บท
ตั้งค่า

บทที่5

แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าผู้เป็นนายทำไปเพราะสิ่งใด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยตำหนิย้ำเตือนในฐานะสหาย มิใช่นายบ่าว

หรู่จงประคองร่างสูงของโม่คังมิให้ล้มลงยังพื้นดินที่ยังคงมีน้ำแข็งเกาะพราวทั่วบริเวณ

‘ใจของบุรุษผู้นี้นั้นช่างมั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งนัก’ นั่นคือความคิดของผู้ติดตามทุกคนในขณะนี้

“หึ ๆ เจ้ารู้ดีกว่าผู้ใด สหายข้า”

“คิดว่าหากท่านเป็นอันใดไป แล้วนางจะอภัยให้ข้ารึ” หรู่จงทั้งทอดถอนใจ ทั้งใช้น้ำเสียงตำหนิผู้เป็นนาย

“ไปกันเถอะ…”

สิ่งที่ออกจากปากของโม่คังมิใช่คำตอบ ทว่าคือการเลี่ยงที่จะต่อความโดยเอ่ยในสิ่งมิตรงกับใจออกมาแทน เขารู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป รู้ถึงความเสี่ยงมากกว่าผู้ใด หากในจังหวะการปลดปล่อยพลังนั้น ศัตรูลงมือได้ก่อนตัวเขา ความตายย่อมเกิดขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

‘ข้าพร้อมเสี่ยงกับความตาย แต่ข้าไม่ยอมเสี่ยงที่จะเสียนางไป’

หรู่จงพยักหน้าให้ผู้ติดตามลงมือจัดการทุกอย่างที่เหลือ เขามิใช่ว่าไม่เชื่อในฝีมือของผู้เป็นนาย แต่ทุกอย่างต้องไม่มีคำว่าผิดพลาดเกิดขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง

เหล่าผู้ติดตามชักกระบี่ออกจากฝักอีกครั้ง ก่อนวาดไปยังลำคอของชายชุดดำทั้งหมดที่ยืนนิ่งไร้ซึ่งการรับรู้

ทุกเหตุการณ์ตกอยู่ภายใต้ดวงตาคู่งามที่ยืนตะลึงค้างด้วยความหวาดหวั่น ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้านางเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ในคราแรกนั้นจำต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว

ร่างงามรีบมุ่งกลับไปยังทิศทางเดิมอย่างรวดเร็ว นางต้องไปให้ถึงก่อนกลุ่มของเยว่คัง มิเช่นนั้น ทุกอย่างอาจพังลงก็เป็นได้

ทางด้านที่พักของคณะเดินทาง

ต้วนลี่ถึงกับใบหน้าถอดสี เมื่อคู่ต่อสู้ของเขามิใช่จะล้มได้โดยง่ายอย่างที่คิดเอาไว้ ร่างกายที่ต้องคอยเดินลมปราณพร้อมทั้งรับมือคู่ต่อสู้ไปด้วยนั้น มันช่างหนักหน่วงและกินกำลังของเขาไปมากทีเดียว หากมิทำเช่นนี้ เขาอาจพ่ายให้แก่คู่ต่อสู้ที่อ่อนวัยกว่าเป็นแน่

สายฝนที่ยังซัดกระหน่ำ มันทำให้ร่างกายของเขาจำต้องปลดปล่อยความร้อนออกมาให้มากกว่าปกติเพื่อต้านทานความหนาวเย็นที่เปรียบ

เสมือนเข็มนับพันเล่มกำลังทิ่มแทงไปทุกอณูของร่างกายก็มิปาน

เจี่ยเต๋าเองก็รู้สึกนับถือในความแข็งแกร่งของต้วนลี่มิน้อย ด้วยวัยของเขานั้นอ่อนกว่ามาก ทว่ายังไม่อาจล้มคนตรงหน้าได้เลย แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังฝืนกำลังต้านทานเอาไว้ แต่หากว่ามองในอีกมุมก็จะเห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองนั้นก็ยังด้อยประสบการณ์อยู่มากทีเดียว

ทั้งคู่ใช้กำลังในการห้ำหั่นกันอย่างสุดกำลัง สายฝนที่ยังคงเทกระหน่ำประสานเข้ากับเสียงอาวุธที่ปะทะกันอย่างดุเดือด ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใคร

ฉึก!

ต้วนลี่ถึงกับดวงตาเบิกกว้าง เมื่อความเจ็บปวดเกิดขึ้นจากทางด้านหลัง

“เจ้าสละลมหายใจเพื่อข้าได้รึไม่”

เป็นเสียงหวานของคนที่เขาจำได้ขึ้นใจ นายหญิงผู้ที่เขาปกป้องมาตั้งแต่เยาว์ บัดนี้ นางเอ่ยปากขอลมหายใจของเขา ช่างเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายกว่าสิ่งอื่นใดในชีวิต

“กรี๊ดดด! ขะ…ข้า พี่เจี่ยเต๋า ช่วยอี้เหมยด้วย”

เจี่ยเต๋าเพ่งสายตาฝ่าความมืดไปยังคู่ต่อสู้ที่เห็นเป็นเพียงเงาร่างอันเลือนราง ซึ่งบัดนี้ได้ทรุดลงยังพื้นดิน พร้อมเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ควรจะอยู่ภายในรถม้า แต่กลับกลายเป็นว่านางมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน

“แม่นางอี้เหมย เกิดสิ่งใดขึ้น ไยจึงลงมาอยู่ตรงนี้ได้เล่า”

“พี่เจี่ยเต๋า ข้ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ ต้วนลี่มิใช่ลุงของข้า เขาบังคับให้ข้าบอกทุกคนเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นจะฆ่าข้าเสีย ข้า…”

คำพูดรัวเร็วของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มไม่คิดเอ่ยสิ่งใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งยังไม่ได้สนใจหญิงสาวเช่นกัน เจี่ยเต๋าทำเพียงก้าวจากไปยังทิศทางของการต่อสู้อีกด้าน พร้อมเสียงกระพรวนในมือดังขึ้นเป็นจังหวะเพื่อมิให้เกิดการลงมือผิดของฝ่ายตน

อี้เหมยที่ยืนตัวสั่งงันงกในคราแรกเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเหลือบตามองไปยังร่างของต้วนลี่ นางถูกสอนมาให้รู้จักการเอาตัวรอด และหากต้วนลี่ยังอยู่ เท่ากับนางอาจต้องถูกกำจัดไปพร้อม ๆ กัน แล้วไยนางต้องให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นด้วยเล่า

“นับว่าเจ้าโชคดีที่ตายด้วยน้ำมือของข้า มิใช่คนพวกนั้น คนของเจ้าทำงานพลาด ข้าไร้ทางเลือก”

เอ่ยจบ ร่างงามได้หมุนกายจากไป โดยไม่แม้แต่จะใส่ใจมือหนาที่สั่นระริกที่หวังคว้าจับชายกระโปรงของนางเอาไว้ด้วยเรี่ยวแรงที่แทบไม่มีเหลือแล้ว ซึ่งต้วนลี่ทำได้แค่เพียงยกมือค้างกลางอากาศ ก่อนจะตกลงข้างลำตัวด้วยความสิ้นหวัง เขาภักดีต่อนางแต่ผู้เดียว ทว่า สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับกลายเป็นเช่นนี้หรือ ตายด้วยน้ำมือศัตรูยังจะดีกว่าฝีมือของผู้เป็นนายหลายร้อยเท่านัก

ลมหายใจของต้วนลี่เริ่มติดขัด ความหนาวเหน็บเข้าเกาะกุมไปทั่วร่าง เขากำลังจะตายและเป็นการสิ้นลมที่มิอาจคาดเดาได้ว่า มันมีค่าจริงอย่างที่นายสาวคิดหรือไม่ เขาเกิดและเติบโตมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว ยามจากก็ไร้แม้แต่คนเหลียวมอง...เช่นกัน

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยาม ทุกอย่างจบลงด้วยกลิ่นคาวเลือดพร้อมการหายไปของหรู่จงและผู้ติดตาม จะมีเพียงชายหนุ่มชาวบ้านที่ปรากฏตัวขึ้นด้วยความตื่นกลัวจากเหตุการณ์นองเลือดในครั้งนี้

โม่คังก้าวยาว ๆ ตรงไปยังหญิงสาวเพียงคนเดียวซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางผู้อารักขา

หมับ!

มือหนาคว้าร่างบางเขาสู่อ้อมกอด พร้อมทั้งลูบไปตามท่อนแขนกลมกลึง ใจที่หวาดหวั่นค่อย ๆ สงบลงเมื่อเห็นนางยังปลอดภัยอยู่ ความเจ็บปวดที่บีบอัดอยู่ในร่างกายเสมือนว่าสูญหายไปเมื่อร่างงามแนบอยู่กับอกแกร่ง

“เจ้าปลอดภัยดีรึไม่ อี้เอ๋อร์ เจ็บที่ใดอีกหรือไม่”

“ข้าปลอดภัยเจ้าค่ะ”

หญิงสาวตอบเสียงอู้อี้อยู่กับอกของชายหนุ่ม แม้จะพยายามเงยหน้าขึ้นมองคนที่โอบร่างตนอยู่ ทว่ากลับถูกมือหนากดเอาไว้แน่น หรู่อี้ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น แม้จะยังไร้แสงสว่าง ทว่า ความเขินอายก็เริ่มลามเลียไปทั่วทั้งใบหน้า

ทุกคนต่างรีบจัดการกับเศษซากของการต่อสู้ที่จบลงแล้วให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม โดยผู้ที่บาดเจ็บหนักให้ดูแลตนเองไปก่อน หรู่จงในคราบของชายชาวบ้านคอยชำเลืองมองผู้เป็นนายอยู่เป็นระยะ ด้วยอาการของโม่คังยังคงไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง แต่เขายังหาจังหวะเข้าแทรกหนุ่มสาวคู่นั้นมิได้เลย

‘มิห่วงตนเองบ้างเลย ข้าจนคำพูดเสียจริง’ ชายหนุ่มได้แต่ทอดถอนใจกับความรั้นของผู้เป็นนาย แต่เขาจะทำสิ่งใดได้เมื่อมันคือความประสงค์ของอีกฝ่าย

หรู่จงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของโม่คังด้วยความคะนึงหา นางเติบโตมากนักเวลานี้ ความงามมิเป็นรองผู้ใดเลย ทั้งยังเข้มแข็งยิ่งนัก นานเพียงใดแล้วนะที่เขามิได้สวมกอดน้องน้อยนับตั้งแต่นางจากบ้านมา

“ท่านแม่ทัพ”

เจี่ยเต๋าเอ่ยเบา ๆ ข้างกายผู้นำของตน ก่อนจะโน้มกายเข้าใกล้

หรู่จงเพื่อบอกกล่าวบางเรื่องที่เขาคิดว่ามันสำคัญมากทีเดียว

“ตามน้ำไป อย่าเพิ่งทำให้ไก่ป่าตัวงามแตกตื่นก่อนจะถึงเวลา” หรู่จงเอ่ยเหมือนเปรยกับสายลม เจี่ยเต๋าเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน

“ขอรับ”

ทั้งคู่ไม่เอ่ยสิ่งใดต่อกันอีก ทำเพียงเดินไปช่วยผู้อื่นจัดการตั้งค่ายพักขึ้นมาใหม่ แม้ฝนจะเริ่มซาลงบ้างแล้ว ทว่า ฟ้ายังคงมืดเกินกว่าที่จะเสี่ยงเคลื่อนย้ายที่พักไปยังจุดอื่น

ห่างออกไปอีกด้าน ร่างบางที่เปียกโชกเพ่งมองไปยังสองร่างที่โอบกอดกันแนบแน่นด้วยความริษยา มือบางบีบกันแน่น ทว่า นางกลับมิรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

‘คนเช่นข้าจะไม่มีวันพ่ายแพ้ ใจข้ารวดร้าวเพียงใด เจ้าก็ต้องได้รับผลตอบแทนมากกว่าข้าหลายเท่านัก หรู่อี้!’ 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel