พินัยกรรม(2)
ชายหนุ่มรับปากเพื่อให้แม่สบายใจ เมื่อไม่มีพ่อเขาก็เปรียบเสมือนผู้นำของครอบครัว ฉะนั้นต้องดูแลทุกคนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
“จริงสิ แม่ลืมไปเลย อีกไม่กี่วันคุณทนายจะกลับมาจากต่างประเทศ คงจะกลับมาจัดการเรื่องพินัยกรรมให้”
ทั้งที่รู้ว่าจะได้ทรัพย์สินมากมายมหาศาลแต่นวลนางกลับไม่รู้สึกยินดี เพราะของเหล่านี้แลกกับการที่เธอต้องสูญเสียสามีไปตลอดกาล…
ทนายวัยกลางคนเดินทางมาถึงคฤหาสน์พร้อมกับเอกสาร เขาเป็นหนึ่งในคนที่อิศราให้ความไว้วางใจมากที่สุดและมักมอบหมายให้จัดการเรื่องต่างๆ
ชายร่างเล็กขยับกรอบแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่โซฟา เขาหรี่ตามองเอกสารก่อนจะเริ่มอ่านพินัยกรรมของอิศรา
“ข้าพเจ้านายอิสรา ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ไว้เพื่อแสดงว่าเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบบทรัพย์สินต่างๆให้แก่บุคคลต่อไปนี้”
เสียงแหบของทนายดังก้องไปทั่วทั้งคฤหาสน์ ทุกคนต่างนิ่งฟังก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อ
“หนึ่ง…ข้าพเจ้าขอมอบบ้านหลังนี้และอสังหาทั้งหมดมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้าน รวมทั้งเงินในธนาคารทั้งหมดของข้าพเจ้า ให้กับนางนวลนาง ภรรยาของข้าพเจ้า”ทนายวัยกลางคนกระแอมไอเล็กน้อย
“สอง…ข้าพเจ้าขอมอบที่ดินหนึ่งพันไร่ ทองคำและเครื่องเพชรให้กับนางสาวอิสริยา บุตรสาวของข้าพเจ้า”
ลูกสาวคนเล็กถึงกับร่ำไห้ ซาบซึ้งใจที่พ่อนั้นยังคงนึกถึงเธอเสมอ ทรัพย์สินที่ได้รับมีมูลค่าหลายร้อยล้าน แต่ของเหล่านี้ก็ไม่อาจช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของเธอ หญิงสาวยังคงคิดถึงผู้เป็นพ่ออยู่เสมอ และยากที่จะทำใจต่อการจากไป
“สาม…ข้าพเจ้าขอมอบบริษัทและกิจการทุกอย่าง รวมทั้งหุ้นของข้าพเจ้าให้กับนายอัครนัย แต่มีเงื่อนไขว่าอัครนัยจะต้องแต่งงานกลับมาริสาบุตรสาวของปราโมทย์ ถึงจะได้เป็นผู้ถือครองหุ้นและตำแหน่งประธานบริษัท”
ทุกคนนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินแบบนั้น อัครนัยไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องสร้างเงื่อนไขแบบนี้ จึงได้เอ่ยถามทนายเพราะคิดว่าเขาน่าจะรู้ดีกว่าใคร
“ทำไมผมถึงต้องแต่งงานกับมาริสา”
เขาพอทราบว่าพ่อสนิทกับครอบครัวของปราโมทย์มากและเอ็นดูมาริสากับเมธาวิน ถึงขั้นส่งเสียให้ทุนการศึกษาทั้งสอง
“คุณท่านกังวลกลัวว่าคุณนัยจะไม่ยอมแต่งงาน คุณท่านเคยเปรยว่าคุณนัยไม่สนใจผู้หญิง กลัวว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้วยังไม่แต่งงาน จะไร้ทายาทสืบทอดตระกูลครับ”
อัครนัยหันมองผู้เป็นแม่เพื่อขอความเห็น แต่นวลนางไม่ได้กังขาเพราะเธอเองก็เอ็นดูมาริสา หญิงสาวขยันขันแข็ง เรียนเก่ง หัวก้าวหน้า เธอเชื่อว่าหากได้อีกฝ่ายมาเป็นสะใภ้และคอยช่วยเหลืองานในบริษัทจะต้องทำได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน
“แม่ไม่รังเกียจมาริสาหรอกนะ แต่ถ้าลูกไม่อยากแต่งงานแม่จะหาวิธีให้”
ชายหนุ่มส่ายหน้า ไม่รู้ว่าทำไมในใจของเขาถึงไม่รู้สึกต่อต้าน การแต่งงานกับมาริสาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ฉะนั้นชายหนุ่มจึงไม่ได้ปฏิเสธเงื่อนไขที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้
“ไม่เป็นไรครับแม่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปคุยกับครอบครัวอาปราโมทย์เอง”
นวลนางเห็นลูกชายไม่กังวลใจกับเรื่องนี้คนเป็นแม่ก็ไม่ทุกข์ร้อน มาริสาเป็นเด็กดี ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร นวลนางจึงยินดีต้อนรับหากมาริสาจะเข้ามาเป็นสะใภ้ที่นี่…