ตอนที่ : 05
ห้างสรรพสินค้าใหญ่
ต้นน้ำไปห้างสรรพสินค้าโดยมีลูกน้องของเฟยหลงเป็นคนขับรถไปให้ และมีบอดี้การ์ดตามไปอีกสองคน มันดูเกร็งๆ ไปหน่อยแต่ก็เพื่อความปลอดภัย
“คุณต้นน้ำเข้าไปเลือกเสื้อผ้าเลยครับ เดี๋ยวพวกผมรออยู่ข้างนอก”
“ครับ เดี๋ยวผมออกมานะ”
ต้นน้ำเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้า เพราะเห็นว่าร้านนี้มันสวยดี แต่พอได้จับและดูราคาก็ถึงกับต้องวางแล้วเดินออกมาเลย ราคาแพงที่จับต้องไม่ได้ ราคาที่มากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนในเมื่อก่อนอีก
แบบนี้สินะคนรวยถึงชอบมาซื้อกัน มันสวยหรูและราคาแพงมากจริงๆ
“พี่ๆ”
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“ไปกันเหอะครับ”
“ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ร้านบริการไม่ดีหรือครับ หรือว่ายังไงผมจะได้แจ้งผู้จัดการ”
“เปล่าหรอกครับ ทำไมต้องแจ้งด้วยล่ะครับ”
“ห้างนี้คุณเฟยหลงเป็นเจ้าของครับ หากมีเรื่องไม่ดีก็ต้องแจ้งผู้จัดการเพื่อให้มาจัดการครับ”
“ถึงว่า…” ต้นน้ำพึมพำออกมาเบาๆ เพราะห้างนี้เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแล้ว และหน้าห้างก็มีรูปของเฟยหลงและพ่อของเขาติดอยู่ภาพเบ่อเร่อ ตอนแรกก็แค่คิดว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับทางห้างหรือเปล่า แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว
“แล้วไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ”
“ของมันแพงจัง ไปเดินตลาดได้ไหม”
“….” คำพูดของต้นน้ำทำให้บอดี้การ์ดถึงกับมองหน้ากันแล้วพากันขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“มันแพงจริงๆ นะครับ เกินกำลังที่ผมจะซื้อ”
“บัตรเครดิตของคุณเฟยหลงที่ให้ไว้รูดได้เลยนะครับ วงเงินไม่จำกัด หรือจะลงบัญไว้ให้ผู้จัดการเอาไปให้หลี่เฉียงจัดการได้ครับ”
“แต่มันแพงไปนะครับ เสื้อผ้าของผมไม่จำเป็นต้องแพงขนาดนั้นหรอก”
“งั้นก็ไม่มีที่ให้ซื้อแล้วครับ”
“แล้วตลาดล่ะครับ ตลาดน่าจะมีขาย”
“คุณเฟยหลงอนุญาตให้มาแค่ห้างนะครับ ผมเกรงว่าที่แบบนั้นคุณเฟยหลงคงไม่อนุญาตให้ไป”
“งะ งั้นเหรอครับ”
“ไปเลือกเถอะครับ คุณเฟยหลงไม่ว่าอะไรหรอก”
“ก็ได้ครับ”
ต้นน้ำเดินกลับเข้าไปใหม่ ก่อนจะเลือกเสื้อผ้ามาเท่าที่พอใส่ เพราะที่เตรียมมามันเก่าและแทบจะดูไม่ต่างอะไรกับขอทานแล้ว และทุกครั้งที่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้จะถูกเขามองแรงตลอด
“ทั้งหมดหนึ่งแสนสามหมื่นสี่พันบาทค่ะ”
“นะ นี่ครับ แค่ใช้บัตรอันนี้อย่างเดียวใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
พนักงานของร้านรับบัตรไปและรูดเพื่อจ่ายค่าสินค้าที่ต้นน้ำซื้อ เสื้อผ้าไม่กี่ตัวแต่ราคาปาไปหลักแสนแล้ว ถ้าซื้อมากกว่านี้คงได้เสียเยอะขึ้นอีกแน่ๆ
ทางฝั่งของเฟยหลง
บริษัทตระกูลเฟย
คลิ๊ก~
ยอดเงินจำนวน 134,000 บาท ถูกจ่ายให้กับร้าน ซีซีClothes เวลา 12:35 น.
“หลี่เฉียง”
“ครับคุณเฟยหลง”
“เด็กนั่นมาที่ห้างเหรอ?”
“อ่า ใช่ครับ ผมจะบอกตั้งแต่คุณเฟยหลงออกมาจากห้องประชุมแล้ว แต่ลืมต้องขออภัยด้วยครับ”
“อืมช่างเถอะ บอกหวังหย่งด้วยว่าช่วงบ่ายฉันจะเข้าไปที่นั่น”
“ครับ ผมจะแจ้งให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
เฟยหลงไม่ได้สนใจกับเงินที่ออกจากบัญชีเพราะมันเล็กน้อยสำหรับเขามาก และตอนนี้เขาก็มีงานที่ต้องจัดการและมันสำคัญมากกว่าต้นน้ำ
โกดังเก็บย่านชานเมือง
“สวัสดีครับคุณเฟยหลง”
“งานที่นี่เรียบร้อยดีหรือเปล่า”
“ครับ เรียบร้อยดีครับ เดี๋ยวอีกล็อตนึงจะมาส่งช่วงเย็นๆ ครับ ล็อตล่าสุดที่ส่งมาผมตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติครับ ทุกอย่างเรียบร้อย”
“ดี แบบนี้ค่อยน่าคบค้าด้วยหน่อย”
ที่ผ่านมาเขามักจะมีปัญหาในการซื้อขายสินค้าแบบนี้บ่อย เพราะพวกคนเหล่านั้นมักจะเอาของส่งมาแบบชุ่ยๆ แลกกับเงินจำนวนมหาศาล และพอมีคนรู้ว่าเขาจัดการกับคนแบบนี้ยังไง บ้างก็ตัดการซื้อบ้างแต่บ้างก็ยังค้าขายด้วยอยู่ เนื่องจากราคาที่ดี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความจริงใจเช่นกัน
“ฉันจะเข้าไปตรวจโกดังกับหวังหย่ง นายรออยู่ข้างนอกนี่แหละ”
“ครับคุณเฟยหลง”
ทั้งสองลูกน้องที่เป็นบอดี้การ์ดที่เฟยหลงไว้ใจมากที่สุดคือฝาแฝดที่พ่อของเขาช่วยเหลือมาจากพ่อแม่ที่ใจร้าย และให้ทั้งสามเป็นเพื่อนกันแม้เฟยหลงจะอายุมากกว่าก็ตาม
“เสร็จรอบนี้พักไปยาวๆ ก่อนนะ”
“ได้ครับคุณเฟยหลง”
“นายจะกลับไปช่วยหลี่เฉียงที่บริษัทเหมือนเดิม หรืออยากจะพักร้อนก็ตามใจ ฉันให้นายทำงานหนักมาครึ่งปีแล้ว จากนี้จะพักหรือจะทำต่อเลือกเอาเอง”
“ครับ ไว้ผมขอคิดอีกทีนะครับ”
“อือ…”
ผ่านไปสักพัก
“คุณเฟยหลงจะกลับเลยหรือจะให้ผมไปส่งที่บริษัทเหมือนเดิมครับ”
“ไปที่คลับ ฉันอยากดื่ม”
“ได้ครับ”
เฟยหลงไปที่คลับของตัวเอง เพราะยังไม่อยากลับบ้านในเวลานี้ ชีวิตอิสระของเขาก่อนหน้าที่จะมีต้นน้ำเข้ามามันก็มีแค่นี้ ทำงาน เที่ยวคลับ และจบที่พาเด็กกลับไประบายอารมณ์ เขาชอบการมีเซ็กซ์ที่ไม่มีการผูกมัดหรือสานสัมพันธ์ต่อ เพราะเขามีรสนิยมที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนมากไม่ค่อยมีคนรับได้แต่ที่ยอมก็เพราะเงิน
“คุณเฟยหลงขา”
“….”
“รับเด็กไปคอยดูแลหน่อยไหมคะ”
“ไม่ล่ะ ฉันอยากอยู่คนเดียว ห้ามให้ใครมารบกวนด้วย”
“ได้ค่ะคุณเฟยหลง”
เขานั่งดื่มไปอย่างเงียบๆ คนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวนและไม่มีอารมณ์ที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับใครเลย เขาแค่อยากเมาก็เท่านั้น
23:50 น.
คฤหาสน์ตระกูลเฟย
แกร๊ก~
ต้นน้ำสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเปิดประตูก่อนที่จะผงกศีระษะขึ้นมองดูว่าใครเป็นคนเข้ามา แต่การเปิดประตูเข้ามาในรูปแบบนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นใคร
แต่นี่มันดึกมากแล้ว เขาเพิ่งกลับมาเอง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเท่ากับที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องกลางดึกแบบนี้
“ฮะ เฮียเฟย อึกอุ๊บ…อื้อ!!” ร่างหนาพุ่งตัวเข้ามาหาคนบนเตียง ริมฝีปากร้อนที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จูบลงอย่างรุนแรงทำเอาอีกฝ่ายทั้งตกใจและพยายามผลักไสเขาออก แต่เพราะเฟยหลงตัวใหญ่กว่ามากจึงไม่สามารถผลักเขาออกไปได้
“อยู่นิ่งๆ ดิวะ”
“อึก ฮะ เฮียพอก่อน…”
ต้นน้ำไม่ทันได้เตรียมตัวเลย แม้จะถูกเขาเล้าโลมก่อนแบบนี้แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีอารมณ์เลยสักนิด
เสื้อผ้าของต้นน้ำถูกถอดออกไปจนหมด เรือนร่างสวยเปลือยเปล่าแม้ภายในห้องจะมืดแต่ก็พอจะได้เห็นสิ่งตรงหน้า
“อ้าขากว้างๆ ถ้าไม่อยากเจ็บ”
“อึก…” เพราะคิดว่าไม่สามารถห้ามเขาได้ ต้นน้ำทำได้เพียงต้องยอม
ขาเรียวแยกออกจากกันอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะขยับตัวเข้าหาจนแก่นกายใหญ่สัมผัสกับรูจีบสวย
พั่ก!
“อึกอะ อ๊า!” คนตัวเล็กสะดุ้งไม่เป็นท่าเมื่อแก่นกายใหญ่กระแทกเข้าช่องทางแคบอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ส่วนนั้นรู้สึกเจ็บแปล๊บจนต้องเม้มปากเข้าหากันแน่น
มันไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลย ไม่ว่าจะเซ็กซ์ครั้งไหน เพราะเขาทั้งรุนแรงและไม่ได้สนใจว่าคนใต้ร่างจะเจ็บปวดมากแค่ไหน
สวบ! สวบ! สวบ!
“อึกอ๊ะ…” ต้นน้ำพยายามกลั้นเสียงเพราะมันเจ็บจนพูดไม่ออก ขนาดตรงส่วนนั้นของเขามันไม่ธรรมดาเลย และทุกครั้งที่สอดใส่เข้าไปก็ทำให้เจ็บจนด้านในแทบจะฉีกออก
“อืมอ่า…”
“ฮะ เฮีย…ผะ ผมเจ็บ”
“หุบปาก!”
เสียงตวาดที่ดังใส่ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับน้ำตาไหลพรากออกมา
“อึกอืม…จะร้องไห้ทำไมวะ”
“ทะ ทำไมต้องเสียงดังใส่กันด้วยล่ะครับ”
“….” อีกฝ่ายเงียบไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำนั้น เพียงแต่แรงที่เขากระแทกใส่มันผ่อนเบาลง ก่อนที่ต้นน้ำจะรู้สึกถึงความอบอุ่นจากน้ำกามที่ปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางรัก
“แฮ่ก แฮ่ก เฮียครับ…”
“อะไร”
“มีกลิ่นเหล้า เฮียเมาหรอครับไหวหรือเปล่า”
“ห่วงตัวเองก่อนเหอะ”
“คือผม…”
“เงินค่าตัวนาย”
เขาหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อวางไปบนโต๊ะที่หัวเตียงก่อนจะใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไป
ต้นน้ำลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยขาที่อ่อนแรงและสั่นเทา ก่อนจะพบว่าคราบน้ำกามที่ไหลทะลักออกมามันมีเลือดจางๆ ผสมอยู่ด้วยเล็กน้อย
นั่นคงจะเป็นเพราะการเสียดสีอย่างรุนแรงจึงทำให้มีเลือดไหลออกมา แต่อาการเจ็บปวดก็ไม่ได้มากเหมือนกับครั้งก่อน
แกร๊ก~
“ผมนึกว่ากลับไปแล้ว”
“อืม ไปเอายามาให้หน่อย”
“ยาอะไรครับ”
“แก้ปวด”
“ผมมีอยู่นะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”
ต้นน้ำรีบเดินไปหยิบยาที่ตนเองซื้อมาอย่างร้อนรน ก่อนจะยื่นให้กับเขาพร้อมกับน้ำ
“ตัวเฮียร้อนนะครับ”
“อย่ามาแตะต้องฉัน”
มือหนาปัดมือเล็กที่แตะหน้าผากของเขาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสเนื้อตัวของเขา
“ผมก็แค่เป็นห่วงเฮีย เห็นว่าตัวร้อน”
“เอายามาให้ฉันก็พอ”
เขารับยาไปและกินมันก่อนที่จะเดินออกไปจริงๆ
“เฮ้อ…เป็นขนาดนั้นแล้วยังทำเก่งอยู่อีก”
ต้นน้ำถอนหายใจออกมา ทั้งที่ตัวเองไม่สามารถสนใจก็ได้แต่แบบนั้นก็จะเป็นการใจดำมากเกินไปที่เห็นคนไม่สบายตรงหน้าแล้วจะปล่อยผ่าน
เช้าวันต่อมา
“อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะคุณต้นน้ำ”
“อ่าว เฮียยังไม่ลงมาหรอครับ”
“ไม่นะคะ”
“….” ต้นน้ำยืนนิ่ง พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะเขาไม่สบาย จนป่านนี้เขายังไม่ลงมาคิดว่าคงไม่สบายแน่ๆ
“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“ป้าครับ รบกวนเตรียมโจ๊กกับยาแก้ไข้ให้ผมหน่อยสิครับ เมื่อคืนเห็นว่าเฮียตัวร้อน ผมหายาให้กินแล้วไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือเปล่า”
“ได้ค่ะๆ”
ต้นน้ำยกถาดใส่ถ้วยโจ๊กพร้อมกับยาขึ้นไปก่อนจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของเฟยหลง
ก๊อกๆๆๆ
“ฮะ เฮียครับ คือว่าผมเอาโจ๊กกับยามาให้ครับ เปิดประตูให้ผมหน่อย”
“…..” ไม่มีการตอบรับจากคนด้านใน เสียงเงียบกริบราวกับไม่มีคนอยู่ จะเข้าไปก็ไม่ได้เพราะถูกล็อคจากด้านใน
ก๊อกๆๆๆ
“เฮียเฟยครับ ผมขอเข้าไปนะครับ”
ต้นน้ำถือวิสาสะเอากุญสำรองที่ได้มาจากป้าแม่บ้านไขแล้วเปิดเข้าไปด้านในห้องของเขา
ต้นน้ำมองรอบๆ ตัวก่อนจะเข้าไปถึงเตียงของเขา แต่ทว่าไม่เจอเขานอนอยู่ที่เตียง
แกร๊ก!
“เข้ามาได้ไง?”
“คะ คือผมขอโทษครับ ผมเคาะประตูอยู่นานแล้วแต่เฮียไม่มาเปิด ก็เลยเอากุญแจไขเข้ามา เมื่อวานเฮียตัวร้อนผมกลัวเฮียจะซมพิษไข้เลยเอาโจ๊กกับยามาให้”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร เอาของที่นายถือมากลับไปด้วยฉันไม่กิน”
“คะ ครับ”
“เดี๋ยว…”
“ครับ?”
“ครั้งหน้าอย่าเข้ามาในห้องของฉันไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”