนื้อทองที่แตะต้องไม่ได้หรอกนะ แต่ภาพลักษณ์ของเธอที่แสดงออกมาให้เห็นตลอดสองเดือนว่าเป็นคนเรียบร้อย กุลสตรีไทยเต็มขั้นขนาดนั้น ไม่น่าจะมาจับไม้จับมือผู้ชายก่อนแบบนี้
“ถ้าเป็นข่าวกับพี่ชาย หญิงยินดีมากๆ ค่ะ เดี๋ยวเราไปต่อกันไหมคะ หญิงยังไม่อยากกลับบ้านเลย”
เอาล่ะสิ! หรือว่าตัวตนอีกแบบของเจ้าหล่อนกำลังจะเผยออกมากันนะ
ชายหนุ่มหรี่ตา แล้วเขาก็อยากจะรู้นักว่าสรุปแล้วคนตรงหน้าเป็นคนแบบไหนกันแน่
“ได้สิครับ”
ม.ร.ว.หนุ่มตอบ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเขาจับจ้องเธอไม่ยอมหลบ อีกฝ่ายทิ้งสายตาให้เขาอย่างท้าทาย ก่อนจะเรียกบริกรมาเพื่อสั่งของหวานเพิ่มเติม
ดูเหมือนว่าวันนี้ หญิงสาวจะไม่ได้ทำตัวเป็นคนขี้อาย น่ารักเหมือนที่เคยทำ หากแต่เป็น ม.ร.ว.วริศราในอีกรูปแบบหนึ่ง เธอเกาะแขนเขา พร้อมกับเบียดเนื้อนิ่มเข้าหาเขาอย่างจงใจเสียด้วย เอาล่ะเขาจะเล่นตามเกมของเธอไปสักพัก เพื่อจะดูว่าอีกฝ่ายจะเอาอย่างไรกันแน่
เสียงเพลงในคลับที่เธอพาเขาเข้ามาเป็นเพลงเบาๆ เพราะๆ ม.ร.ว.วริศราดูเหมือนจะไม่ใคร่มีสมาธินัก เพราะเจ้าตัวมองซ้ายแลขวาตลอดเวลา จนชายหนุ่มต้องกระแอม เพื่อเรียกความสนใจจากเธอ หลังจากที่เรียกเธอมาแล้วสองสามครั้ง แต่หญิงสาวไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่จดจ่อสมาธิอยู่ที่อื่น
“ค่ะ พี่ชาย ขอโทษนะคะ สงสัยหญิงจะมึนๆ ค็อกเทล ปรกติไม่ค่อยดื่มน่ะค่ะ”
เธอแก้ตัวเสียงหวาน แล้วยกแก้วที่มีน้ำสีฟ้าใสประกอบ ทำหน้าตาได้ดูน่ารักหวานใสนัก จนเขานึกหมั่นไส้
ชายหนุ่มอมยิ้ม จำได้ว่าคืนนั้นเขาเห็นเธอดื่มเหล้าเสียด้วยซ้ำ ยังไม่พอ เจ้าตัวยังสูบบุหรี่อีกต่างหาก เฮ้อ...แม้แต่ในชีวิตจริง เธอก็ยังจะแสดงตัวเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ แล้วเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่า เธอหวังอะไรจากเขากันแน่
“พี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
ชายหนุ่มว่า แล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินจากไป ทิ้งม.ร.ว.สาวไว้ตามลำพัง ทันทีที่คล้อยหลังเขาแล้ว มือเรียวก็คว้าโทรศัพท์แล้วกดหมายเลขที่ต้องการ เมื่อปลายสายรับ เธอก็กรอกเสียงเกรี้ยวกราดลงไปทันที
“มาหรือยังยะ รออยู่นะ”
“ใจเย็นๆ สิ ฉันพึ่งจะได้ยามา ว่าแต่ว่า คืนนี้เผด็จศึกเลยใช่ไหมเนี่ย ยายหญิงวิว”
ปลายสายตอบมาพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก เล่นเอาม.ร.ว.สาวอมยิ้ม
“อืม มาด่วนเลยนะ ขืนนานไปกว่านี้จะเป็นเรื่องเอา ท่านแม่ยิ่งสงสัยอยู่ แล้วยิ่งพวกในกองละคร บางคนก็ปากยาวนัก น่าตบจริงๆ เห็นฉันมีอาการแปลกๆ กินอะไรแปลกๆ พวกมันก็ซุบซิบกันใหญ่ ฉันกลัวว่าจะไปถึงหูของพวกนักข่าวเข้า ข่าวเสียๆ แบบนี้ยิ่งดังเร็วอยู่ด้วยสิ”
“เอาน่า ใครใช้ให้หล่อนสนุกจนได้ดีล่ะย่ะ แถมตอนไปปาร์ตี้กันกับคณะนายแบบสุดหล่อ ล่ำ บาดใจนั่นก็ไม่ยอมชวนฉันไปด้วย สมน้ำหน้า”
“พูดมาก เร็วๆ เข้า จะยังไงวันนี้ก็พลาดไม่ได้ ห้ามเกินสิบนาทีนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะทวงเงินที่เธอยืมไปนะยายปูเป้”
“โอ๊ย! ไม่ต้องลำเลิกหรอกย่ะ บุญคุณหล่อนมันล้นหัวฉันจะแย่แล้ว คุณหม่อมราชวงศ์หญิงวริศรา ว่าแต่ฉันต้องอยู่ช่วยเธอจนถึงตอนไหนกันเนี่ย?”
“ช่วยกันหามพี่ชายก่อนสิ แล้วค่อยกลับ เดี๋ยวให้ค่าเหนื่อยสามพัน พอไหม?”
ข้อเสนอนั้นทำให้อีกฝ่ายรีบเร่งเครื่องรถที่กำลังขับอยู่ทันที
“ได้เลย อีกไม่เกินสิบนาทีเจอกัน อย่าลืมสามพันนะยะ”
“ยายงก เชอะ! นี่ถ้าไม่พลาด ฉันก็คงไม่ต้องมาวุ่นวายขอร้องหล่อนแบบนี้หรอกน่า”
ม.ร.ว.หญิงเบ้ปาก มือลูบหน้าท้องของตนเองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ยังไงเราก็ต้องทำให้สำเร็จ ขืนช้าไปกว่านี้จะไม่ทันการแน่ๆ ได้พี่ชายมาเป็นสามี ได้ทั้งเงินได้ทั้งผู้ชายที่เพอร์เฟค มันก็ต้องใช้เล่ห์กลกันหน่อยล่ะ”