บทที่ 6
นี่หรือชีวิตเลิศหรูที่ทุกคนใฝ่หา แต่ทำไมเธอถึงหาความสุขไม่ได้เลย มีเงินมากมายก็ซื้อความสุขให้กับตัวเองไม่ได้ แต่ยังมีดีอยู่อย่างหนึ่งคือซื้อชีวิตของแม่เธอได้
เช้าวันต่อมา.. และเป็นวันเดียวกับงานเลี้ยงสโมสร
งานเลี้ยงจัดขึ้นแทบจะทุกเดือน เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนมียศมีศักดิ์มีหน้ามีตาในสังคม
แกร็ก..
"คุณผู้หญิงรออยู่ที่รถค่ะ"
สโรชาไม่ได้พูดอะไรแค่เดินตามลงมาเงียบๆ
"ดูหน้าสิโทรมหมดแล้ว" มือที่ผ่านการดูแลมาอย่างดี ไม่ยอมปล่อยให้กาลเวลาทำร้ายผิวหนังของตัวเองได้ เอื้อมไปลูบคลำใบหน้างามของผู้หญิงที่นางเรียกว่าลูก "วันนี้คงได้ทำหลายอย่าง ขึ้นรถสิจ๊ะ"
"ค่ะ" หญิงสาวตามขึ้นไปบนรถ แล้วก็นั่งอยู่แบบเงียบๆ จนรถคันนั้นวิ่งมาจอดที่ร้านเสริมความงามสุดหรูแห่งหนึ่ง
"ฉันโทรมาจองคิวไว้แล้วไม่ใช่เหรอ"
"แต่ทางคุณกรองแก้วก็โทรมาจองเหมือนกันค่ะ"
"ฉันไม่เอาช่างตาสีตาสานะ หาช่างที่เก่งที่สุดมาดูแลความงามของลูกสาวฉัน"
"ได้ค่ะ..ทางร้านของเราคัดสรรแต่ช่างที่มีฝีมือทั้งนั้นค่ะ"
"อ้าวนึกว่าเสียงใคร เสียงคุณผกาแก้วนี่เอง..ดูใจเราจะตรงกันจังเลยนะคะ"
"เรียกว่าคิดเหมือนกันจะไม่ดีกว่าเหรอ..คะ" ผกาแก้วดูท่าทางไม่อยากเจรจากับอีกฝ่ายเลย
"เชิญคุณทั้งสองนั่งก่อนค่ะ" เจ้าของร้านเสริมความงามแห่งนี้รู้ดีว่าทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน
"ยังไงลูกสาวฉันต้องสวยที่สุดนะคะ"
"ลูกสาวฉันก็เหมือนกัน"
"รับรองเลยค่ะ คุณหนูทั้งสองต้องสวยเริ่ดแน่นอนค่ะ"
"ยืนทำอะไรอยู่ล่ะเข้าไปสิลูก" ผกาแก้วเห็นว่าสโรชายืนมองออกไปด้านนอกแบบลุกลี้ลุกลน กลัวว่าจะหนีงานเย็นนี้ ก็เลยเป็นคนพามาเสริมความงามเอง
"ค่ะ" เธอแค่มองดูว่าร้านขายยาแถวนี้มีไหม ถ้าเขาป้องกันสักนิด เธอคงไม่คิดมากขนาดนี้
พอนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ สโรชาก็ส่งยิ้มหวานเพื่อทักทายคนที่นั่งอยู่ก่อน เธอคนที่นั่งอยู่ก่อนกำลังจะยิ้มตอบ แต่พอมองกระจกเห็นสายตาของผู้เป็นแม่มองมาก็เลยต้องได้หุบยิ้มไว้
สโรชาก็เลยต้องยิ้มแห้งๆ เพราะ คนข้างๆ ไม่ยอมทักทายกลับ
"สงสัยต้องไปงานเดียวกันแน่เลยใช่ไหมคะเนี่ย" ช่างเสริมสวยเริ่มชวนคุย
ทั้งสองที่นั่งอยู่หันหน้ามองกันแบบไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ไม่มีใครตอบ
"พี่อยากไปแบบนี้บ้าง หนุ่มๆ ในงานคงหล่อๆ ทั้งนั้น" เพราะเป็นงานไฮโซ คนด้านนอกไม่ได้เข้าไปสัมผัสหรอก นอกจากแวดวงเดียวกัน
กว่าทุกอย่างจะออกมาเลิศหรู Perfect ก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง
"คุณแม่คะ โรสขอไปทำธุระแถวนี้แป๊บหนึ่งได้ไหมคะ"
"ธุระอะไร" ผกาแก้วไม่ค่อยสบอารมณ์ที่ลูกสาวของอีกฝ่ายแต่งตัวออกมาได้สวยไม่แพ้กันเลย
"ไม่มีอะไรค่ะ" เห็นอารมณ์นั้นของนางแล้วเธอก็เลยต้องได้เงียบ
[หน้าโรงแรมหรูที่ใช้จัดงาน]
สโรชาและคนที่เธอเรียกว่าแม่นั่งรออยู่หน้ารถมาได้สักพักแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่าทำไมถึงยังไม่ลงรถ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นอีกนั่นแหละ เหตุผลของนางคือยิ่งเข้าไปในงานช้าก็ยิ่งเป็นจุดสนใจ
"ได้เวลาแล้ว จำไว้นะ ตอนที่เดินเข้าไปต้องทำตัวให้มั่นเข้าไว้"
"ค่ะ" เธอร่ำเรียนมาทุกอย่าง แม้แต่การเดินเข้างาน
นักข่าวที่รอทำข่าวอยู่หน้างานต่างก็รีบกรูกันเข้ามาเก็บภาพ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานเดินเชิดหน้าเข้ามาพร้อมกับภรรยาของพลโทพงศธร ซึ่งตอนนี้ผู้เป็นสามีอยู่ในงานนั้นแล้ว
พอเดินพ้นด่านของนักข่าวเข้ามาในงาน ก็เริ่มมีสายตาของไฮโซหลายคู่ที่จับจ้องมา
"ไม่ต้องไปสนใจใครทั้งนั้น วันนี้รามสูรมา หนูต้องเป็นคู่เต้นรำของเขาให้ได้"
"อะไรนะคะ?!" จากที่ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่รอยยิ้มนั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว
"อย่าทำให้แม่ผิดหวัง รู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
"ค่ะ"
"มางานนี้ด้วยเหรอ"
พอเสียงนี้ดังขึ้นหญิงสาวที่กำลังยืนคุยอยู่กับแม่รีบหันกลับไปมองด้านหลัง
"รันเวย์?"
"สวยแทบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย ทีแรกคิดว่าทักคนผิดซะอีก"
"นายก็มางานนี้เหรอ"
"มาส่งคุณแม่ เดี๋ยวก็กลับแล้ว" ขณะที่กำลังคุยกับสโรชาสายตาของรันเวย์มองดูหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"คนนี้แม่เราเอง"
"แม่? ท่านออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ" วันนั้นรันเวย์ยังจำได้ว่าเจอเธออยู่ที่โรงพยาบาลของพี่ชาย และสโรชาก็บอกว่ามาเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่
สโรชารีบหันกลับไปมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งตอนนี้นางก็มองมาแบบไม่พอใจมาก
"เราขอตัวก่อนนะ"
"เอ้า..ก็เลยยังไม่ได้พูดอะไรกัน" รันเวย์มองตามสองแม่ลูกที่เดินเข้าไปในงาน (บางคนอาจจะแปลกใจว่ารันเวย์เป็นใคร เขามาจากเรื่องเมียขัดดอกค่ะ)
จังหวะที่มองตามสโรชาเข้าไป รันเวย์แอบแปลกใจ ทำไมทุกคนถึงได้มองมาที่ตัวเอง แต่ก็รู้สึกว่าสายตานั้นมองผ่านเลยไป จนเขาต้องได้มองดูด้านหลัง
"คุณรามสูรมาจริงด้วย" เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของผกาแก้วหรอก แต่เป็นเสียงกรองแก้วคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกัน
"คุณรามสูรมาแล้วครับท่าน" คนสนิทรีบมารายงานท่านพลเอกผู้เป็นบิดาของรามสูร
"ไปตามมาที่นี่"
"เข้าไปสิ" กรองแก้วกระซิบบอกลูกสาว แต่เสียงนี้ไม่ได้มีแค่กรองแก้วหรอก ผกาแก้วก็บอกให้สโรชาเข้ามาเช่นกัน
แทนที่สโรชาจะทำตามคำสั่งแต่เธอแอบหลบหน้า ไม่อยากให้เขาเห็นเลยด้วยซ้ำ
"โอ้ย" หญิงสาวร้องเจ็บเบาๆ เมื่อถูกหยิกเข้าที่แขนเพราะขัดคำสั่ง
"ยังไงวันนี้ต้องเป็นคู่เต้นรำของรามสูรให้ได้ อย่าให้ลูกสาวของคุณนายกรองแก้วเข้าใกล้ ถ้าทำตามคำสั่งไม่ได้คงรู้นะว่าคนที่อยู่โรงพยาบาลจะมีชะตายังไง"