บทนำ
บทนำ
สองขีด !!
หญิงสาวยืนมองผลตรวจการตั้งครรภ์ด้วยความตกใจ เธอมั่นใจว่าผลตรวจจะต้องผิดพลาดแน่ ๆ เธอลองตรวจเพิ่มอีกหลายอัน แต่ไม่ว่าจะตรวจอีกสักกี่อันผลที่ได้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
“เป็นไปไม่ได้ เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นในเมื่อเรา...”
ไอลดากลืนสิ่งที่กำลังพูดลงคอด้วยความยากลำบาก ขาของเธอสั่นเสียจนพยุงตัวไม่ไหวจึงค่อย ๆ นั่งลงด้วย ความช็อก
มือของเธอลูบลงบนหน้าท้องอย่างแผ่วเบา ในหัวก็คิดหนักว่าต่อไปจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ดี
“หนูไม่น่ามาเลือกเกิดกับคนแบบแม่เลย แม่มันคนเห็นแก่ตัวที่ฉวยโอกาส อีกอย่างถ้าพ่อของหนูรู้เข้า เขาก็คงจะไม่ยอมรับพวกเราอยู่ดี ฮึก”
ไอลดานึกเห็นใจเจ้าก้อนที่กำลังก่อร่างสร้างเนื้ออยู่ภายในตัวเธอ แน่นอนว่าเรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะพ่อของเด็กคนนี้
ไอลดา เธอคือเด็กสาวหน้าตาน่ารักสุภาพเรียบร้อย เธอเป็นเด็กกำพร้าเพราะสูญเสียพ่อแม่ไปตอนอายุสิบขวบ
“สวัสดีจ๊ะหนูน้อย”
ไอลดาจ้องมองหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเธอหน้าตาสะสวย มีสง่าราศี แต่งตัวดูดีจนรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องร่ำรวยมากขนาดไหน แต่ที่น่าแปลกใจก็คงจะเป็นหน้าตาที่ดูเศร้าแม้จะแย้มยิ้มอยู่กับชุดสีดำที่พาให้บรรยากาศรอบตัวหมองหม่นลง
“หนูอยากมีคุณแม่คนใหม่ไหมเอ่ย” เด็กน้อยมองรอยยิ้มที่หญิงสาวคนนั้นพยายามปั้นขึ้นมา
ไอลดายังไม่ไว้ใจใครสักเท่าไรจึงกอดตัวเองแน่นและฝังใบหน้าลงบนเข่าอย่างปิดกั้น หญิงสาวผู้กำลังตีสนิทด้วยถึงกับมีสีหน้าหงอย ๆ แต่เธอก็เข้าใจจึงเลือกจะนั่งลงข้างเด็กน้อยแทนที่จะรู้สึกโมโหใส่
“รู้ไหมหนูน้อย ฉันเพิ่งเสียสามีไปไม่นาน เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนพวกเราจะได้มาที่นี่ด้วยกัน” น้ำเสียงอันแสนเศร้าดังขึ้นจนไอลดาหันไปมอง
“คุณน้าเองก็เสียคนในครอบครัวด้วยรถเหมือนกับ...คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูงั้นหรือคะ” เสียงอันแผ่วเบาและสั่นเครือเอ่ยถามออกมา
“ใช่จ๊ะ”
รอยยิ้มแสนเศร้าถูกส่งมอบมาให้อีกครั้ง ไอลดามองดูด้วยความห่วงใย เธอก็เพิ่งสูญเสียพ่อแม่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยเหมือนกันจึงเข้าใจความเศร้านี้ดี มือเล็ก ๆ ยื่นไปหามือของคนที่โตกว่าแล้วบีบมันเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ
“คุณน้าไม่เศร้านะคะ คุณแม่อธิการเคยสอนหนูว่าเวลาคนตายจากพวกเราไปเพราะถึงเวลาที่พวกเขาต้องกลับสู่อ้อมกอดของพระเจ้า ดังนั้นคนที่ยังอยู่ที่นี่จึงไม่ควรเศร้า ไม่งั้นวิญญาณจะไม่สงบสุข”
“น้ารู้จ๊ะ น้าแค่ยังคงทำใจไม่ได้”
“คุณน้าไม่ร้องนะคะ หนูเองก็เศร้าแต่ก็ไม่อยากเห็น คนอื่นเศร้าด้วยเหมือนกันเพราะงั้นอันนี้หนูยกให้คุณน้าค่ะ ร่าเริงไว ๆ นะคะ”
มือน้อย ๆ ยื่นส่งอมยิ้มรสโปรดให้คุณน้าที่กำลังเศร้าเพื่อจะให้อีกคนได้มีความสุขเหมือนกับเธอที่ได้กินอะไรอร่อย แล้วมีความสุข
“หนูใจดีจังเลยนะ ขอบใจมากจ๊ะ ฉันดูเหมือนจะได้รับความสุขนั้นจากหนูมาบ้างแล้วนะ”
รอยยิ้มมันดูสดใสขึ้นจริง ๆ ตามที่เธอบอกและรอยยิ้มนั้นในสายตาของไอลดามันช่างดูงดงามราวกับเธอได้เจอนางฟ้า
“นางฟ้า”
“อะไรนะ หนูเรียกฉันเหรอ”
“ใช่ค่ะ คุณน้าเหมือนนางฟ้าที่คุณแม่อธิการเล่าให้หนูฟังบ่อย ๆ เลยค่ะ”
“หนูยอฉันแบบนี้ ก็แอบเขินเหมือนกันนะ”
“จริง ๆ นะคะ หนูคิดว่าคุณน้าจะต้องเป็นคนที่ได้รับความสุขจากพระเจ้าเร็ว ๆ นี้แน่ค่ะ”
“แล้วหนูละจ๊ะ เจอกับความสุขที่ว่าหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ ไม่ก็อาจจะไม่เจออีกแล้วก็ได้ แต่หนูจะพยายามมีความสุขให้มาก ๆ เผื่อคุณพ่อกับคุณแม่ที่อยู่
บนสวรรค์ด้วย”
รอยยิ้มกว้างของเด็กน้อยเผยให้เห็นลักยิ้มแสนน่ารัก มันสะกดใจของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก
“งั้นคุณน้ามีเรื่องอยากขอหนูหน่อยจะได้ไหม”
“อะไรเหรอคะคุณน้า”
“หนูช่วยไปอยู่กับคุณน้าแล้วมาเป็นความสุขนั้น
ซึ่งกันและกันกับคุณน้าหน่อยจะได้ไหมเอ่ย”
ไอลดามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
เธอไม่รู้ว่าคุณน้าทำไมถึงเลือกเธอกัน ทั้งที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ก็มีเด็ก ๆ ที่น่ารัก ร่าเริง แจ่มใส่มากกว่าเธอตั้งหลายคน กลับกันตัวเธอเองนี่แหละที่ไม่ได้มีอะไรดีสักอย่างพอจะไปทำให้ใครมีความสุขได้เลยสักนิด
“ไม่ได้งั้นเหรอ” แววตาเศร้ากลับมาอีกแล้ว เธอไม่ชอบเห็นใครต้องเศร้าแบบนี้เลย
“ก็ได้ค่ะคุณน้า แต่หนูจะเป็นภาระคุณน้าเอานะคะ”
“ภาระอะไรกัน คุณน้าน่ะมีทั้งเงิน มีทั้งบ้านที่เป็นสถานที่ปลอดภัยให้หนูเพราะงั้นไม่มีทางที่หนูจะมาเป็นภาระคุณน้าได้หรอกนะ”
แม้ไอลดาจะอยากปฏิเสธก็คงจะไม่ได้ เพราะคุณน้าได้ไปทำเรื่องขอตัวเธอกลับบ้านเสียแล้ว
“จริงสิ เรายังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย ฉันชื่อพิจิกตราแต่หนูต้องเรียกฉันว่าคุณแม่ เข้าใจไหมจ๊ะ”
“เอ่อ...ค่ะคุณ...มะ...แม่”
“ดีมากแล้วชื่อของหนูละจ๊ะ”
“ไอลดา หนูชื่อไอลดาค่ะ” แล้วนี่ก็คือเหตุการณ์ที่
ไอลดาได้เข้ามาสู่ตระกูลหัตถานฤมลวดีจนถึงวันที่เธอได้ทำสิ่งไม่ดีขึ้นมา